Youtube :Travel MGR
ปกติแล้วการเลือกโปรแกรมทัวร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากจะดูที่ตัวโปรแกรม สถานที่ท่องเที่ยว และความน่าเชื่อถือของบริษัทที่จัดทัวรืแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ “ราคา”
อย่างโปรแกรมท่องเที่ยวต่างประเทศยอดฮิตที่เกาหลี-ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาหลักหมื่นต้นๆ - กลางๆ (ขึ้นอยู่กับเทศกาลและสถานที่ท่องเที่ยว) แต่ถ้าได้ไปทัวร์เกาหลี-ญี่ปุ่น ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท หรือหมื่นบาทนิดๆ ใครบ้างที่จะไม่สนใจหันกลับมาลองอ่านโปรแกรมทัวร์ดูอีกครั้ง
โปรโมชั่นดี ราคาเร้าใจ ได้ไปเที่ยวที่สวยๆ นั่นก็คือ “โปรไฟไหม้” ที่มักจะเห็นกันบ่อยๆ
“โปรไฟไหม้” คืออะไร
โปรไฟไหม้ก็คือโปรโมชั่นทัวร์ที่มีการปรับลดราคา หรือทำราคาให้ถูกกว่าปกติมากๆ อาจจะถึงขั้นลดราคา 50-60% ซึ่งอาจจะเกิดจากมีที่หลุด ทัวร์ออกเดินทางด่วน ลูกค้าฝากขายเพราะเดินทางไม่ได้ หรือต้องการที่นั่งเพื่อปิดกรุ๊ปให้ออกเดินทางได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโปรที่เดินทางเร่งด่วน อาจจะเดินทางคืนนี้ พรุ่งนี้ หรืออีก 2-3 วัน มีที่ยั่งไม่เยอะ ลูกค้าต้องพร้อมจ่ายเงินและเดินทางในทันที โดยราครที่ปรับลดลงมามากๆ นั้นก็เพื่อให้เป็นที่สนใจ และตัดสินใจจองอย่างรวดเร็ว
คนที่สนใจจะจองทัวร์โปรไฟไหม้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนที่พร้อมเดินทางตลอดเวลา เนื่องจากเป็นทัวร์ที่มักจะออกเดินทางกระทันหัน ไม่ว่าจะเป็นคืนนี้ พรุ่งนี้ หรือในอีกไม่กี่วัน คนที่ตัดสินใจจะจองต้องมีพร้อมทั้งเงินที่ต้องจ่ายค่าทัวร์ทันที มีเวลาพร้อมออกเดินทางทันที ซึ่งโปรไฟไหม้ส่วนใหญ่มักจะออกเดินทางวันธรรมดา หรือไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาว ในกรณีที่ไปต่างประเทศ ผู้ที่จะเดินทางต้องมีพาสปอร์ตพร้อมเดินทาง มีอายุเหลือมากพอตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ ที่สำคัญต้องมีร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการเดินทาง
ข้อดีของการจองทัวร์โปรไฟไหม้ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของราคา ที่ถูกลดลงมาจนเป็นที่น่าสนใจมากๆ มาพร้อมกับโปรแกรมทัวร์ที่ถูกใจ มีสถานที่ไฮไลต์ที่ได้ไปเที่ยวในราคาถูก ออกเดินทางได้รวดเร็วทันใจไม่ต้องรอนาน
แต่นอกจากข้อดีด้านราคาแล้ว ก็มีข้อเสียอยู่บางข้อ ที่จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยตัดสินใจว่าจะจองโปรไฟไหม้หรือไม่ อย่างการที่ต้องพร้อมออกเดินทางทันที อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ทำงานประจำ มีตารางเวลาแน่นอน เพราะส่วนใหญ่ทัวร์ไฟไหม้มักจะเดินทางวันธรรมดา คนทำงานประจำอาจจะลาไม่ได้
และแม้ว่าตามโปรแกรมทัวร์ที่เห็นจะน่าสนใจ แต่อาจจะต้องทำใจไว้สักนิดว่าสิ่งที่คิด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ได้รับจริง ไปถึงแล้วอาจจะได้ไปเที่ยวครบทุกที่จริง แต่ได้ใช้เวลาในแต่ละที่น้อยมาก จนเรียกได้ว่าเป็นชะโงกทัวร์ การบริการอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด ที่พักอาจจะไม่ค่อยได้มาตรฐานเท่าไหร่ อาจจะให้เวลาอิสระเยอะเกินไป มีมื้ออาหารที่ต้องหากินเองมากกว่าปกติ บังคับพาเข้าร้านของของที่ระลึก หรือร้านขายสินค้าจากรัฐบาลมากกว่าเดิม ที่สำคัญ โปรไฟไหม้แบบนี้ไม่ได้มีครบทุกโปรแกรมทัวร์ที่เราต้องการ
แต่ก่อนนั้นเรื่องของโปรไฟไหม้ก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ พอมาถึงช่วงที่มีข่าวโควิด-19 ช่วงแรกๆ เมื่อตอนต้นปี 2563 ก็ยิ่งมีโปรไฟไหม้ออกมามากขึ้น เนื่องจากลูกค้าที่เคยจองทัวร์ไว้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เริ่มมีการยกเลิกทัวร์ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นช่วงที่คนนิยมไปทัวร์ต่างประเทศ ทั้งทางยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะที่เกาหลี-ญี่ปุ่น เพราะเป็นช่วงที่อากาศดี มีเทศกาลชมดอกไม้ และเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว
โปรไฟไหม้ในช่วงเวลาอื่นๆ อาจจะเป็นเรื่องดีของคนที่อยากเดินทางท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา แต่ถ้าเป็นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด นั้นเหมาะสมหรือไม่
อย่างที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า การเดินทางไป-กลับจากแหล่งที่มีโรคระบาดอยู่นั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โควิด-19 ระบาดในวงกว้างมากขึ้น หากใครเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง (ประเทศกลุ่มเสี่ยงปัจจุบันมีดังนี้ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน เยอรมัน และฝรั่งเศส (ข้อมูลวันที่ 2 มี.ค.63)) ต้องผ่านการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น และถึงแม้ไม่มีอาการป่วยก็ต้องคอยสังเกตอาการ และควรกักตัวเองอยู่ในบ้านอีก 14 วัน
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีอีกหลายประเทศที่มีมาตรการตรวจคัดกรองและกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง สำหรับนักเดินทางจากประเทศไทย อาทิ อียิปต์ อิรัก อิสราเอล เป็นต้น และมีบางประเทศที่ห้ามผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย เดินทางเข้าประเทศ อาทิ คูเวต บาห์เรน การ์ตา เป็นต้น
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยตัดสินใจในเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวยังต่างประเทศทั้งแบบที่เดินทางไปเอง เดินทางกับทัวร์ปกติ รวมถึงทัวร์โปรไฟไหม้ ผู้ที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคมดีพอหรือไม่ พร้อมจะกักตัวเองและสังเกตอาการอย่างเคร่งครัดหรือไม่ หรือคิดเพียงว่าตัวเองเดินทางกลับมาแล้วไม่มีอาการป่วย ไม่ต้องกักตัวเองก็ได้ ออกไปทำกิจกรรมพบปะผู้คนตามปกติเหมือนเหล่าผีน้อย (บางส่วน) ที่ไม่ได้สนใจจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เท่าที่ควร
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง (รวมถึงประเทศอื่นๆ) จึงถูกขอร้องให้พักก่อน ถ้าไม่มีความเป็นเป็นจริงๆ
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวนการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขอความร่วมมือคนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้งดไปก่อนในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยว ประชุม สัมมนา ขอให้ยับยั้งชั่งใจอย่าไปลุ่มหลงกับตั๋วถูกหรือโปรไฟไหม้ ที่หลายบริษัททัวร์จัดทำขึ้นในราคาลดกระหน่ำ ระวังจะได้เที่ยวเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ย้ำว่าประเทศไทยจะไปรอดต่อไปได้หรือไม่นั้น อยู่ที่คนไทยเราที่เดินทางไปต่างประเทศกลับมา
ทางด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เผยว่า หนึ่งในสาเหตุที่ควบคุมค่อนข้างจะยากนั้น เนื่องจาก ณ ตอนนี้ โปรไฟไหม้ตามเว็บไซต์ ซึ่งเป็นที่กำลังมาแรง จึงเป็นเรื่องยากที่จะเฝ้าระวังและควบคุมคนไทยไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ แม้ว่าทางเราจะพยายามบอกว่าถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้
ส่วนของ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการที่ชัดเจน ระงับการจักทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมีการตรวจสอบและดำเนินการกับบริษัทที่ฉวยโอกาส จัดทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงในราคาถูก หวังให้บริษัทรายได้แต่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพื่อป้องกันโอกาสที่จะมีการนำเชื้อเข้ามาแพร่ในประเทศไทย เพราะถึงแม้ภาครัฐจะมีมาตรการตรวจวัดไข้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเล็ดรอดเข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของทีมข่าวท่องเที่ยว MGR Online ยังพบว่ามีการขายทัวร์โปรไฟไหม้ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ผ่านเว็บไซต์ของบริษัททัวร์บางแห่ง ซึ่งจะออกเดินทางในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 63 ทั้งๆ ที่มีการขอความร่วมมือให้งดขายทัวร์เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ แต่ก็มีบางบริษัทที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการระงับการขายโปรไฟไหม้ และทัวร์ปกติที่จะเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงในช่วงนี้ ต่อจากนี้ก็เหลือเพียงการตัดสินใจของนักเดินทางแล้วว่าจะพักการเดินทางไปก่อน หรือจะเห็นแก่ทัวร์ราคาถูก ที่อาจจะพาเชื้อโควิด-19 กลับบ้านมาเป็นของฝากคนอื่นๆ ด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
ปกติแล้วการเลือกโปรแกรมทัวร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากจะดูที่ตัวโปรแกรม สถานที่ท่องเที่ยว และความน่าเชื่อถือของบริษัทที่จัดทัวรืแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ “ราคา”
อย่างโปรแกรมท่องเที่ยวต่างประเทศยอดฮิตที่เกาหลี-ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาหลักหมื่นต้นๆ - กลางๆ (ขึ้นอยู่กับเทศกาลและสถานที่ท่องเที่ยว) แต่ถ้าได้ไปทัวร์เกาหลี-ญี่ปุ่น ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท หรือหมื่นบาทนิดๆ ใครบ้างที่จะไม่สนใจหันกลับมาลองอ่านโปรแกรมทัวร์ดูอีกครั้ง
โปรโมชั่นดี ราคาเร้าใจ ได้ไปเที่ยวที่สวยๆ นั่นก็คือ “โปรไฟไหม้” ที่มักจะเห็นกันบ่อยๆ
“โปรไฟไหม้” คืออะไร
โปรไฟไหม้ก็คือโปรโมชั่นทัวร์ที่มีการปรับลดราคา หรือทำราคาให้ถูกกว่าปกติมากๆ อาจจะถึงขั้นลดราคา 50-60% ซึ่งอาจจะเกิดจากมีที่หลุด ทัวร์ออกเดินทางด่วน ลูกค้าฝากขายเพราะเดินทางไม่ได้ หรือต้องการที่นั่งเพื่อปิดกรุ๊ปให้ออกเดินทางได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโปรที่เดินทางเร่งด่วน อาจจะเดินทางคืนนี้ พรุ่งนี้ หรืออีก 2-3 วัน มีที่ยั่งไม่เยอะ ลูกค้าต้องพร้อมจ่ายเงินและเดินทางในทันที โดยราครที่ปรับลดลงมามากๆ นั้นก็เพื่อให้เป็นที่สนใจ และตัดสินใจจองอย่างรวดเร็ว
คนที่สนใจจะจองทัวร์โปรไฟไหม้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนที่พร้อมเดินทางตลอดเวลา เนื่องจากเป็นทัวร์ที่มักจะออกเดินทางกระทันหัน ไม่ว่าจะเป็นคืนนี้ พรุ่งนี้ หรือในอีกไม่กี่วัน คนที่ตัดสินใจจะจองต้องมีพร้อมทั้งเงินที่ต้องจ่ายค่าทัวร์ทันที มีเวลาพร้อมออกเดินทางทันที ซึ่งโปรไฟไหม้ส่วนใหญ่มักจะออกเดินทางวันธรรมดา หรือไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาว ในกรณีที่ไปต่างประเทศ ผู้ที่จะเดินทางต้องมีพาสปอร์ตพร้อมเดินทาง มีอายุเหลือมากพอตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ ที่สำคัญต้องมีร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการเดินทาง
ข้อดีของการจองทัวร์โปรไฟไหม้ แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของราคา ที่ถูกลดลงมาจนเป็นที่น่าสนใจมากๆ มาพร้อมกับโปรแกรมทัวร์ที่ถูกใจ มีสถานที่ไฮไลต์ที่ได้ไปเที่ยวในราคาถูก ออกเดินทางได้รวดเร็วทันใจไม่ต้องรอนาน
แต่นอกจากข้อดีด้านราคาแล้ว ก็มีข้อเสียอยู่บางข้อ ที่จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยตัดสินใจว่าจะจองโปรไฟไหม้หรือไม่ อย่างการที่ต้องพร้อมออกเดินทางทันที อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ทำงานประจำ มีตารางเวลาแน่นอน เพราะส่วนใหญ่ทัวร์ไฟไหม้มักจะเดินทางวันธรรมดา คนทำงานประจำอาจจะลาไม่ได้
และแม้ว่าตามโปรแกรมทัวร์ที่เห็นจะน่าสนใจ แต่อาจจะต้องทำใจไว้สักนิดว่าสิ่งที่คิด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ได้รับจริง ไปถึงแล้วอาจจะได้ไปเที่ยวครบทุกที่จริง แต่ได้ใช้เวลาในแต่ละที่น้อยมาก จนเรียกได้ว่าเป็นชะโงกทัวร์ การบริการอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด ที่พักอาจจะไม่ค่อยได้มาตรฐานเท่าไหร่ อาจจะให้เวลาอิสระเยอะเกินไป มีมื้ออาหารที่ต้องหากินเองมากกว่าปกติ บังคับพาเข้าร้านของของที่ระลึก หรือร้านขายสินค้าจากรัฐบาลมากกว่าเดิม ที่สำคัญ โปรไฟไหม้แบบนี้ไม่ได้มีครบทุกโปรแกรมทัวร์ที่เราต้องการ
แต่ก่อนนั้นเรื่องของโปรไฟไหม้ก็มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ พอมาถึงช่วงที่มีข่าวโควิด-19 ช่วงแรกๆ เมื่อตอนต้นปี 2563 ก็ยิ่งมีโปรไฟไหม้ออกมามากขึ้น เนื่องจากลูกค้าที่เคยจองทัวร์ไว้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เริ่มมีการยกเลิกทัวร์ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นช่วงที่คนนิยมไปทัวร์ต่างประเทศ ทั้งทางยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะที่เกาหลี-ญี่ปุ่น เพราะเป็นช่วงที่อากาศดี มีเทศกาลชมดอกไม้ และเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว
โปรไฟไหม้ในช่วงเวลาอื่นๆ อาจจะเป็นเรื่องดีของคนที่อยากเดินทางท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา แต่ถ้าเป็นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด นั้นเหมาะสมหรือไม่
อย่างที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า การเดินทางไป-กลับจากแหล่งที่มีโรคระบาดอยู่นั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โควิด-19 ระบาดในวงกว้างมากขึ้น หากใครเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง (ประเทศกลุ่มเสี่ยงปัจจุบันมีดังนี้ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน เยอรมัน และฝรั่งเศส (ข้อมูลวันที่ 2 มี.ค.63)) ต้องผ่านการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น และถึงแม้ไม่มีอาการป่วยก็ต้องคอยสังเกตอาการ และควรกักตัวเองอยู่ในบ้านอีก 14 วัน
นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีอีกหลายประเทศที่มีมาตรการตรวจคัดกรองและกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง สำหรับนักเดินทางจากประเทศไทย อาทิ อียิปต์ อิรัก อิสราเอล เป็นต้น และมีบางประเทศที่ห้ามผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย เดินทางเข้าประเทศ อาทิ คูเวต บาห์เรน การ์ตา เป็นต้น
