วันนี้ (20 มี.ค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นัดประชุมสรุปสำนวนคดีถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง กรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.ที่ถูกร้องกระทำผิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย และไม่ปฏิบัติตามมาตราฐานทางจริยธรรม
สำหรับคดีการยื่นถอดถอนนายสมศักดิ์ ออกจากตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ร้อง ขณะที่คดีการยื่นถอดถอนนายนิคม ออกจากตำแหน่ง ส.ว.สรรหา เป็นผู้ร้อง โดย ป.ป.ช.นำสำนวนทั้ง 2 คดี พิจารณาพร้อมกัน
ก่อนหน้านี้ นายนิคม กล่าวว่า ไม่หนักใจต่อกระบวนการชี้มูลความผิด เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน และได้ทำหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุมของรัฐสภาอย่างเคร่งครัด แต่ตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการชี้มูลดำเนินการรวดเร็วเกินไป ส่วนตัวคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จหลังการเลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มีนาคมนี้
ทั้งนี้ หากวันนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ และนายนิคม จะส่งผลให้นายนิคม ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภาทันที ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 จากนั้น ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป ส่วนคำร้องถอดถอน ส.ส.-ส.ว.จำนวน 308 คน ที่ร่วมเสนอและลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของ ส.ว.ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา
สำหรับคดีการยื่นถอดถอนนายสมศักดิ์ ออกจากตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ร้อง ขณะที่คดีการยื่นถอดถอนนายนิคม ออกจากตำแหน่ง ส.ว.สรรหา เป็นผู้ร้อง โดย ป.ป.ช.นำสำนวนทั้ง 2 คดี พิจารณาพร้อมกัน
ก่อนหน้านี้ นายนิคม กล่าวว่า ไม่หนักใจต่อกระบวนการชี้มูลความผิด เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน และได้ทำหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุมของรัฐสภาอย่างเคร่งครัด แต่ตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการชี้มูลดำเนินการรวดเร็วเกินไป ส่วนตัวคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จหลังการเลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มีนาคมนี้
ทั้งนี้ หากวันนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ และนายนิคม จะส่งผลให้นายนิคม ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภาทันที ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 จากนั้น ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป ส่วนคำร้องถอดถอน ส.ส.-ส.ว.จำนวน 308 คน ที่ร่วมเสนอและลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของ ส.ว.ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา