นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. กล่าวว่า ขณะนี้ กทพ.อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการศึกษาความเป็นไปได้ สำรวจและออกแบบเบื้องต้นทางพิเศษเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC โดยจะมีการสร้างทางพิเศษเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้าหมายให้ทางพิเศษของไทยเป็นสี่แยกของ AEC ที่ตั้งอยู่ด่านชายแดนทั้ง 4 จุด ทิศเหนือที่ด่านแม่สาย ทิศตะวันตกที่แม่สอด ทิศตะวันออกเฉียงเนือที่มุกดาหาร และทิศใต้ที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งปัจจุบันทั้ง 4 ด่าน มีการเดินทางและขนส่งสินค้าเข้า-ออก เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ด่านสะเดา มีปริมาณการใช้บริการสูงสุด ซึ่งกระบวนการผ่านด่านในแต่ละครั้งต้องใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ขั่วโมง เนื่องจากต้องติดต่อประสานงานถึง 5 จุด เช่น ด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านกักกันพืชและสัตว์ เป็นต้น โดยยืนยันว่าจะไม่ซ้ำซ้อนกับเส้นทางของกรมทางหลวงที่ใช้สัญจรอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจาก กทพ.มีรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางเชื่อมต่อกับจุดชายแดนระหว่างประเทศไทยกับเพื่อนบ้าน มีระยะทางประมาณ 4 - 5 กิโลเมตร ผู้ใช้ทางจะได้รับความสะดวกและรวดเร็ว โดยจะเป็นการให้บริการแบบครบวงจร หรือ One Stop Service โดยนำระบบ Easy Pass มาเก็บค่าผ่านทางระหว่างประเทศ โดยระบบดังกล่าวใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็เสร็จสิ้นกระบวนการผ่านแดน ซึ่งจะเริ่มนำร่องที่ด่านสะเดาเป็นแห่งแรก
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการศึกษาทั้ง 4 จุด รวมถึงกรอบการใช้งบประมาณจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557 หากได้ข้อสรุปของผลการศึกษาแล้วจะใช้ระยะเวลา 4 ปี ในการดำเนินโครงการ เบื้องต้นรูปแบบการลงทุนมี 2 แนวทาง คือ แนวทางที่ใช้งบลงทุนของ กทพ. ส่วนแนวทางที่ 2 เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลกับเอกชน หรือ PPP ซึ่งที่ผ่านมาเอกชนจาก จีน เกาหลี และสิงคโปร์ สนใจเข้าร่วมลงทุนทั้ง 4 จุด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการศึกษาทั้ง 4 จุด รวมถึงกรอบการใช้งบประมาณจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557 หากได้ข้อสรุปของผลการศึกษาแล้วจะใช้ระยะเวลา 4 ปี ในการดำเนินโครงการ เบื้องต้นรูปแบบการลงทุนมี 2 แนวทาง คือ แนวทางที่ใช้งบลงทุนของ กทพ. ส่วนแนวทางที่ 2 เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลกับเอกชน หรือ PPP ซึ่งที่ผ่านมาเอกชนจาก จีน เกาหลี และสิงคโปร์ สนใจเข้าร่วมลงทุนทั้ง 4 จุด
