Youtube :Travel MGR
จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลเสียกระทบไปทั่วทุกภาคส่วน ธุรกิจท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นเดียวกัน ถึงขนาดที่ว่ารัฐบาลต้องออกประกาศขอความร่วมมือให้บริษัททัวร์ต่างๆ งดทำทัวร์โปรไฟไหม้ ซึ่งเป็นทัวร์ราคาถูกมาก ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไปเที่ยวยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แล้วอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาสู่ประเทศไทยได้
ในสถานการณ์เกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เผชิญกันอยู่ตอนนี้ บริษัททัวร์หลายแห่ง ต่างก็ต้องคำนึงถึงการทำทัวร์ที่ดีมีคุณภาพ ยึดหลักการมีจิตสำนึกที่ดี ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งแม้ว่าจะเจอพิษโควิด-19 เล่นงาน แต่ก็ยังยึดมั่นในการทำทัวร์ที่ดี ไม่เห็นแก่รายได้ส่วนตัว แต่มองเห็นแก่คุณภาพชีวิตที่ปลอดภัยของส่วนรวม โดยยังยึดมั่นทำทัวร์แบบมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม
บริษัท เวิลด์โปร แทรเวิล จำกัด มีคุณรุ่งนภา คำพญา เป็นกรรมการผู้จัดการและที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ MICHINOKU INBOUND PROMOTION GROUP ภูมิภาคโทโฮกุ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ที่ทำทัวร์แบบมีคุณภาพได้บอกถึงผลกระทบจากโควิด-19 ไว้ว่า ทางบริษัทได้รับผลกระทบมาตั้งแต่เดือนมกราคม แล้วเมื่อมีข้อกำหนดมาว่าให้มีการคืนเงินให้กับลูกค้าคนไทย ถ้ายกเลิกทัวร์ก่อน 1 เดือนต้องให้คืนเงิน 100% ยิ่งก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรง
“เมื่อเราจะต้องคืนเงิน 100% ตามประกาศ สิ่งที่เรากระทบตรงๆ ก็คือ การมัดจำกับทางภาคผู้ค้า สายการบิน โรงแรมร้านอาหาร อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องมาแบกรับ ซึ่งบางเจ้าก็ยอมให้ความร่วมมือ บางเจ้าก็ขอให้เลื่อนไป คือยกการมัดจำนี้เลื่อนออกไปก็กลายเป็นเครดิตให้ แต่ว่าเราก็ต้องสูญเสียเงินนี้ไประยะหนึ่ง และไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีผลกับการหมุนเวียนเงินภายในของบริษัท” รุ่งนภา กล่าว
เมื่อถามถึงว่าทางบริษัทมีการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไรบ้าง คุณรุ่งนภา กล่าวว่า “ทางบริษัทได้ยกเลิกกรุ๊ปทัวร์หน้าร้าน หยุดการเดินทางไปญี่ปุ่นทั้งหมดตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงสิ้นเดือนเมษายน เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมทางหนึ่ง และถึงแม้จะมีการยกเลิกทัวร์ไปแล้ว แต่เรายังมีการติดต่อกับลูกค้าในเรื่องของการให้ความรู้ ในเรื่องการระมัดระวังป้องกันตัวเอง มีการส่งข้อมูลที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข หรือข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในเรื่องการดูแลตัวเองส่งให้กับลูกค้า เพื่อช่วยกันดูแลสุขภาพ และก็หวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เราก็จะได้กลับไปเที่ยวกันต่อ”
