Facebook :Travel @ Manager
“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวยาวเรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหู มีตา หางยาว”
ที่ร้องเพลงช้างขึ้นมาแบบนี้ ก็เพราะว่าจะขอชวนทุกคนไปเที่ยวชมและสัมผัสความน่ารักของช้างไทยแสนรู้กันที่ “Ran-Tong Save & Rescue Elephant Center” ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมด 48 ไร่ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 การดำเนินงานของที่นี่พยายามที่จะช่วยเหลือช้างจากสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย ที่ดูแลช้างผิดวิธี หรือว่ามีช้างป่วย ช้างที่ไม่ได้รับการดูแล โดยซื้อช้างมาจากเจ้าของเก่า ส่วนมากช้างที่อยู่ที่นี่จะเป็นช้างที่มาจากโชว์ จากปางช้างโชว์ จากปางช้างลากไม้ หรือว่าช้างบางเชือกทำมาทั้ง 2 อย่าง
ช้างของที่นี่มีทั้งหมด 15 เชือก มีคนดูแลช้างแบบ 1 ต่อ 1 เชือก แล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนคนดูแล เมื่อมาเที่ยวที่ปางช้างนี้นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมทำกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่การสอนให้รู้จักว่าทำไมช้างต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ รู้ว่าช้างแต่ละเชือกมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งช้างแต่ละเชือกจะมีการดูแลที่แตกต่างกัน คนที่มาเที่ยวที่นี่จึงเหมือนได้มาศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงช้างอย่างแท้จริง
มีกิจกรรมของให้ความรู้เรื่องการดูแลช้างทั้งหมด จะเริ่มตั้งแต่ให้ความรู้เกี่ยวกับช้าง ว่าช้างเป็นสายพันธุ์อะไร อยู่ที่นี่มีความอยู่อย่างไร แล้วที่นี่ดูแลช้างอย่างไร ซึ่งที่นี่จะดุแลช้างอย่างดี โดยเน้นเรื่องปัจจัย 4 อย่าง คือ ปัจจัยแรกดูแลเรื่องอาหาร ด้านโภชนาการให้ช้างเหมือนกับคน ช้าง 1 เชือกจะกินประมาณ 10% ของน้ำหนักตัวของตัว ฉะนั้นช้างแต่ละตัวจะมีจำนวนอาหารเป็นส่วนตัว อาหารของช้างก็จะเป็นหญ้า เป็นอ้อย เป็นข้าวโพด
ปัจจัยที่สองมีการดูแลด้านสุขภาพ ตรวจสุขภาพ ให้วัคซีน ดูแลเรื่องเจ็บป่วยต่างๆ มีสัตวแพทย์ประจำดูแลช้าง แล้วปัจจัยที่สามคือด้านสิ่งแวดล้อมให้ช้างได้อยู่ในสถานที่เหมาะสม ซึ่งที่นี่จะมีภูเขา มีสวนป่าสวนหญ้า โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ปาง เพราะว่าช้างแต่ละช่วงอายุต้องการสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
โดยจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่จัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ใหญ่ มีส่วนของพื้นที่กว้างขวางที่มีภูเขาให้ช้างวัยรุ่นได้เดินเล่น เป็นที่อยู่ของช้างเด็กและช้างวัยรุ่น แล้วจะมีอีกปางที่มีพื้นที่เล็กกว่าจัดเป็นศูนย์การดูแลทางการแพทย์ สำหรับช้างอายุเยอะ มีพื้นที่ราบให้ช้างสูงอายุได้เดินแบบสบายๆ เพื่อดูแลให้ช้างได้ใช้ชีวิตมีคุณภาพ ให้ช้างได้อยู่อย่างสบาย
แล้วปัจจัยที่สี่เป็นปัจจัยสุดท้ายที่สำคัญ คือที่นี่ให้มิตรภาพกับช้าง มีคนคนดูแลช้างตลอด 24 ชั่วโมง แล้วช้างจะคุ้นเคยกับคน และช้างจะรู้สึกปลอดภัยเหมือนกับอยู่ในบ้านแล้วมีคนดูแล แล้วที่นี่ควบคุมดูแลช้างโดยการใช้แค่โซ่เส้นเล็ก ซึ่งการที่ต้องใช้โซ่กับช้างเพราะว่าสถานที่ตั้งในหมู่บ้านปางไม้แดง ธรรมชาติของช้างจะเดินไปเรื่อยๆ ต้องใช้โซ่กับช้างเพราะว่าป้องกันไม่ให้ช้างเดินออกไปนอกบริเวณ และไม่มีการใช้ตะขอสับช้าง แต่จะให้ควาญช้างพูดกับช้างอย่างเข้าใจกัน
การมาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ใช้เวลากับช้างแบบมีคุณภาพ คือจะได้สัมผัสช้างโดยตรง แบบไม่มีกำแพงกั้นระหว่างคนกับช้าง จะได้รับความใกล้ชิดสนิทสนมกับช้าง ไม่มีการทำให้ช้างรู้สึกกดดัน ช้างที่นี่จะถูกเลี้ยงปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับช้างตามธรรมชาติของช้าง
มีกิจกรรมการให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวด้านการดูแลรักษาช้าง อย่างเช่นสมมติมีช้างป่วย หรือต้องล้างแผลช้าง มีการสอนทำลูกประคบให้ช้าง สอนให้รู้จักดูแลช้างทั้งการแพทย์สมัยใหม่และแพทย์แผนโบราณ และมีกิจกรรมหลักๆ ก็คือการป้อนอาหารช้าง เล่นโคลน เล่นน้ำกับช้าง
โปรแกรมการเที่ยวที่นี่มี 3 โปรแกรม คือ มีครึ่งวันเช้า ครึ่งวันบ่าย และโปรแกรมเต็มวัน โปรแกรมครึ่งวันจะมีให้อาหารช้าง เล่นโคลน เล่นน้ำ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับช้าง ส่วนโปรแกรมเต็มวันก็จะมีการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาช้าง มีการทำลูกประคบให้ช้าง ทำวิตามินให้กับช้างสูงอายุ มีสมุนไพรที่ไกด์จะไปหามาได้ในแต่ละวันมาให้ร่วมทำกับช้าง และก็ยังมีโปรแกรมค้างคืนด้วยแล้วแต่ความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าใครอยากสัมผัสช้างที่น่ารักและแสนรู้ก็มาเที่ยวกันได้ที่ “Ran-Tong Save & Rescue Elephant Center” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Ran-Tong Save & Rescue Elephant Center” ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0-5327-2023, 09-5442-4644, 08-3953-6289 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bestelephantsanctuarychiangmai.com,www.facebook.com/rantongelephant
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวยาวเรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหู มีตา หางยาว”
ที่ร้องเพลงช้างขึ้นมาแบบนี้ ก็เพราะว่าจะขอชวนทุกคนไปเที่ยวชมและสัมผัสความน่ารักของช้างไทยแสนรู้กันที่ “Ran-Tong Save & Rescue Elephant Center” ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมด 48 ไร่ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 การดำเนินงานของที่นี่พยายามที่จะช่วยเหลือช้างจากสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย ที่ดูแลช้างผิดวิธี หรือว่ามีช้างป่วย ช้างที่ไม่ได้รับการดูแล โดยซื้อช้างมาจากเจ้าของเก่า ส่วนมากช้างที่อยู่ที่นี่จะเป็นช้างที่มาจากโชว์ จากปางช้างโชว์ จากปางช้างลากไม้ หรือว่าช้างบางเชือกทำมาทั้ง 2 อย่าง
ช้างของที่นี่มีทั้งหมด 15 เชือก มีคนดูแลช้างแบบ 1 ต่อ 1 เชือก แล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนคนดูแล เมื่อมาเที่ยวที่ปางช้างนี้นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมทำกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่การสอนให้รู้จักว่าทำไมช้างต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ รู้ว่าช้างแต่ละเชือกมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งช้างแต่ละเชือกจะมีการดูแลที่แตกต่างกัน คนที่มาเที่ยวที่นี่จึงเหมือนได้มาศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงช้างอย่างแท้จริง
มีกิจกรรมของให้ความรู้เรื่องการดูแลช้างทั้งหมด จะเริ่มตั้งแต่ให้ความรู้เกี่ยวกับช้าง ว่าช้างเป็นสายพันธุ์อะไร อยู่ที่นี่มีความอยู่อย่างไร แล้วที่นี่ดูแลช้างอย่างไร ซึ่งที่นี่จะดุแลช้างอย่างดี โดยเน้นเรื่องปัจจัย 4 อย่าง คือ ปัจจัยแรกดูแลเรื่องอาหาร ด้านโภชนาการให้ช้างเหมือนกับคน ช้าง 1 เชือกจะกินประมาณ 10% ของน้ำหนักตัวของตัว ฉะนั้นช้างแต่ละตัวจะมีจำนวนอาหารเป็นส่วนตัว อาหารของช้างก็จะเป็นหญ้า เป็นอ้อย เป็นข้าวโพด
