พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)ร่วมกับ นายโทมัส พี พาสกาเรโล ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (ดีอีเอ) ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ประจำสถานเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย แถลงการจับกุม นายวิกเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท สัญชาติรัสเซีย เจ้าของฉายาพ่อค้าอาวุธมัจจุราช และเป็นบุคคลที่กระทำการอันเป็นการก่อการร้าย ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา สะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อการร้ายหรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือยุยงประชาชนให้เข้ามีส่วนในการก่อการร้าย หรือรู้ว่ามีผู้จะก่อการร้ายแล้ว, กระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ระวางโทษจำคุก 2-10 ปี ปรับ 4,000 - 20,000 บาท จากโรงแรมโซฟิเทล ย่านบางรัก เมื่อช่วงเย็นวานนี้
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า เท่าที่สอบสวนผู้ต้องหาอยู่ในประเทศเพียงคนเดียว ส่วน นายแอนดรู ซึ่งเป็นลูกน้อง ตำรวจกำลังสืบสวนอย่างเร่งด่วนว่าเข้ามากบดานด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเข้าประเทศทางท่าอากศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่ปรากฎชื่ออยู่ในบัญชีดำ และสันนิษฐานว่าเข้ามาใช้ไทยเป็นสถานที่ติดต่อซื้อขายอาวุธสงครามเท่านั้น โดยพฤติกรรมเป็นนายหน้า และทางการ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ใช้เวลาสืบสวนติดตามตัวมานานกว่า 10 ปี กระทั่งมีเบาะแสว่า จะเดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-13 มีนาคม จึงประสานตำรวจไทยและนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว โดยวันพรุ่งนี้ จะคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ครั้งที่ 1 พร้อมคัดค้านการประกันตัว จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของศาลไทยจนเสร็จสิ้น ก่อนส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีในประเทศต่าง ๆ ที่มีการร้องขอมา
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า เท่าที่สอบสวนผู้ต้องหาอยู่ในประเทศเพียงคนเดียว ส่วน นายแอนดรู ซึ่งเป็นลูกน้อง ตำรวจกำลังสืบสวนอย่างเร่งด่วนว่าเข้ามากบดานด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเข้าประเทศทางท่าอากศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่ปรากฎชื่ออยู่ในบัญชีดำ และสันนิษฐานว่าเข้ามาใช้ไทยเป็นสถานที่ติดต่อซื้อขายอาวุธสงครามเท่านั้น โดยพฤติกรรมเป็นนายหน้า และทางการ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ใช้เวลาสืบสวนติดตามตัวมานานกว่า 10 ปี กระทั่งมีเบาะแสว่า จะเดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-13 มีนาคม จึงประสานตำรวจไทยและนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว โดยวันพรุ่งนี้ จะคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ครั้งที่ 1 พร้อมคัดค้านการประกันตัว จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของศาลไทยจนเสร็จสิ้น ก่อนส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีในประเทศต่าง ๆ ที่มีการร้องขอมา