รอยเตอร์ส - พญามังกรเผย “หยุด” ถมทะเลในทะเลจีนใต้แล้ว เรียกร้องชาติอาเซียนจับเข่าคุยคลี่คลายข้อพิพาท แต่ฟิลิปปินส์สวนกลับหยุดถมแต่ผุดสิ่งปลูกสร้างอื่นต่ออีกอยู่ดี ด้านสหรัฐฯ กังวลจีนยกกองทหารเข้าประจำการเกาะเทียมแห่งใหม่
สืบเนื่องจากการประชุมด้านความมั่นคงของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) ที่สมาชิกทั้งหมด ตลอดจนมหาอำนาจโลกอย่างอเมริกาและจีน ต่างส่งตัวแทนเข้าร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันพุธ (5 ส.ค.) ที่ผ่านมา
หนึ่งประเด็นสำคัญของการหารือคราวนี้ย่อมหนีไม่พ้นข้อพิพาทเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ แม้ก่อนหน้านี้จีนกล่าวว่าไม่ต้องการหยิบยกขึ้นโต๊ะ แต่บรรดารัฐมนตรีจากหลายชาติรวมถึงเจ้าภาพอย่างมาเลเซียก็ปฏิเสธ โดยระบุว่ามันเป็นเรื่องสำคัญเกินกว่าจะปล่อยปละละเลย
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน จึงต้องตอบคำถามนักข่าวที่ว่า ‘จีนจะหยุดการถมทะเลฯ ตามที่หลายชาติเรียกร้องหรือไม่’ ซึ่งเขากล่าวสั้นๆ ว่า “จีนหยุดเรียบร้อยแล้ว … คุณขึ้นเครื่องบินไปดูก็เห็น”
“จีนและอาเซียนต่างปรารถนาจะสร้างความก้าวหน้าของแนวทางปฏิบัติ (Code of Conduct) ในประเด็นทะเลจีนใต้ โดยส่งเสริมการเจรจา ความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และการรักษาไว้ซึ่งความสงบสันติและเสถียรภาพของภูมิภาค”
ถ้อยคำของหวังได้พลิกท่าทีก่อนหน้านี้ของจีน ที่เคยป่าวประกาศเมื่อเดือนมิ.ย. ว่างานถมทะเลฯ บางส่วนใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์จะเสร็จสิ้นในไม่ช้า และจะเดินหน้าพัฒนาสิ่งปลูกสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กิจการพลเรือนต่อทันที
จีนนั้นอ้างความเป็นเจ้าของผืนน้ำทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ขณะฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน อ้างเพียงบางส่วน ซึ่งเหลื่อมล้ำทับซ้อนกันอยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าสายสำคัญที่คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
ด้านสหรัฐฯ และญี่ปุ่นก็ส่งสัญญาณเตือนพฤติกรรมของจีน ซึ่งถูกสงสัยจุดประสงค์แท้จริงของการสร้างเกาะเทียมว่าคือ ‘การแผ่ขยายขอบเขตอำนาจทางการทหาร’ หรือไม่ โดยนายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้พูดคุยเรื่องนี้กับหวังโดยตรง
“จีนมุ่งมั่นจะทำงานร่วมกับประเทศที่รู้สึกวิตกกังวลเพื่อขจัดความขัดแย้งด้วยการเจรจาโดยสันติอยู่เสมอมา” แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศของจีนอ้างคำที่หวังเอ่ยกับเคอร์รี “ประเทศที่มิได้ตั้งอยู่ในภูมิภาคควรเคารพความพยายามในการแก้ไขของจีนและชาติอาเซียน”
อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ นายชาร์ลส์ โฮเซ กล่าวว่าจีนยอมยุติการถมทะเลเพราะสร้างเกาะเทียมเสร็จแล้ว แต่แผนงานส่วนที่สองซึ่งเป็นโครงสร้างสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะก็ยังเดินเครื่องต่อไป ฟิลิปปินส์มองว่ากิจกรรมเช่นนี้เป็นการบั่นทอนความมั่นคง
ขณะเดียวกันแถลงการณ์จากผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น นายมิโนะรุ คิอุชิ ก็เปล่งเสียงหวั่นวิตกต่อการกระทำเพียงฝ่ายเดียวของจีน ที่เปลี่ยนแปลงรูปการณ์ปัจจุบันและทวีความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ไม่ว่าการถมทะเลขนาดใหญ่ การก่อสร้างฐานที่มั่น และเป้าหมายการใช้งานทางการทหาร
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ รายหนึ่งเล่าว่า เคอร์รีบอกกับหวังว่าวอชิงตันไม่เข้าไปมีบทบาทในการอ้างอำนาจอธิปไตยในทะเลจีนใต้ของจีน โดยคาดหวังจะเห็นการแก้ไขปัญหาอย่างสันติและสอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ก็อดกังวลไม่ได้กับ “การปรับเปลี่ยนสู่แนวทางทางการทหาร” บนเกาะเทียมนั้น
“เขากระตุ้นจีนและผู้อ้างกรรมสิทธิ์ชาติอื่นๆ ให้หยุดการกระทำอันก่อปัญหายุ่งยาก เพื่อสรรหาพื้นที่สำหรับการเจรจาทางการทูต” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว นอกจากนั้นยังเล่าถึงเรื่องอื่นๆ ที่ทั้งสองแลกเปลี่ยนความเห็นกัน อาทิ กำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเดือนก.ย. ความมั่นคงบนโลกไซเบอร์ และสิทธิมนุษยชนในจีน
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยประชาชนจีน (Renmin University) นายสือ อิ่นหง มองว่าการเน้นย้ำว่าจีนหยุดการถมทะเลนั้น หวังคงกำลังพยายามลดระดับการโต้เสียง สร้างสรรค์บรรยากาศเชิงบวกให้กับทริปเยือนสหรัฐฯ ของสี
“แต่หลังจากจบทริปฯ ผมเชื่อว่าความตึงเครียดจะกลับมาอีก เพราะทั้งปักกิ่งและวอชิงตันต่างไม่มีใครยอมสูญเสียผลประโยชน์หลักของตัวเองในทะเลจีนใต้”
ภาพถ่ายจากดาวเทียมเมื่อไม่นานนี้เผยว่าจีนลุล่วงงานก่อสร้างลานบิน ความยาว 3,000 เมตร บนเกาะเทียมหนึ่งในเจ็ดแห่งที่ผุดขึ้นมาใหม่บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ กล่าวว่า ลานบินนั้นยาวเพียงพอสำหรับอากาศยานของกองทัพจีน ซึ่งเพิ่มโอกาสเข้าถึงใจกลางพื้นที่ทางทะเลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่ปักกิ่งมากขึ้น