ปัจจัยที่สองมีการดูแลด้านสุขภาพ ตรวจสุขภาพ ให้วัคซีน ดูแลเรื่องเจ็บป่วยต่างๆ มีสัตวแพทย์ประจำดูแลช้าง แล้วปัจจัยที่สามคือด้านสิ่งแวดล้อมให้ช้างได้อยู่ในสถานที่เหมาะสม ซึ่งที่นี่จะมีภูเขา มีสวนป่าสวนหญ้า โดยที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ปาง เพราะว่าช้างแต่ละช่วงอายุต้องการสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
โดยจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่จัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ใหญ่ มีส่วนของพื้นที่กว้างขวางที่มีภูเขาให้ช้างวัยรุ่นได้เดินเล่น เป็นที่อยู่ของช้างเด็กและช้างวัยรุ่น แล้วจะมีอีกปางที่มีพื้นที่เล็กกว่าจัดเป็นศูนย์การดูแลทางการแพทย์ สำหรับช้างอายุเยอะ มีพื้นที่ราบให้ช้างสูงอายุได้เดินแบบสบายๆ เพื่อดูแลให้ช้างได้ใช้ชีวิตมีคุณภาพ ให้ช้างได้อยู่อย่างสบาย
แล้วปัจจัยที่สี่เป็นปัจจัยสุดท้ายที่สำคัญ คือที่นี่ให้มิตรภาพกับช้าง มีคนคนดูแลช้างตลอด 24 ชั่วโมง แล้วช้างจะคุ้นเคยกับคน และช้างจะรู้สึกปลอดภัยเหมือนกับอยู่ในบ้านแล้วมีคนดูแล แล้วที่นี่ควบคุมดูแลช้างโดยการใช้แค่โซ่เส้นเล็ก ซึ่งการที่ต้องใช้โซ่กับช้างเพราะว่าสถานที่ตั้งในหมู่บ้านปางไม้แดง ธรรมชาติของช้างจะเดินไปเรื่อยๆ ต้องใช้โซ่กับช้างเพราะว่าป้องกันไม่ให้ช้างเดินออกไปนอกบริเวณ และไม่มีการใช้ตะขอสับช้าง แต่จะให้ควาญช้างพูดกับช้างอย่างเข้าใจกัน
การมาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ใช้เวลากับช้างแบบมีคุณภาพ คือจะได้สัมผัสช้างโดยตรง แบบไม่มีกำแพงกั้นระหว่างคนกับช้าง จะได้รับความใกล้ชิดสนิทสนมกับช้าง ไม่มีการทำให้ช้างรู้สึกกดดัน ช้างที่นี่จะถูกเลี้ยงปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับช้างตามธรรมชาติของช้าง
มีกิจกรรมการให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวด้านการดูแลรักษาช้าง อย่างเช่นสมมติมีช้างป่วย หรือต้องล้างแผลช้าง มีการสอนทำลูกประคบให้ช้าง สอนให้รู้จักดูแลช้างทั้งการแพทย์สมัยใหม่และแพทย์แผนโบราณ และมีกิจกรรมหลักๆ ก็คือการป้อนอาหารช้าง เล่นโคลน เล่นน้ำกับช้าง
โปรแกรมการเที่ยวที่นี่มี 3 โปรแกรม คือ มีครึ่งวันเช้า ครึ่งวันบ่าย และโปรแกรมเต็มวัน โปรแกรมครึ่งวันจะมีให้อาหารช้าง เล่นโคลน เล่นน้ำ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับช้าง ส่วนโปรแกรมเต็มวันก็จะมีการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาช้าง มีการทำลูกประคบให้ช้าง ทำวิตามินให้กับช้างสูงอายุ มีสมุนไพรที่ไกด์จะไปหามาได้ในแต่ละวันมาให้ร่วมทำกับช้าง และก็ยังมีโปรแกรมค้างคืนด้วยแล้วแต่ความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าใครอยากสัมผัสช้างที่น่ารักและแสนรู้ก็มาเที่ยวกันได้ที่ “Ran-Tong Save & Rescue Elephant Center” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Ran-Tong Save & Rescue Elephant Center” ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0-5327-2023, 09-5442-4644, 08-3953-6289 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bestelephantsanctuarychiangmai.com,www.facebook.com/rantongelephant
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager