ผบช.สตม.ยืนยัน สตม.ไม่ได้หละหลวมกรณีการปล่อยให้อดีตเคจีบี พ่อค้าอาวุธสงครามเข้ามายังเมืองไทย และถูกจับกุมได้ ระบุก่อนหน้านี้ ไม่มีข้อมูลของอดีตเคจีบี และไม่ได้รับการประสานจากดีอีเอมาก่อน
วันนี้ (10 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยว่า มาตรการหละหลวมในการจับกุมผู้ก่อการร้ายสากล และผู้ต้องหารายสำคัญเข้าประเทศโดยเฉพาะกรณีนายวิกเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท (Viktor Anataljevich Bout) อดีตเคจีบีผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามว่า ทราบข่าวว่ามีการจับกุมนายวิกเตอร์ แต่ต้องเข้าใจว่าหน้าที่ของสตม.เมื่อถูกจับกุมก็เข้าไปตรวจสอบ วันที่มีการจับกุม สตม.ก็ได้มีการเพิกถอนวีซ่า เขาเข้ามาจากประเทศรัสเซียในวีซ่านักท่องเที่ยวอยู่ได้ 30 วัน เมื่อเข้ามาในกรณีอย่างนี้ ก็เข้าข่ายบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ และได้แจ้งข้อมูลไปให้กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ทราบว่าบุคคลคนนี้เป็นบุคคลที่ไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทยแล้ว ถ้าได้รับการปล่อยตัวไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องนำตัวส่งมาให้ สตม.เพื่อดำเนินตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สตม.หย่อนยานในการตรวจตราผู้โดยสารขาเข้าหรือไม่ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวว่า ในกรณีนี้เมื่อช่วงเช้าได้ติดตามข่าวทราบว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาในประเทศไทยได้หลายราย ซึ่งก็เป็นผลการจับกุมของตำรวจไทย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า สตม.หละหลวมหรือไม่ที่ปล่อยให้บุคคลเหล่านี้เข้ามา ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่า สตม.มีหน้าที่ตรวจตราคนเข้าประเทศทุกช่องทาง เมื่อเข้ามาเราก็มีหน้าที่ตรวจสอบว่าเขามีแบล็กลิสต์ หรือเป็นบุคคลต้องห้ามหรือไม่ถ้ามีก็ไม่ให้เข้าประเทศตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ถ้าเรารู้เบื้องต้นก่อนหน้านี้เราก็ไม่ให้เข้าอยู่แล้ว แต่กรณีที่ผ่านมาเขาเข้ามาในลักษณะเป็นผู้โดยสารทั่วไป ไม่มีข้อมูลว่ามีแบล็กลิสต์หรือบุคคลต้องห้าม เป็นการเดินทางโดยทั่วไปซึ่งเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้
“เช่นเดียวกับประเทศไทยที่กฏหมายรัฐธรรมนูญก็รองรับให้คนไทยเดินทางไปไหนก็ได้ ไม่มีเหตุที่ยับยั้งจะไปจำกัดสิทธิไม่ให้เขาเดินทางไม่ได้ เราทำงานตามอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่เรามีข้อมูลเขาอยู่เราก็ไม่ให้เข้า ถ้ามีหมายเราก็จับกุมตอนนี้เลย แต่ข้อมูลไม่พบว่าเขาเป็นบุคคลต้องห้าม แต่การทำงานของสตม.เรายึดหลักความมั่นคง และอาชญากรรม หรือเรื่องของผู้กระทำความผิดเป็นหัวใจการทำงาน รวมถึงการบริการด้วย ถ้ามีคนใดสัญชาติใดที่ต้องตรวจสอบพิเศษก็ต้องตรวจสอบ เราไม่สามารถคิดได้ว่าเขามาในทางไม่ดีหรือร้ายไปเสียหมด ก็จะมีผลกระทบในการทำงาน เราต้องทำงานควบคู่กับการดูแลความมั่นคง อาชญากรรมไม่ปล่อยปละละเลย ควบคู่ไปกับการบริการที่ดี” พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าว
ผบช.สตม.กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับนายวิกเตอร์และไม่ได้รับการประสานจากเข้าหน้าที่ดีอีเอของสหรัฐฯ แต่อย่างใด ตามปกติการทำงานของสตม.ก็ได้มีการประสานกับดีอีเอ เอฟบีไอ อยู่แล้วคนร้ายบางคนที่เข้ามาก็มีข้อมูล แต่บางเรื่องข้อมูลก็ไม่เพียงพอ เรามีศูนย์สืบสวนที่ดูแลเรื่องคนต่างด้าวต่างๆ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ซึ่งตอนนี้นอกจากนายวิกเตอร์แล้ว ก็มีการติดตามคนต่างด้าวอื่นๆ แต่ยบางครั้งข้อมูลก็ไม่เชื่อมว่าเขากระทำผิดอะไรมาจากไหน
กองปราบฝากขังเคจีบีค้าอาวุธ ค้านประกัน-กลัวหนี
แจ้งข้อหาอดีตเคจีบี สะสมกำลังพล-อาวุธ-เตรียมก่อการร้าย!
กองปราบจับอดีตเคจีบี หัวหน้าก่อการร้ายระดับโลกกลางกรุง!!
วันนี้ (10 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยว่า มาตรการหละหลวมในการจับกุมผู้ก่อการร้ายสากล และผู้ต้องหารายสำคัญเข้าประเทศโดยเฉพาะกรณีนายวิกเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท (Viktor Anataljevich Bout) อดีตเคจีบีผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามว่า ทราบข่าวว่ามีการจับกุมนายวิกเตอร์ แต่ต้องเข้าใจว่าหน้าที่ของสตม.เมื่อถูกจับกุมก็เข้าไปตรวจสอบ วันที่มีการจับกุม สตม.ก็ได้มีการเพิกถอนวีซ่า เขาเข้ามาจากประเทศรัสเซียในวีซ่านักท่องเที่ยวอยู่ได้ 30 วัน เมื่อเข้ามาในกรณีอย่างนี้ ก็เข้าข่ายบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ และได้แจ้งข้อมูลไปให้กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ทราบว่าบุคคลคนนี้เป็นบุคคลที่ไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทยแล้ว ถ้าได้รับการปล่อยตัวไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องนำตัวส่งมาให้ สตม.เพื่อดำเนินตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สตม.หย่อนยานในการตรวจตราผู้โดยสารขาเข้าหรือไม่ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวว่า ในกรณีนี้เมื่อช่วงเช้าได้ติดตามข่าวทราบว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาในประเทศไทยได้หลายราย ซึ่งก็เป็นผลการจับกุมของตำรวจไทย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า สตม.หละหลวมหรือไม่ที่ปล่อยให้บุคคลเหล่านี้เข้ามา ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่า สตม.มีหน้าที่ตรวจตราคนเข้าประเทศทุกช่องทาง เมื่อเข้ามาเราก็มีหน้าที่ตรวจสอบว่าเขามีแบล็กลิสต์ หรือเป็นบุคคลต้องห้ามหรือไม่ถ้ามีก็ไม่ให้เข้าประเทศตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ถ้าเรารู้เบื้องต้นก่อนหน้านี้เราก็ไม่ให้เข้าอยู่แล้ว แต่กรณีที่ผ่านมาเขาเข้ามาในลักษณะเป็นผู้โดยสารทั่วไป ไม่มีข้อมูลว่ามีแบล็กลิสต์หรือบุคคลต้องห้าม เป็นการเดินทางโดยทั่วไปซึ่งเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้
“เช่นเดียวกับประเทศไทยที่กฏหมายรัฐธรรมนูญก็รองรับให้คนไทยเดินทางไปไหนก็ได้ ไม่มีเหตุที่ยับยั้งจะไปจำกัดสิทธิไม่ให้เขาเดินทางไม่ได้ เราทำงานตามอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่เรามีข้อมูลเขาอยู่เราก็ไม่ให้เข้า ถ้ามีหมายเราก็จับกุมตอนนี้เลย แต่ข้อมูลไม่พบว่าเขาเป็นบุคคลต้องห้าม แต่การทำงานของสตม.เรายึดหลักความมั่นคง และอาชญากรรม หรือเรื่องของผู้กระทำความผิดเป็นหัวใจการทำงาน รวมถึงการบริการด้วย ถ้ามีคนใดสัญชาติใดที่ต้องตรวจสอบพิเศษก็ต้องตรวจสอบ เราไม่สามารถคิดได้ว่าเขามาในทางไม่ดีหรือร้ายไปเสียหมด ก็จะมีผลกระทบในการทำงาน เราต้องทำงานควบคู่กับการดูแลความมั่นคง อาชญากรรมไม่ปล่อยปละละเลย ควบคู่ไปกับการบริการที่ดี” พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าว
ผบช.สตม.กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับนายวิกเตอร์และไม่ได้รับการประสานจากเข้าหน้าที่ดีอีเอของสหรัฐฯ แต่อย่างใด ตามปกติการทำงานของสตม.ก็ได้มีการประสานกับดีอีเอ เอฟบีไอ อยู่แล้วคนร้ายบางคนที่เข้ามาก็มีข้อมูล แต่บางเรื่องข้อมูลก็ไม่เพียงพอ เรามีศูนย์สืบสวนที่ดูแลเรื่องคนต่างด้าวต่างๆ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ซึ่งตอนนี้นอกจากนายวิกเตอร์แล้ว ก็มีการติดตามคนต่างด้าวอื่นๆ แต่ยบางครั้งข้อมูลก็ไม่เชื่อมว่าเขากระทำผิดอะไรมาจากไหน
กองปราบฝากขังเคจีบีค้าอาวุธ ค้านประกัน-กลัวหนี
แจ้งข้อหาอดีตเคจีบี สะสมกำลังพล-อาวุธ-เตรียมก่อการร้าย!
กองปราบจับอดีตเคจีบี หัวหน้าก่อการร้ายระดับโลกกลางกรุง!!
