กรมอนามัยเปิดเผยผลสำรวจสุขภาพช่องปากในปี 2555 พบว่า เด็กไทยโดยเฉลี่ยร้อยละ 50 เป็นโรคฟันผุสูงสุด ในเขตภาคใต้ร้อยละ 65 โดยเฉพาะใน 4จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยจังหวัดปัตตานีพบร้อยละ 70 และนราธิวาสพบร้อยละ 80 ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉลี่ยพบ 1 ใน 10 ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร พบมากที่สุดในภาคกลางและภาคใต้
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุในภาคใต้ที่มีปัญหาฟันผุ หรือเหงือกอักเสบแล้ว พบว่ากว่าครึ่งยังไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากอุปสรรคในการเดินทางและผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้เกิดปัญหาเป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงสูงถึงร้อยละ 91และมีโอกาสสูญเสียฟันทั้งปากเพิ่มขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข จึงสั่งการให้ระดมทรัพยากรทั้งกำลังคน เครื่องมืออุปกรณ์ และงบประมาณ มาใช้ร่วมกันในระดับเครือข่ายบริการ โดยตั้งคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขเครือข่าย หรือ คปสข.ทั้ง 4 จังหวัด มาจัดทำยุทธศาสตร์บริการร่วมกันเพื่อลดปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่แยกพัฒนาเฉพาะโรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพ และคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันทรัพยากรด้านกำลังคนค่อนข้างพร้อมกว่าพื้นที่อื่น
ส่วนการทำงานของแต่ละพื้นที่ ได้มอบนโยบายให้ปรับวิธีการทำงาน จากเดิมที่เป็นการตั้งรับ รักษาผู้ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งทำให้คิวยาว และแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เพิ่มบริการเชิงรุกลงชุมชน เน้นการส่งเสริมป้องกันร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และฟันของคนในชุมชน
ทั้งนี้ในปี 2556 นี้ สปสช.ได้จัดงบประมาณส่งเสริมป้องกันด้านทันตสุขภาพ 1,045 ล้านบาท เฉลี่ยเครือข่ายบริการละ 80-90 ล้านบาท และมีงบจากกระทรวงสาธารณสุขอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยเครือข่ายละเกือบ 100 ล้านบาท และยังมีงบเฉพาะสำหรับการแก้ไขปัญหาภาคใต้อีก 87 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอในการจัดบริการปะชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดใต้ประมาณ 5 ล้านคน
ขณะที่กรมอนามัยเตรียมแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่ปี 2556-2558 ใน 2 เรื่อง คือใส่ฟันเทียมพระราชทานในผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากจำนวน 9,000 คน และขยายบริการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ประจำตำบล รวมทั้งพัฒนาศักยภาพชมรมผู้สูงอายุให้ดูแลอนามัยช่องปากตนเอง และส่งเสริมสุขภาพช่องปาก , ป้องกันฟันผุในเด็กวัยเรียน ตั้งเป้าหมายภายในปี 2558 จัดบริการเคลือบหลุมร่องฟัน และใช้ฟลูออไรด์ ให้กลุ่มเด็กวัยเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นการถนอมฟันแท้ที่ต้องใช้งานตลอดชีวิตไม่่ให้ผุ เพิ่มจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 40 เพิ่มโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของโรงเรียนทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุในภาคใต้ที่มีปัญหาฟันผุ หรือเหงือกอักเสบแล้ว พบว่ากว่าครึ่งยังไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากอุปสรรคในการเดินทางและผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้เกิดปัญหาเป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงสูงถึงร้อยละ 91และมีโอกาสสูญเสียฟันทั้งปากเพิ่มขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข จึงสั่งการให้ระดมทรัพยากรทั้งกำลังคน เครื่องมืออุปกรณ์ และงบประมาณ มาใช้ร่วมกันในระดับเครือข่ายบริการ โดยตั้งคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขเครือข่าย หรือ คปสข.ทั้ง 4 จังหวัด มาจัดทำยุทธศาสตร์บริการร่วมกันเพื่อลดปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่แยกพัฒนาเฉพาะโรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพ และคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันทรัพยากรด้านกำลังคนค่อนข้างพร้อมกว่าพื้นที่อื่น
ส่วนการทำงานของแต่ละพื้นที่ ได้มอบนโยบายให้ปรับวิธีการทำงาน จากเดิมที่เป็นการตั้งรับ รักษาผู้ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งทำให้คิวยาว และแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เพิ่มบริการเชิงรุกลงชุมชน เน้นการส่งเสริมป้องกันร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และฟันของคนในชุมชน
ทั้งนี้ในปี 2556 นี้ สปสช.ได้จัดงบประมาณส่งเสริมป้องกันด้านทันตสุขภาพ 1,045 ล้านบาท เฉลี่ยเครือข่ายบริการละ 80-90 ล้านบาท และมีงบจากกระทรวงสาธารณสุขอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยเครือข่ายละเกือบ 100 ล้านบาท และยังมีงบเฉพาะสำหรับการแก้ไขปัญหาภาคใต้อีก 87 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอในการจัดบริการปะชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดใต้ประมาณ 5 ล้านคน
ขณะที่กรมอนามัยเตรียมแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่ปี 2556-2558 ใน 2 เรื่อง คือใส่ฟันเทียมพระราชทานในผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากจำนวน 9,000 คน และขยายบริการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ประจำตำบล รวมทั้งพัฒนาศักยภาพชมรมผู้สูงอายุให้ดูแลอนามัยช่องปากตนเอง และส่งเสริมสุขภาพช่องปาก , ป้องกันฟันผุในเด็กวัยเรียน ตั้งเป้าหมายภายในปี 2558 จัดบริการเคลือบหลุมร่องฟัน และใช้ฟลูออไรด์ ให้กลุ่มเด็กวัยเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นการถนอมฟันแท้ที่ต้องใช้งานตลอดชีวิตไม่่ให้ผุ เพิ่มจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 40 เพิ่มโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของโรงเรียนทั้งหมด