ถึงแม้ว่าทางบริษัทเวิลด์โปร แทรเวิล จะไม่มีการจัดทัวร์ไปญี่ปุ่นแล้ว แต่ว่าทางบริษัทก็ยังมีการจัดทัวร์ไปเที่ยวยังสถานที่อื่นแทน และเน้นให้ความสำคัญกับการจัดทัวร์ภายในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการจัดไปเที่ยวจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นสถานที่มีประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะได้เพิ่มพูนความรู้ และให้คนไทยหันมาสนใจการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
คุณรุ่งนภา ได้ฝากถึงผู้ที่คิดจะไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ว่า “อยากจะให้ทุกท่านได้ตระหนักถึงความปลอดภัยภาพรวมของสาธารณะก่อน ถ้าเราหยุดที่จะนำเข้าหรือส่งออกความไม่ปลอดภัยตรงนี้ เราไม่ควรที่จะเป็นคนเพิ่มความเสี่ยงให้กับสังคม การดูแลรักษาตัวเองโดยการที่ไม่ไปต่างประเทศที่เสี่ยง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ประเทศชาติเราผ่านวิกฤตในช่วงนี้ไปได้ เราจะผ่านช่วงเวลาวิกฤตตรงนี้ไปได้ในช่วงเวลาอันสั้น ขอให้ทุกอย่างจบด้วยความรวดเร็ว ฉะนั้นต้องขอความร่วมมือจากทุกๆ คน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บริษัททัวร์เท่านั้น”
ทางด้านคุณวาสนา ไพศาลอัคนี ผู้จัดการทั่วไปบจก.จอยฟูลฮอลิเดย์ ที่ทำทัวร์แบบมีคุณภาพได้พูดถึงผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อการทำทัวร์ของบริษัทว่า “ไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อบริษัททัวร์ของเรา ถ้ามีคะแนน 1-10 ให้คะแนนผลกระทบที่ 10 เลย เพราะตั้งแต่ทำทัวร์มาตั้งแต่ปี 2001 ก็เจอโรคซาร์สมาก่อนแล้ว แต่ว่าช่วงนั้นยังไม่หนักมาก แต่ว่าก็ช็อคเหมือนกัน พอโควิดเข้ามาประมาณเดือนธันวาคมก็เดาเกมส์แล้วว่าน่าจะเหมือนซาร์ส แต่ว่าครั้งนี้มันน่าจะหนักกว่าซาร์ส ตรงที่ว่าสเกลมันใหญ่ไปหมดทั้งภาคธุรกิจ แต่ก่อนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วยังไม่มีเกิดเรื่องโปรไฟไหม้ หรือว่าคนเดินทางเยอะขนาดนี้มันก็เลยไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเยอะ ทุกวันนี้คนลงทุนไปกับการท่องเที่ยวเยอะในช่วงเมษายน มันก็เลยเหมือนโดนระเบิดลูกใหญ่ขึ้นมาโดยที่ไม่มีใครทราบ”
เมื่อถามถึงว่าตอนนี้ยังมีการออกกรุ๊ปทัวร์ของทางบริษัทอยู่หรือไม่ คำตอบที่ได้คือตอนนี้ไม่มีกรุ๊ปทัวร์ไปเที่ยวกับทางบริษัท เรียกว่าเป็นศูนย์ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังติดค้างอยู่ 3-4 กรุ๊ปในช่วงเมษายน ซึ่งรอลูกค้าเป็นคนตัดสินใจ แต่ว่าทางบริษัทได้ทำการชักชวนให้ลูกค้าหยุดเดินทางจะดีกว่า
“เราไม่อยากให้ลูกค้าเสียหายไปมากกว่านี้ เพราะในที่สุดแล้วลูกค้าก็จะต้องยกเลิกอยู่ดี เพราะสถานการณ์มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจะให้ลูกค้ามารีรอทำไม เราจึงตัดสินใจให้ลูกค้าเลยดีกว่า ว่าคุณไม่ต้องเดินทางดีกว่า และประกอบกับที่รัฐบาลได้สนับสนุนว่าอย่าเดินทางเลย เพื่อหลีกเลี่ยงให้เชื้อแพร่กระจายน้อยลงๆ การงดการเดินทางมันก็เป็นส่วนช่วยสังคมได้ระดับหนึ่ง เรามองว่าอย่างนั้น”
สำหรับการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมที่ทางบริษัททัวร์จอยฟูลฮอลิเดย์ได้ทำนั้น คุณวาสนาบอกว่า “เรา พยายามที่จะตัดไม่ขายทัวร์อะไรเลย สำหรับเราใครจะขายเราไม่รู้นะ แต่สำหรับเราไม่ขายแล้ว เราตัดใจยอมขาดทุนตอนนี้เลยดีกว่า แล้วถ้าขายไปก็อาจจะเป็น 2 มุม มุมหนึ่งก็อาจจะว่ามีอะไรอยู่ในบริษัทมีกิจกรรม อีกมุมหนึ่งก็โดนสังคมโจมตีว่ายังขายทัวร์อีกหรือ ฉะนั้นก็เลยมองว่าเรายอมเจ็บตัวตรงนี้ดีกว่าแล้วก็ไม่ต่อยอดแล้ว เพราะว่ารัฐบาลก็ออกมาประกาศแล้วว่าอย่าเดินทางเลย ภาคเอกชนก็ออกมาห้ามเดินทาง จะไปฝืนกระแสสังคมก็ไม่ได้”
อีกทั้งคุณวาสนาได้มีข้อคิดฝากถึงคนที่ยังอยากจะซื้อทัวร์ไปต่างประเทศในช่วงนี้ไว้ว่า “ถ้าคุณอยากจะซื้อทัวร์ไปต่างประเทศ อยากจะบอกว่ากลับมาต้องโดนเป็นเชลยของสังคม คุณรับสภาพได้ไหม แล้วถ้าคุณไปถึงที่เที่ยวมีคนมารังเกียจคุณในสถานที่ไปที่อื่น เพราะว่าข่าวก็ออกแรงว่าอย่างที่อังกฤษ พอเห็นคนเอเชียก็รังเกียจ คุณยอมรับได้ไหมในการเที่ยวแบบนี้ ถ้าคุณยอมรับได้แล้วคุณไม่แคร์ใคร ก็ไม่มีใครว่าคุณ คุณไปเถอะ อันนี้เราก็เตือนได้แค่นี้ ให้คนที่ไปสะกิดใจตรงนี้ที่ว่า ออกไปเที่ยวแล้วก็ไม่มีความสุข กลับมาแล้วก็ไม่มีความสุข ก็น่าจะคิดได้ว่าจะไปหรือไม่ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องการเงินของเขาด้วย เพราะบางคนอาจจะอุตสาห์เก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อเที่ยวครั้งนี้ ก็ถือว่าเขาเจ็บตัวไปเยอะ แต่บางคนบอกว่าอันนี้เป็นเศษเสี้ยวของเงินที่เขาได้เขาก็ไม่แคร์ อันนี้เราก็ต้องเห็นมุมมองของเขาออกมาด้วย ก็ได้แค่เตือนแบบนี้ คุณก็ไปชั่งเอาเองก็แล้วกันว่า คุณจะออกไปเที่ยวหรือคุณจะยอมทิ้งเงิน ก็ต้องไปคิดเอาเอง” วาสนา กล่าวแบบชี้แนวทาง
อีกหนึ่งบริษัททัวร์ที่ได้ทำทัวร์แบบมีคุณภาพ คือคุณดุษณี กู้กุลประสงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็กซเปิร์ต แทรเวิล ได้บอกเล่าถึงผลกระทบจากโควิด-19 ไว้ว่าทางบริษัทต้องระงับการเดินทางของทัวร์ทั้งหมด ได้รับผลกระทบ 100%
“ไม่มีคนไปเที่ยวกับทัวร์ของทางบริษัทเราเลย เพราะว่าทำเอาต์บาวนด์ ขาเดียวขาออก ก็คือคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าของทางเราเป็นทัวร์อินเซนทีฟ หมายความว่าจะเป็นบริษัทห้างร้านที่ว่าจ้างจัดทัวร์ให้ลูกค้าพรีเมียมของเขาที่มียอดได้ หรือลูกค้าชั้นหนึ่งเขาจะตอบแทนลูกค้าด้วยการจัดทัวร์พาไปเที่ยว เพราะฉะนั้นการที่ตัดสินใจอยู่ระหว่างทางบริษัททัวร์ของเรากับออแกไนเซอร์เป็นหลัก ลูกค้าทางบริษัทมีแค่ประมาณ 30% ที่เป็นลูกค้าประเทศกลุ่มเสี่ยง ก็มีการคุยตกลงกันว่ายกเลิกการเดินทาง เช่นญี่ปุ่น ซึ่งลูกค้าของทางบริษัทเป็นประเทศญี่ปุ่นและยุโรปเยอะ” ดุษณี อธิบาย