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยตัดสินใจในเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวยังต่างประเทศทั้งแบบที่เดินทางไปเอง เดินทางกับทัวร์ปกติ รวมถึงทัวร์โปรไฟไหม้ ผู้ที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคมดีพอหรือไม่ พร้อมจะกักตัวเองและสังเกตอาการอย่างเคร่งครัดหรือไม่ หรือคิดเพียงว่าตัวเองเดินทางกลับมาแล้วไม่มีอาการป่วย ไม่ต้องกักตัวเองก็ได้ ออกไปทำกิจกรรมพบปะผู้คนตามปกติเหมือนเหล่าผีน้อย (บางส่วน) ที่ไม่ได้สนใจจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เท่าที่ควร
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง (รวมถึงประเทศอื่นๆ) จึงถูกขอร้องให้พักก่อน ถ้าไม่มีความเป็นเป็นจริงๆ
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวนการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขอความร่วมมือคนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอให้งดไปก่อนในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยว ประชุม สัมมนา ขอให้ยับยั้งชั่งใจอย่าไปลุ่มหลงกับตั๋วถูกหรือโปรไฟไหม้ ที่หลายบริษัททัวร์จัดทำขึ้นในราคาลดกระหน่ำ ระวังจะได้เที่ยวเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ย้ำว่าประเทศไทยจะไปรอดต่อไปได้หรือไม่นั้น อยู่ที่คนไทยเราที่เดินทางไปต่างประเทศกลับมา
ทางด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เผยว่า หนึ่งในสาเหตุที่ควบคุมค่อนข้างจะยากนั้น เนื่องจาก ณ ตอนนี้ โปรไฟไหม้ตามเว็บไซต์ ซึ่งเป็นที่กำลังมาแรง จึงเป็นเรื่องยากที่จะเฝ้าระวังและควบคุมคนไทยไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ แม้ว่าทางเราจะพยายามบอกว่าถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้
ส่วนของ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการที่ชัดเจน ระงับการจักทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมีการตรวจสอบและดำเนินการกับบริษัทที่ฉวยโอกาส จัดทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงในราคาถูก หวังให้บริษัทรายได้แต่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพื่อป้องกันโอกาสที่จะมีการนำเชื้อเข้ามาแพร่ในประเทศไทย เพราะถึงแม้ภาครัฐจะมีมาตรการตรวจวัดไข้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเล็ดรอดเข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของทีมข่าวท่องเที่ยว MGR Online ยังพบว่ามีการขายทัวร์โปรไฟไหม้ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ผ่านเว็บไซต์ของบริษัททัวร์บางแห่ง ซึ่งจะออกเดินทางในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 63 ทั้งๆ ที่มีการขอความร่วมมือให้งดขายทัวร์เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ แต่ก็มีบางบริษัทที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการระงับการขายโปรไฟไหม้ และทัวร์ปกติที่จะเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงในช่วงนี้ ต่อจากนี้ก็เหลือเพียงการตัดสินใจของนักเดินทางแล้วว่าจะพักการเดินทางไปก่อน หรือจะเห็นแก่ทัวร์ราคาถูก ที่อาจจะพาเชื้อโควิด-19 กลับบ้านมาเป็นของฝากคนอื่นๆ ด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR