นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ กล่าวถึงกรณีที่มีชาวอังกฤษประกาศชัดเจนว่าต้องการเข้าร่วมกับกองกำลังรัฐอิสลามที่กำลังก่อเหตุในอิรักและซีเรียขณะนี้ ว่า เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และการที่รัฐบาลไม่สามารถยับยั้งคนกลุ่มดังกล่าวไม่ให้กลับเข้าประเทศได้นั้น ถือเป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่รัฐมีสิทธิยึดหนังสือเดินทางของผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และมีสิทธิสั่งห้ามไม่ให้ชาวอังกฤษที่ต้องสงสัยเข้า หรือออกนอกประเทศระยะเวลาหนึ่ง
แนวทางดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน ที่ถูกสังหารโดยสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามในอิรัก โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ามือสังหารที่อยู่ในชุดดำอาจจะเป็นชาวอังกฤษ เพราะสำเนียงการพูดเป็นสำเนียงอังกฤษชัดเจน
ทั้งนี้ มีการประเมินว่ามีชาวอังกฤษประมาณ 500 คน จะเดินทางไปอิรักและซีเรีย เพื่อร่วมกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่างๆ ต่อสู้กับรัฐบาลและชาติตะวันตก
แนวทางดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน ที่ถูกสังหารโดยสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามในอิรัก โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ามือสังหารที่อยู่ในชุดดำอาจจะเป็นชาวอังกฤษ เพราะสำเนียงการพูดเป็นสำเนียงอังกฤษชัดเจน
ทั้งนี้ มีการประเมินว่ามีชาวอังกฤษประมาณ 500 คน จะเดินทางไปอิรักและซีเรีย เพื่อร่วมกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่างๆ ต่อสู้กับรัฐบาลและชาติตะวันตก