นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ว่า ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 ของกระทรวงคมนาคม ล่าช้ากว่ากำหนด โดยเฉพาะโครงการลงทุนปกติในปีงบประมาณ 2558 ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่หลายโครงการต้องผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ต้องมีการปรับแผนการก่อสร้างใหม่เนื่องจากยังไม่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี รวมถึงการกู้เงินที่ต้องใช้กรอบเกิน 1,000 ล้านบาท ไม่สามารถดำเนินการได้
สำหรับโครงการที่อนุมัติไปแล้ว สามารถดำเนินการได้ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต รถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีน้ำเงิน สายสีเขียวใต้ และเขียวเหนือ ซึ่งโครงการเหล่านี้การเบิกจ่ายจะอยู่ในกรอบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเบิกจ่าย โดยยอมรับว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย
รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงกระเเสข่าว มีการเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง ว่า ขอปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด แต่หากจะตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง มองว่าประเทศไทยยังมีคนเก่ง และคนดีอีกมาก ส่วนตัวยังมองว่า การมีนายกรัฐมนตรีคนกลาง ไม่สามารถแก้ปัหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะสุดท้ายกระบวนการต่างๆ จะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยต้องยึดตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ
สำหรับโครงการที่อนุมัติไปแล้ว สามารถดำเนินการได้ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต รถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีน้ำเงิน สายสีเขียวใต้ และเขียวเหนือ ซึ่งโครงการเหล่านี้การเบิกจ่ายจะอยู่ในกรอบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเบิกจ่าย โดยยอมรับว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย
รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวถึงกระเเสข่าว มีการเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง ว่า ขอปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด แต่หากจะตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง มองว่าประเทศไทยยังมีคนเก่ง และคนดีอีกมาก ส่วนตัวยังมองว่า การมีนายกรัฐมนตรีคนกลาง ไม่สามารถแก้ปัหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะสุดท้ายกระบวนการต่างๆ จะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยต้องยึดตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ
