ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส เดินทางถึงอินเดียแล้วในวันนี้ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมือง รวมทั้งรื้อฟื้นการซื้อขายอาวุธ คาดว่า ประเด็นหลักของการหารือในระหว่างการเยือนของผู้นำฝรั่งเศสครั้งนี้ จะรวมถึงการทำข้อตกลงด้านการทหาร
อินเดียนับเป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และคาดว่าจะใช้เงินในเรื่องนี้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.02 ล้านล้านบาท) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันฝรั่งเศสเป็นผู้จัดจำหน่ายอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของอินเดีย รองจากรัสเซีย รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีซาร์โกซี เดินทางถึงกรุงนิวเดลี โดยคาร์ลา บรูนี นักร้อง และอดีตนางแบบสาวชาวอิตาลีไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย แต่สื่อมวลชนอินเดียคาดว่า บรูนี จะเดินทางมาสมทบในภายหลัง
ประธานาธิบดีซาร์โกซี มีกำหนดเยือนอินเดีย 2 วัน ซึ่งเขามีแผนจะผลักดันให้มีการรื้อฟื้นโครงการซื้อเฮลิคอปเตอร์มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000 ล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้ยกเลิกไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เป็นที่คาดว่า บริษัทฝรั่งเศสจะได้รับเชิญให้ช่วยปรับปรุงสมรรถนะฝูงบินขับไล่มิราจของอินเดียภายใต้สัญญามูลค่า 1,500 ล้านยูโร (ประมาณ72,000 ล้านบาท) และยังจะมีการหารือในประเด็นข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ เพื่อเปิดทางให้ฝรั่งเศสจัดหาอุปกรณ์ และเชื้อเพลิงให้แก่อินเดีย หลังคลี่คลายปัญหากับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ อินเดียถูกห้ามซื้ออุปกรณ์ และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลังดำเนินการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ เมื่อปี 2517 และ 2541
อินเดียนับเป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และคาดว่าจะใช้เงินในเรื่องนี้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.02 ล้านล้านบาท) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันฝรั่งเศสเป็นผู้จัดจำหน่ายอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของอินเดีย รองจากรัสเซีย รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีซาร์โกซี เดินทางถึงกรุงนิวเดลี โดยคาร์ลา บรูนี นักร้อง และอดีตนางแบบสาวชาวอิตาลีไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย แต่สื่อมวลชนอินเดียคาดว่า บรูนี จะเดินทางมาสมทบในภายหลัง
ประธานาธิบดีซาร์โกซี มีกำหนดเยือนอินเดีย 2 วัน ซึ่งเขามีแผนจะผลักดันให้มีการรื้อฟื้นโครงการซื้อเฮลิคอปเตอร์มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000 ล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้ยกเลิกไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เป็นที่คาดว่า บริษัทฝรั่งเศสจะได้รับเชิญให้ช่วยปรับปรุงสมรรถนะฝูงบินขับไล่มิราจของอินเดียภายใต้สัญญามูลค่า 1,500 ล้านยูโร (ประมาณ72,000 ล้านบาท) และยังจะมีการหารือในประเด็นข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ เพื่อเปิดทางให้ฝรั่งเศสจัดหาอุปกรณ์ และเชื้อเพลิงให้แก่อินเดีย หลังคลี่คลายปัญหากับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ อินเดียถูกห้ามซื้ออุปกรณ์ และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลังดำเนินการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ เมื่อปี 2517 และ 2541