คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อสัปดาห์ก่อน รายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมศึก UFC 182 คู่เอกแชมป์รุ่นไลท์ เฮฟวีเวตและนักสู้อันดับ 1 จากการจัดอันดับแบบ ปอนด์-ต่อ-ปอนด์ในขณะนี้อย่าง “ไอ้กระดูก” จอน โจนส์ เอาชนะคู่ต่อสู้ แดเนียล คอร์เมียร์ ไปแบบสบายๆ สร้างสถิติป้องกันตำแหน่งไว้ได้เป็นไฟต์ที่ 8 ติดต่อกันและทำให้มีสถิติการต่อสู้เป็นชนะ 21 แพ้แค่ไฟต์เดียวเท่านั้น สมศักดิ์ศรีซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมยุคปัจจุบัน
ปรากฏว่าหลังการต่อสู้ได้เพียง 2 วันเท่านั้น จอน “โบนส์” โจนส์ ก็สร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายในวงการ ด้วยการเข้ารายงานตัวในสถานบำบัดยาเสพติด พร้อมกับรายงานข่าวว่าถูกตรวจพบว่ามีสารที่เป็นองค์ประกอบของโคเคนอยู่ตั้งแต่การตรวจเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมปีที่แล้ว
พอเป็นแบบนี้ แฟนๆ ก็ออกจะสงสัยว่าในเมื่อตรวจพบสารเสพติดในร่างกายแบบนี้แล้ว 1. ทำไมยังปล่อยให้ จอน โจนส์ ขึ้นสู้ในรายการ UFC 182 และ 2. แล้วทำไมไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆ ตั้งแต่เมื่อตรวจพบ เล่นเอามีข้อครหาว่า UFC ทำงานแบบสองมาตรฐานหรือเปล่า
ถ้าลองดูข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็ได้ความว่าการตรวจสารเสพติดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมนั้น จริงๆ แล้วไม่มีรายการตรวจสารประกอบของโคเคน แต่บังเอิญตรวจแล้วไปพบเข้า ทำให้ทางการของรัฐเนวาด้าไม่มีอำนาจที่จะเอาผิด จอน โจนส์ ในเรื่องเสพสารเสพติด และยังมีข้อมูลประกอบอีกว่ามีการตรวจซ้ำในวันที่ 18 ธันวาคม คราวนี้ไม่มีสารโคเคนในกระแสเลือดของ “ไอ้กระดูก” แล้ว คราวนี้ยิ่งทำให้ทางรัฐเนวาด้าไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับ จอน โจนส์ ได้ใหญ่
ทาง UFC ก็รอดพ้นคำครหาไปหวุดหวิดเหมือนกัน เพราะตามระเบียบนั้น ทางสถาบันจะสามารถลงโทษนักกีฬาได้ในกรณีที่เป็นการตรวจ “ในระหว่างการแข่งขัน” เท่านั้น คือการตรวจก่อนการต่อสู้ 12 ชั่วโมง และการตรวจหลังการต่อสู้จบลงทันทีเท่านั้น ในกรณีนี้ การตรวจมีขึ้นตั้งแต่ 1 เดือนก่อนหน้าการแข่งขัน ดังนั้น จึงไม่เข้าข่าย “การตรวจระหว่างการแข่งขัน” ทำให้ทาง UFC เองก็ไม่มีอำนาจในการลงโทษแบนหรือห้ามแข่ง แล้วที่สำคัญทาง UFC เองก็ลูบปากไปด้วยเพราะขายตั๋วและขาย เพย์-เพอร์-วิว ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่สุดท้าย ก็ต้องยกย่องสุดยอดแชมป์รายนี้ ที่ไม่หนีความจริง และไม่อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายนี้ลอยนวลต่อไป กลับยืดอกเผชิญหน้ากับความจริงอย่างกล้าหาญ และก้าวเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อให้ตัวเองพ้นจากสภาพนี้ โดย จอน โจนส์ ออกแถลงการณ์ขอโทษผู้เกี่ยวข้องทุกคน ขอโทษครอบครัว คู่สมรส ลูกๆ และที่สำคัญขอโทษแฟนๆ ทุกคน และขอเวลาในการบำบัดเพื่อกลับมาเป็นคนใหม่ที่พ้นจากสารเสพติดและก้าวไปเป็นสุดยอดนักสู้ที่แฟนๆ ยอมรับได้เต็มที่จริงๆ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
เมื่อสัปดาห์ก่อน รายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมศึก UFC 182 คู่เอกแชมป์รุ่นไลท์ เฮฟวีเวตและนักสู้อันดับ 1 จากการจัดอันดับแบบ ปอนด์-ต่อ-ปอนด์ในขณะนี้อย่าง “ไอ้กระดูก” จอน โจนส์ เอาชนะคู่ต่อสู้ แดเนียล คอร์เมียร์ ไปแบบสบายๆ สร้างสถิติป้องกันตำแหน่งไว้ได้เป็นไฟต์ที่ 8 ติดต่อกันและทำให้มีสถิติการต่อสู้เป็นชนะ 21 แพ้แค่ไฟต์เดียวเท่านั้น สมศักดิ์ศรีซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมยุคปัจจุบัน
ปรากฏว่าหลังการต่อสู้ได้เพียง 2 วันเท่านั้น จอน “โบนส์” โจนส์ ก็สร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายในวงการ ด้วยการเข้ารายงานตัวในสถานบำบัดยาเสพติด พร้อมกับรายงานข่าวว่าถูกตรวจพบว่ามีสารที่เป็นองค์ประกอบของโคเคนอยู่ตั้งแต่การตรวจเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมปีที่แล้ว
พอเป็นแบบนี้ แฟนๆ ก็ออกจะสงสัยว่าในเมื่อตรวจพบสารเสพติดในร่างกายแบบนี้แล้ว 1. ทำไมยังปล่อยให้ จอน โจนส์ ขึ้นสู้ในรายการ UFC 182 และ 2. แล้วทำไมไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆ ตั้งแต่เมื่อตรวจพบ เล่นเอามีข้อครหาว่า UFC ทำงานแบบสองมาตรฐานหรือเปล่า
ถ้าลองดูข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็ได้ความว่าการตรวจสารเสพติดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมนั้น จริงๆ แล้วไม่มีรายการตรวจสารประกอบของโคเคน แต่บังเอิญตรวจแล้วไปพบเข้า ทำให้ทางการของรัฐเนวาด้าไม่มีอำนาจที่จะเอาผิด จอน โจนส์ ในเรื่องเสพสารเสพติด และยังมีข้อมูลประกอบอีกว่ามีการตรวจซ้ำในวันที่ 18 ธันวาคม คราวนี้ไม่มีสารโคเคนในกระแสเลือดของ “ไอ้กระดูก” แล้ว คราวนี้ยิ่งทำให้ทางรัฐเนวาด้าไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับ จอน โจนส์ ได้ใหญ่
ทาง UFC ก็รอดพ้นคำครหาไปหวุดหวิดเหมือนกัน เพราะตามระเบียบนั้น ทางสถาบันจะสามารถลงโทษนักกีฬาได้ในกรณีที่เป็นการตรวจ “ในระหว่างการแข่งขัน” เท่านั้น คือการตรวจก่อนการต่อสู้ 12 ชั่วโมง และการตรวจหลังการต่อสู้จบลงทันทีเท่านั้น ในกรณีนี้ การตรวจมีขึ้นตั้งแต่ 1 เดือนก่อนหน้าการแข่งขัน ดังนั้น จึงไม่เข้าข่าย “การตรวจระหว่างการแข่งขัน” ทำให้ทาง UFC เองก็ไม่มีอำนาจในการลงโทษแบนหรือห้ามแข่ง แล้วที่สำคัญทาง UFC เองก็ลูบปากไปด้วยเพราะขายตั๋วและขาย เพย์-เพอร์-วิว ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่สุดท้าย ก็ต้องยกย่องสุดยอดแชมป์รายนี้ ที่ไม่หนีความจริง และไม่อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายนี้ลอยนวลต่อไป กลับยืดอกเผชิญหน้ากับความจริงอย่างกล้าหาญ และก้าวเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อให้ตัวเองพ้นจากสภาพนี้ โดย จอน โจนส์ ออกแถลงการณ์ขอโทษผู้เกี่ยวข้องทุกคน ขอโทษครอบครัว คู่สมรส ลูกๆ และที่สำคัญขอโทษแฟนๆ ทุกคน และขอเวลาในการบำบัดเพื่อกลับมาเป็นคนใหม่ที่พ้นจากสารเสพติดและก้าวไปเป็นสุดยอดนักสู้ที่แฟนๆ ยอมรับได้เต็มที่จริงๆ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *