xs
xsm
sm
md
lg

ป่าต้นน้ำ อ.บันนังสตา ถูกทำลายหนัก เตือนอย่าบุกรุกถ้าไม่อยากเสี่ยงดินถล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 ยะลา เผยพบการบุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ และป่าสงวนนิคมสร้างตนเอง อ.บันนังสตา จ.ยะลา นับร้อยไร่ วอนประชาชนในพื้นที่ช่วยอนุรักษ์ ก่อนจะประสบปัญหาภัยพิบัติร้ายแรง

วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า หลังจากที่มีการติดตามความคืบหน้ากรณีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าอนุรักษ์ถูกบุกรุกทำลาย และเข้าจับจองพื้นที่เพื่อทำการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการกระทำของชาวบ้านในพื้นที่ โดยที่ผ่านมา พบว่า จังหวัดยะลามีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไปแล้วจำนวนมาก ทั้งป่าสงวนในเทือกเขากาลอ อ.รามัน ป่าเขาใหญ่ อ.เมือง จ.ยะลา และล่าสุด ทางหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 บันนังสตา จ.ยะลา พบว่ามีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าสงวนในการดูแลของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ถูกชาวบ้านบุกรุกผืนป่า เข้าไปตัดโค่นต้นไม้ และแผ่วถางป่าเพื่อจับจองพื้นที่เพื่อทำการเกษตรแล้วเป็นจำนวนมาก

นายดอเลาะ มาซอ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บันนังสตา) ระบุว่า ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บันนังสตา) พร้อมด้วย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ที่บ้านตลาดนิคม ม.6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา
 

 
หลังจากได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปบุกรุกถางป่า และโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ในการดูแลของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ หรือนิคมฯ กือลอง ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำถูกชาวบ้านบุกรุกเพื่อจับจองพื้นที่ทำการเกษตรจริงดังที่ได้รับแจ้ง โดยเป็นพื้นที่กว่า 2 ไร่ และยังมีพื้นที่ใกล้เคียงอีกหลายสิบไร่ ที่กำลังดำเนินการตรวจสอบ และติดตามผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้

นายดอเลาะ มาซอ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บันนังสตา) ระบุว่า เป็นที่น่าสลดใจอย่างยิ่งจากการตรวจพื้นที่ป่า เนื่องจากพบว่า ชาวบ้านพยายามบุกรุก และทำลายต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ โดยการใช้ยาฆ่าตอไม้ทาบริเวณโคนต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตาย ก่อนจะตัดโค่น ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแล หรือแม้กระทั่งชาวบ้านในพื้นที่เองขาดจิตสำนึก และยังคงเข้าบุกรุกป่าอนุรักษ์ต้นน้ำจะทำให้ในอนาคตเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมา หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บันนังสตา) มีการดำเนินการและปราบปรามต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับป่าไม้ โดยแยกเป็น อ.บันนังสตา 9 คดี มีเนื้อที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกไปแล้ว 40 ไร่ ในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา ดำเนินการไปแล้ว 13 คดี มีเนื้อที่ป่าถูกบุกรุกจำนวน 124 ไร่

ส่วนในปี พ.ศ.2557 จนถึงปัจจุบัน มีการลงพื้นที่ปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับไม้ในพื้นที่ อ.บันนังสตา อีกจำนวน 6 คดี มีเนื้อที่ป่าถูกบุกรุกกว่า 33 ไร่ ส่วนใน อ.ธารโต จ.ยะลา ดำเนินการไปแล้ว 3 คดี มีป่าถูกบุกรุก 15 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บันนังสตา) เป็นหน่วยงานเดียวที่ดูแลพื้นที่ป่าไม้ และป่าสงวนนับแสนไร่ โดยแยกเป็นพื้นที่ป่าไม้ซึ่งอยู่ในการดูแลของนิคมสร้างตนองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จำนวน 467,651 ไร่ และในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา อีกจำนวน 45,000 ไร่

อย่างไรก็ตาม หลังจาก คสช.เข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ป่า ทั้งป่าสงวนแห่งชาติ และป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ โดยการใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นหลักในการดำเนินการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองมีความต้องการให้มีการเพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้นต่อผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับป่าไม้ และการบุกรุกพื้นที่ป่า เพราะที่ผ่านมา ยังคงพบช่องโหว่ทางกฎหมายที่ทำให้ผู้กระทำความผิด หรือผู้บุกรุกป่าไม่ได้เกรงกลัว และหลบหนีการจับกุมไปได้ทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการกลับมาดำเนินการบุกรุกอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น