เมื่อถามถึงว่าทางบริษัททัวร์ได้มีการแสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไรบ้างนั้น คุณดุษณี บอกว่าทางบริษัทได้ทำการยกเลิกทัวร์ทั้งหมด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการคุยกับทางออแกไนเซอร์แล้วดูสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าก็ทำการยกเลิกทัวร์ เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ เพราะถ้ายังทำการเดินทางอยู่มองว่าปัญหาที่ตามมาก็คือ ลูกค้าก็เที่ยวกันกันแบบไม่สนุก จะถ่ายรูปก็ต้องคอยถอดหน้ากากใส่หน้ากาก แล้วกลับมาสุ่มเสี่ยงถ้าไม่สบาย ก็มีผลต่อการโดนกักตัว ทางบริษัทมองว่าการท่องเที่ยวมันรอได้เลื่อนได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของบริษัทที่สามารถเลื่อนการทำทัวร์ออกไปก่อนได้
“สำหรับคนที่มีความเร่งด่วนที่ต้องไปต่างประเทศ แบบเลื่อนไม่ได้ รอไม่ได้ มีความจำเป็นต้องไป ก็ขอให้ดูแลตัวเองและเข้มงวดกับกฎกติกามารยาทของแต่ละประเทศนั้น แม้กระทั่งตอนกลับมาก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี แค่ทุกคนรับผิดชอบตัวเองก็พอแล้ว ก็เท่ากับว่าช่วยสังคมแล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงช่วยคนอื่น ตอนนี้ขอให้ทุกคนช่วยตัวเอง ทำยังไงไม่ให้ไปผิดกฎระเบียบ ไม่ไปทำให้คนอื่นวุ่นวาย” ดุษณี กล่าวทิ้งท้าย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลเสียกระทบไปทั่วทุกภาคส่วน ธุรกิจท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นเดียวกัน ถึงขนาดที่ว่ารัฐบาลต้องออกประกาศขอความร่วมมือให้บริษัททัวร์ต่างๆ งดทำทัวร์โปรไฟไหม้ ซึ่งเป็นทัวร์ราคาถูกมาก ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไปเที่ยวยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แล้วอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาสู่ประเทศไทยได้
ในสถานการณ์เกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เผชิญกันอยู่ตอนนี้ บริษัททัวร์หลายแห่ง ต่างก็ต้องคำนึงถึงการทำทัวร์ที่ดีมีคุณภาพ ยึดหลักการมีจิตสำนึกที่ดี ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งแม้ว่าจะเจอพิษโควิด-19 เล่นงาน แต่ก็ยังยึดมั่นในการทำทัวร์ที่ดี ไม่เห็นแก่รายได้ส่วนตัว แต่มองเห็นแก่คุณภาพชีวิตที่ปลอดภัยของส่วนรวม โดยยังยึดมั่นทำทัวร์แบบมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม
บริษัท เวิลด์โปร แทรเวิล จำกัด มีคุณรุ่งนภา คำพญา เป็นกรรมการผู้จัดการและที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ MICHINOKU INBOUND PROMOTION GROUP ภูมิภาคโทโฮกุ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ที่ทำทัวร์แบบมีคุณภาพได้บอกถึงผลกระทบจากโควิด-19 ไว้ว่า ทางบริษัทได้รับผลกระทบมาตั้งแต่เดือนมกราคม แล้วเมื่อมีข้อกำหนดมาว่าให้มีการคืนเงินให้กับลูกค้าคนไทย ถ้ายกเลิกทัวร์ก่อน 1 เดือนต้องให้คืนเงิน 100% ยิ่งก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรง
“เมื่อเราจะต้องคืนเงิน 100% ตามประกาศ สิ่งที่เรากระทบตรงๆ ก็คือ การมัดจำกับทางภาคผู้ค้า สายการบิน โรงแรมร้านอาหาร อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องมาแบกรับ ซึ่งบางเจ้าก็ยอมให้ความร่วมมือ บางเจ้าก็ขอให้เลื่อนไป คือยกการมัดจำนี้เลื่อนออกไปก็กลายเป็นเครดิตให้ แต่ว่าเราก็ต้องสูญเสียเงินนี้ไประยะหนึ่ง และไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีผลกับการหมุนเวียนเงินภายในของบริษัท” รุ่งนภา กล่าว
เมื่อถามถึงว่าทางบริษัทมีการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไรบ้าง คุณรุ่งนภา กล่าวว่า “ทางบริษัทได้ยกเลิกกรุ๊ปทัวร์หน้าร้าน หยุดการเดินทางไปญี่ปุ่นทั้งหมดตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงสิ้นเดือนเมษายน เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมทางหนึ่ง และถึงแม้จะมีการยกเลิกทัวร์ไปแล้ว แต่เรายังมีการติดต่อกับลูกค้าในเรื่องของการให้ความรู้ ในเรื่องการระมัดระวังป้องกันตัวเอง มีการส่งข้อมูลที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข หรือข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในเรื่องการดูแลตัวเองส่งให้กับลูกค้า เพื่อช่วยกันดูแลสุขภาพ และก็หวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เราก็จะได้กลับไปเที่ยวกันต่อ”
ถึงแม้ว่าทางบริษัทเวิลด์โปร แทรเวิล จะไม่มีการจัดทัวร์ไปญี่ปุ่นแล้ว แต่ว่าทางบริษัทก็ยังมีการจัดทัวร์ไปเที่ยวยังสถานที่อื่นแทน และเน้นให้ความสำคัญกับการจัดทัวร์ภายในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการจัดไปเที่ยวจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นสถานที่มีประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะได้เพิ่มพูนความรู้ และให้คนไทยหันมาสนใจการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
คุณรุ่งนภา ได้ฝากถึงผู้ที่คิดจะไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ว่า “อยากจะให้ทุกท่านได้ตระหนักถึงความปลอดภัยภาพรวมของสาธารณะก่อน ถ้าเราหยุดที่จะนำเข้าหรือส่งออกความไม่ปลอดภัยตรงนี้ เราไม่ควรที่จะเป็นคนเพิ่มความเสี่ยงให้กับสังคม การดูแลรักษาตัวเองโดยการที่ไม่ไปต่างประเทศที่เสี่ยง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ประเทศชาติเราผ่านวิกฤตในช่วงนี้ไปได้ เราจะผ่านช่วงเวลาวิกฤตตรงนี้ไปได้ในช่วงเวลาอันสั้น ขอให้ทุกอย่างจบด้วยความรวดเร็ว ฉะนั้นต้องขอความร่วมมือจากทุกๆ คน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บริษัททัวร์เท่านั้น”
ทางด้านคุณวาสนา ไพศาลอัคนี ผู้จัดการทั่วไปบจก.จอยฟูลฮอลิเดย์ ที่ทำทัวร์แบบมีคุณภาพได้พูดถึงผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อการทำทัวร์ของบริษัทว่า “ไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อบริษัททัวร์ของเรา ถ้ามีคะแนน 1-10 ให้คะแนนผลกระทบที่ 10 เลย เพราะตั้งแต่ทำทัวร์มาตั้งแต่ปี 2001 ก็เจอโรคซาร์สมาก่อนแล้ว แต่ว่าช่วงนั้นยังไม่หนักมาก แต่ว่าก็ช็อคเหมือนกัน พอโควิดเข้ามาประมาณเดือนธันวาคมก็เดาเกมส์แล้วว่าน่าจะเหมือนซาร์ส แต่ว่าครั้งนี้มันน่าจะหนักกว่าซาร์ส ตรงที่ว่าสเกลมันใหญ่ไปหมดทั้งภาคธุรกิจ แต่ก่อนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วยังไม่มีเกิดเรื่องโปรไฟไหม้ หรือว่าคนเดินทางเยอะขนาดนี้มันก็เลยไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเยอะ ทุกวันนี้คนลงทุนไปกับการท่องเที่ยวเยอะในช่วงเมษายน มันก็เลยเหมือนโดนระเบิดลูกใหญ่ขึ้นมาโดยที่ไม่มีใครทราบ”
เมื่อถามถึงว่าตอนนี้ยังมีการออกกรุ๊ปทัวร์ของทางบริษัทอยู่หรือไม่ คำตอบที่ได้คือตอนนี้ไม่มีกรุ๊ปทัวร์ไปเที่ยวกับทางบริษัท เรียกว่าเป็นศูนย์ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังติดค้างอยู่ 3-4 กรุ๊ปในช่วงเมษายน ซึ่งรอลูกค้าเป็นคนตัดสินใจ แต่ว่าทางบริษัทได้ทำการชักชวนให้ลูกค้าหยุดเดินทางจะดีกว่า
“เราไม่อยากให้ลูกค้าเสียหายไปมากกว่านี้ เพราะในที่สุดแล้วลูกค้าก็จะต้องยกเลิกอยู่ดี เพราะสถานการณ์มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นจะให้ลูกค้ามารีรอทำไม เราจึงตัดสินใจให้ลูกค้าเลยดีกว่า ว่าคุณไม่ต้องเดินทางดีกว่า และประกอบกับที่รัฐบาลได้สนับสนุนว่าอย่าเดินทางเลย เพื่อหลีกเลี่ยงให้เชื้อแพร่กระจายน้อยลงๆ การงดการเดินทางมันก็เป็นส่วนช่วยสังคมได้ระดับหนึ่ง เรามองว่าอย่างนั้น”
สำหรับการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมที่ทางบริษัททัวร์จอยฟูลฮอลิเดย์ได้ทำนั้น คุณวาสนาบอกว่า “เรา พยายามที่จะตัดไม่ขายทัวร์อะไรเลย สำหรับเราใครจะขายเราไม่รู้นะ แต่สำหรับเราไม่ขายแล้ว เราตัดใจยอมขาดทุนตอนนี้เลยดีกว่า แล้วถ้าขายไปก็อาจจะเป็น 2 มุม มุมหนึ่งก็อาจจะว่ามีอะไรอยู่ในบริษัทมีกิจกรรม อีกมุมหนึ่งก็โดนสังคมโจมตีว่ายังขายทัวร์อีกหรือ ฉะนั้นก็เลยมองว่าเรายอมเจ็บตัวตรงนี้ดีกว่าแล้วก็ไม่ต่อยอดแล้ว เพราะว่ารัฐบาลก็ออกมาประกาศแล้วว่าอย่าเดินทางเลย ภาคเอกชนก็ออกมาห้ามเดินทาง จะไปฝืนกระแสสังคมก็ไม่ได้”
อีกทั้งคุณวาสนาได้มีข้อคิดฝากถึงคนที่ยังอยากจะซื้อทัวร์ไปต่างประเทศในช่วงนี้ไว้ว่า “ถ้าคุณอยากจะซื้อทัวร์ไปต่างประเทศ อยากจะบอกว่ากลับมาต้องโดนเป็นเชลยของสังคม คุณรับสภาพได้ไหม แล้วถ้าคุณไปถึงที่เที่ยวมีคนมารังเกียจคุณในสถานที่ไปที่อื่น เพราะว่าข่าวก็ออกแรงว่าอย่างที่อังกฤษ พอเห็นคนเอเชียก็รังเกียจ คุณยอมรับได้ไหมในการเที่ยวแบบนี้ ถ้าคุณยอมรับได้แล้วคุณไม่แคร์ใคร ก็ไม่มีใครว่าคุณ คุณไปเถอะ อันนี้เราก็เตือนได้แค่นี้ ให้คนที่ไปสะกิดใจตรงนี้ที่ว่า ออกไปเที่ยวแล้วก็ไม่มีความสุข กลับมาแล้วก็ไม่มีความสุข ก็น่าจะคิดได้ว่าจะไปหรือไม่ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องการเงินของเขาด้วย เพราะบางคนอาจจะอุตสาห์เก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อเที่ยวครั้งนี้ ก็ถือว่าเขาเจ็บตัวไปเยอะ แต่บางคนบอกว่าอันนี้เป็นเศษเสี้ยวของเงินที่เขาได้เขาก็ไม่แคร์ อันนี้เราก็ต้องเห็นมุมมองของเขาออกมาด้วย ก็ได้แค่เตือนแบบนี้ คุณก็ไปชั่งเอาเองก็แล้วกันว่า คุณจะออกไปเที่ยวหรือคุณจะยอมทิ้งเงิน ก็ต้องไปคิดเอาเอง” วาสนา กล่าวแบบชี้แนวทาง
อีกหนึ่งบริษัททัวร์ที่ได้ทำทัวร์แบบมีคุณภาพ คือคุณดุษณี กู้กุลประสงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็กซเปิร์ต แทรเวิล ได้บอกเล่าถึงผลกระทบจากโควิด-19 ไว้ว่าทางบริษัทต้องระงับการเดินทางของทัวร์ทั้งหมด ได้รับผลกระทบ 100%
“ไม่มีคนไปเที่ยวกับทัวร์ของทางบริษัทเราเลย เพราะว่าทำเอาต์บาวนด์ ขาเดียวขาออก ก็คือคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าของทางเราเป็นทัวร์อินเซนทีฟ หมายความว่าจะเป็นบริษัทห้างร้านที่ว่าจ้างจัดทัวร์ให้ลูกค้าพรีเมียมของเขาที่มียอดได้ หรือลูกค้าชั้นหนึ่งเขาจะตอบแทนลูกค้าด้วยการจัดทัวร์พาไปเที่ยว เพราะฉะนั้นการที่ตัดสินใจอยู่ระหว่างทางบริษัททัวร์ของเรากับออแกไนเซอร์เป็นหลัก ลูกค้าทางบริษัทมีแค่ประมาณ 30% ที่เป็นลูกค้าประเทศกลุ่มเสี่ยง ก็มีการคุยตกลงกันว่ายกเลิกการเดินทาง เช่นญี่ปุ่น ซึ่งลูกค้าของทางบริษัทเป็นประเทศญี่ปุ่นและยุโรปเยอะ” ดุษณี อธิบาย
เมื่อถามถึงว่าทางบริษัททัวร์ได้มีการแสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไรบ้างนั้น คุณดุษณี บอกว่าทางบริษัทได้ทำการยกเลิกทัวร์ทั้งหมด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการคุยกับทางออแกไนเซอร์แล้วดูสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าก็ทำการยกเลิกทัวร์ เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ เพราะถ้ายังทำการเดินทางอยู่มองว่าปัญหาที่ตามมาก็คือ ลูกค้าก็เที่ยวกันกันแบบไม่สนุก จะถ่ายรูปก็ต้องคอยถอดหน้ากากใส่หน้ากาก แล้วกลับมาสุ่มเสี่ยงถ้าไม่สบาย ก็มีผลต่อการโดนกักตัว ทางบริษัทมองว่าการท่องเที่ยวมันรอได้เลื่อนได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของบริษัทที่สามารถเลื่อนการทำทัวร์ออกไปก่อนได้
“สำหรับคนที่มีความเร่งด่วนที่ต้องไปต่างประเทศ แบบเลื่อนไม่ได้ รอไม่ได้ มีความจำเป็นต้องไป ก็ขอให้ดูแลตัวเองและเข้มงวดกับกฎกติกามารยาทของแต่ละประเทศนั้น แม้กระทั่งตอนกลับมาก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี แค่ทุกคนรับผิดชอบตัวเองก็พอแล้ว ก็เท่ากับว่าช่วยสังคมแล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงช่วยคนอื่น ตอนนี้ขอให้ทุกคนช่วยตัวเอง ทำยังไงไม่ให้ไปผิดกฎระเบียบ ไม่ไปทำให้คนอื่นวุ่นวาย” ดุษณี กล่าวทิ้งท้าย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR