“โสดออนทัวร์” @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์...เที่ยวสุขใจ ไปแบบคนโสด

“ใครเป็นโสดยกมือขึ้น?!?”...(พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ)

คำถามยอดฮิตที่มักได้ยินกันตามคอนเสิร์ต กิจกรรมบันเทิง งานปาร์ตี้ รวมไปถึงตามงานอีเวนต์ต่างๆ แสดงให้เห็นว่าเทรนด์ “คนโสด” ยังคงเป็นที่นิยมไม่ตกยุคตกสมัย โดยเฉพาะกับเทรนด์ “สาวโสด” วันนี้ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ทาง“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”(ททท.) ภูมิภาค ภาคเหนือ และ ททท.สำนักงานแพร่(รับผิดชอบพื้นที่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) จึงได้จัดแคมเปญท่องเที่ยว“โสดออนทัวร์ @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” ขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์“สวย โสด ทำประโยชน์กับสังคม” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสาวโสดผู้รักการท่องเที่ยว เนื่องจากสาวโสดมีอิสระและมีเวลาในการเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน กิน ดื่ม ชอป เพื่อตัวเองอย่างเต็มที่

พร้อมกันนี้ยังได้จัดทริปพิเศษสำหรับคนโสด 3 วัน 2 คืน พาไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์และสิ่งน่าสนใจต่างๆ ในเส้นทางน่าน-แพร่-อุตรดิตถ์ ซึ่งไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือมาเป็นแก๊งกับกลุ่มเพื่อนๆ ก็สามารถเที่ยวกันได้อย่างสนุกสุดฟิน

...ตามประสาคนโสด

น่าน-นั่งรถรางชมเมืองน่าน

ทริปนี้ คณะสาวโสดออนทัวร์เริ่มต้นเปิดประเดิมทริปกันที่จังหวัด “น่าน”กับกิจกรรมนั่งรถรางเที่ยวชมเมืองน่าน พาไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเมืองที่ถูกขนานนามให้เป็น“เมืองเก่ามีชีวิต” อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 12 “เมืองต้องห้าม...พลาด” ภายใต้แนวคิด“กระซิบรักเสมอดาว”จาก ททท.

รถรางทัวร์เมืองน่านมีจุดตั้งต้น(และจุดสิ้นสุด)อยู่ที่“ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว”(อยู่ตรงข้ามกับวัดภูมินทร์ โดยมีเส้นทางวิ่งอยู่ 3-4 เส้นทาง(ตามความเหมาะสม) ซึ่งในระหว่างทางจะมีไกด์ประจำรถมาคอยบรรยายให้ความรู้ไปตลอดเส้นทาง ช่วยให้เราได้รู้จักกับเมืองน่านในฉบับย่อได้เป็นอย่างดี

สำหรับเส้นทางในทริปนี้ เมื่อออกจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้ว รถรางได้วิ่งผ่านวัดภูมินทร์ สี่แยกข่วงเมืองน่าน ไปตาม ถ.สุริยพงษ์ ก่อนจะแวะจอดที่“วัดมิ่งเมือง”เป็นจุดแรก เพื่อให้ลงสักการะ“เสาหลักเมืองน่าน”ที่ประดิษฐานอยู่ในภายในวัดแห่งนี้ และเข้าไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถ พร้อมกับชมความวิจิตรงดงามของลวดลายปูนปั้นสีขาวเด่นที่มีประดับอยู่ในแทบทุกจุดของวัด

จากนั้นรถรางวิ่งไปแวะจอดยังจุดที่สองคือ “วัดศรีพันต้น”(ถ.เจ้าฟ้า ต.ในเวียง อ.เมือง) ที่เป็นอีกวัดหนึ่งในเมืองน่าน ที่โดดเด่นไปด้วยลวดลายปูนปั้นสีเหลืองทองอร่ามอันงดงามวิจิตร

ออกจากวัดศรีพันต้น รถรางพาวิ่งไปบน ถ.มหาพรหม ถ.ผากอง ถ.มหายศ ผ่านจุดสำคัญๆอันหลากหลาย อาทิ ได้แก่ วัดหัวข่วง คุ้มเจ้าราชบุตร วัดสวนตาล สี่แยกช้างเผือก ก่อนจะไปแวะยังจุดสุดท้ายที่ “ร้านบุญช่วยเครื่องเงินโบราณ” ของคุณลุง“บุญช่วย หิรัญวิทย์” ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์(ประณีตศิลป์) พ.ศ. 2557

ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านจำหน่ายเครื่องเงินแฮนด์เมดฝีมือประณีตจากการสร้างสรรค์ของลุงบุญช่วยและลูกศิษย์ลูกหาแล้ว ยังเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องเงินน่านที่น่าสนใจยิ่งอีกด้วย

น่าน-วัดภูมินทร์

จบจากกิจกรรมนั่งรถราง คณะสาวโสดเดินข้ามถนนจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปยัง“วัดภูมินทร์”(ต.เวียงใต้ อ.เมือง) เพื่อไหว้องค์“พระประธานจตุรทิศ”และชื่นชมความงดงามของ“ฮูปแต้ม”หรือภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ได้ชื่อว่ามีความงดงามคลาสสิกและมีเสน่ห์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ฮูปแต้มวัดภูมินทร์ วาดบอกเล่าเรื่องราวทางพุทธศาสนา ชาดก และภาพวิถีชีวิตชาวน่านในอดีต มีไฮไลต์อยู่ที่ภาพ “ปู่ม่าน-ย่าม่าน” หรือที่ภายหลังได้รับการเรียกขานว่า ภาพ“กระซิบรักบันลือโลก”อันโด่งดังระบือไกล

นอกจากนี้ก็ยังมีภาพเด่นๆอื่นๆ อีก อาทิ ภาพ“โมนาลิซ่าเมืองน่าน” ที่เป็นภาพของสาวงามกำลังเกล้าผมขึ้นเหนือศีรษะ ภาพวิถีชีวิตชาวน่าน ภาพธรรมเนียมการอยู่ข่วงของชาวไทลื้อ ภาพการค้าขายแลกเปลี่ยนของชาวบ้าน ภาพชาวต่างชาติที่เข้ามาสยามในสมัย ร. 5 ภาพนรก และ“ภาพเปรต”ที่เตือนใจให้คนไม่กระทำความชั่ว

สำหรับใครที่ไปเที่ยววัดภูมินทร์ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือในช่วงปิดเทอม ที่นี่จะมีอีกหนึ่งสีสันให้สัมผัสกับมัคคุเทศก์น้อย ที่จะมาบรรยายให้ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับวัดภูมินทร์กันอย่างน่ารัก น่าส่งเสริมสนับสนุน

น่าน-DIY โฮงเจ้าฟองคำ

หลังไหว้พระขอพรจากวัดภูมินทร์แล้ว แก๊งสาวโสดก็มากระจายรายได้กันที่ “ศูนย์โอทอปน่าน”(มิ่งเมืองดี Best) ที่ตั้งอยู่ที่ ถ.สุริยพงษ์ อ.เมือง กับแหล่งจำหน่ายสินค้าเมืองน่านอันหลากหลาย นำโดย“ผ้าทอลายน้ำไหล” ผ้าทอมือกับลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นชื่อของเมืองน่านที่มีทั้งลวดลายดั้งเดิมและลวดลายประยุกต์ ส่วนสินค้าอื่นๆก็มี ผ้าทอพื้นเมือง เสื้อผ้า ผ้าพันคอ หมวก มะไฟจีนอบแห้ง สาหร่ายน้ำจืดแปรรูป เครื่องเงิน โมเดลเรือหัวนาคจำลอง ฯลฯ

เสร็จจากการชอปปิ้งสบายใจ คณะโสดออนทัวร์ไปเติมพลังมื้อเที่ยงกันที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว สุราษฎร์ธานี@น่าน”ที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวหมู-เนื้อให้เลือกอิ่มอร่อยตามความชอบ

แล้วจึงต่อด้วยการไปจิบชา-กาแฟชิลๆกันที่ร้าน“มิกซ์ อะคาเดมิค คาเฟ่”(Mix Academic café) ร้านกาแฟในบรรยากาศอบอุ่นสไตล์ลอฟท์อันสวยเก๋ ก่อนจะเดินทางไปทำกิจกรรม DIY(Do It Yourself) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “DIY ภูมิใจ ฉันทำเอง” กันที่ “โฮงเจ้าฟองคำ”(บ้านพระเกิด ต.ในเวียง อ.เมือง) ซึ่งเจ้าของเรือนได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี

โฮงเจ้าฟองคำ เป็นเรือนไม้ล้านนายกใต้ถุนสูงอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่ยังคงสภาพดี มีความสวยงามคลาสสิก บนเรือนแบ่งเป็นห้องๆ จัดแสดงข้าวของเก่าแก่ที่น่าสนใจในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ มีไฮไลต์อยู่ที่เงินตราสมัยโบราณและเครื่องเงินโบราณอันทรงคุณค่า รวมถึง“ผ้าพระบฏ”ผืนงาม ที่แม้ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนานก็ยังคงดูสวยงามสมบูรณ์แบบ

ส่วนบริเวณใต้ถุนด้านล่าง นอกจากจะมีสินค้าที่ระลึกและงานผ้าทอสวยๆงามๆจำหน่ายให้บรรดาสาวโสดได้เลือกซื้อแล้ว ยังเปิดเป็นจุดให้ข้อมูลความรู้เรื่องผ้าทอเมืองน่าน รวมถึงเปิดเป็นจุดเวิร์กชอปทำกิจกรรม DIY ต่างๆ อาทิ การทำขนมไทย ทำกรวยใส่ดอกไม้บูชาพระ ปั่นฝ้าย ทอผ้า ทำงานฝีมือปักดิ้นเงินดิ้นทอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาฝึกสอนให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดและน่ารักเป็นกันเอง ซึ่งบรรดาสาวโสดที่มาร่วมทำกิจกรรมสามารถโชว์ไอเดียเด็ดในการสร้างสรรค์งานฝีมือต่างๆกันได้อย่างเต็มที่

น่าน-บ้านน้ำเกี๋ยน

เสร็จจากกิจกรรม DIY ได้ผลงานฝีมือที่แต่ละคนลงมือทำเองเป็นที่พึงพอใจแล้ว จุดต่อไปแก๊งสาวโสดผู้รักการท่องเที่ยวมุ่งหน้าสู่ “ชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยน”(ต.น้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง) หรือ“วิสาหกิจชุมชนชีววิถี” ที่เป็นศูนย์เรียนรู้การใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยนเดิมเป็นแหล่งสมุนไพรตามธรรมชาติอันหลากหลาย ซึ่งชาวบ้านได้เรียนรู้ภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรในชุมชน สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน

จนกระทั่งมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งมีความคิดที่จะลดรายจ่ายและลดการใช้สารเคมีในครัวเรือนลง จึงได้ร่วมกันตั้ง“กลุ่มชีววิถี”ขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นทำน้ำยาอเนกประสงค์ชีวภาพขึ้นเพื่อทดแทนสารเคมีในเดือน ธ.ค. 2550

จากนั้นทางกลุ่มชีววิถีก็ได้นำพืชสมุนไพรในท้องถิ่นมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อลดการใช้สารเคมีให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น มะเฟือง มะกรูด ขมิ้น ดอกอัญชัน ไพล ผักเชียงดา และโดยเฉพาะ“ใบหมี่”(จากต้นหมี่) พืชสมุนไพรท้องถิ่นของที่นี่

ใบหมี่เป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่ชาวบ้านน้ำเกี๋ยนนำมาใช้สระผมกันตั้งแต่โบราณ ก่อนที่ทางกลุ่มชีววิถีจะทดลองนำมาทำเป็นยาสระผมใช้กันเองในครัวเรือน พอเหลือก็จำหน่ายให้เพื่อนบ้าน ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดี มีคนนิยมใช้ยาสระผมใบหมี่กันเป็นจำนวนมาก จึงได้พัฒนายาสระผมใบหมี่ให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น และมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามทันสมัย จนวันนี้ผลิตภัณฑ์จากใบหมี่กลายเป็นสินค้าขายดีในอันดับต้นๆของที่นี่

อย่างไรก็ดีทางกลุ่มชีววิถีได้ตระหนักดีว่า หากใช้พืชสมุนไพรจากธรรมชาติไปเรื่อยๆย่อมมีวันหมดไป จึงมีการปลูกพืชสมุนไพรทดแทน ร่วมกับการปลูกพืชสมุนไพรชนิดอื่นๆเพิ่มเติม

ปัจจุบันชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยนนอกจากจะมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรอันหลากหลาย ภายใต้แบรนด์ “น้ำเกี๋ยน” “ชีวา”(Chewa)และ“ชีวาน่า”(Chewana)ให้เลือกซื้อเลือกหาแล้ว ยังได้เปิดชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ศึกษาดูงาน ซึ่งก็มีคนสนใจเดินทางมาดูงานกันเป็นจำนวนมาก

น่าน-หออัตลักษณ์นครน่าน

จุดหมายต่อมาแก๊งสาวโสดออนทัวร์ เดินทางสู่“หออัตลักษณ์นครน่าน” ที่ตั้งอยู่ที่วิทยาลัยชุมชนน่าน ถ.ยันตรกิจโกศล ต.ดู่ใต้ อ.เมือง

หออัตลักษณ์นครน่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้แห่งใหม่ในเมืองน่าน ภายในแบ่งการจัดแสดงออกเป็นส่วนต่างๆ 10 ห้อง นำเสนอเรื่องราวอันหลากหลายเกี่ยวกับเมืองน่าน ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของเมืองน่าน ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีต่างๆของเมืองน่านและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองน่าน

ที่นี่จึงเป็นดังแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ชั้นดี มีเนื้อหาสาระที่ทางผู้จัดทำได้สรุปมาให้เราได้รับรู้กันแบบเข้าใจง่าย ภายใต้การจัดแสดงด้วยเทคนิคสมัยใหม่ ทำให้ดูมีชีวิตชีวา ไม่น่าเบื่อ พร้อมกับมีวิทยากรผู้ทรงความรู้มาบรรยายอธิบายให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจกันอย่างเพลิดเพลิน

น่าน-วัดพระธาตุเขาน้อย-วัดพระธาตุแช่แห้ง

ออกจากหออัตลักษณ์นครน่านก็เป็นเวลาเย็นย่ำ นับเป็นโอกาสดีที่บรรดาสาวโสดจะได้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ยามเย็นของเมืองน่านกันที่ “วัดพระธาตุเขาน้อย”(ต.ไชยสถาน อ.เมือง) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุเขาน้อยที่สร้างในรูปแบบศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้า

นอกจากนี้พระธาตุเขาน้อยยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” พระพุทธรูปปางลีลาที่ประทับยืนอยู่ริมเขาหันพระพักตร์ไปทางตัวเมืองน่าน ซึ่งจากบริเวณนี้สามารถมองเป็นทิวทัศน์ของเมืองน่านมุมสูงได้อย่างชัดเจนและสวยงาม นับเป็นการชมวิวเมืองน่านส่งท้ายวันแรกได้อย่างน่าประทับใจ

สำหรับในเช้าวันใหม่(วันที่ 2)หลังกินมื้อเช้าแล้ว เหล่าสาวโสดเดินทางไปยัง“วัดพระธาตุแช่แห้ง” (ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง) เพื่อสักการะองค์“พระธาตุแช่แห้ง” พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองน่านและเป็นพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีเถาะ(กระต่าย) พร้อมกับสักการะสิ่งน่าสนใจต่างๆภายในวัดพระธาตุแช่แห้ง ไม่ว่าจะเป็น“พระเจ้าล้านทอง”พระประธานในวิหารหลวง, “พระพุทธไสยาสน์”(พระนอน)องค์งามในวิหารพระพุทธไสยาสน์, “พระเจ้าทันใจ”ในวิหารพระเจ้าทันใจ และ “พระธาตุแช่แห้งน้อย” หรือ “พระธาตุตะโก้งจำลอง” ที่ได้รับอิทธิพลมาจากมหาเจดีย์ชเวดากองในประเทศเมียนมาร์

ต่อจากนั้นก็ได้เวลาล่ำลาจังหวัดน่าน มุ่งหน้าสู่จังหวัด“แพร่”ที่วันนี้ได้รับการคัดเลือกจาก ททท.ให้เป็น 1 ใน 12 “เมืองต้องห้าม...พลาดplus”(เมืองต้องห้าม...พลาดพลัส) เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกับจังหวัดน่าน พาไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนล้านนาตะวันออกอันงดงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

แพร่-DIY บายศรีครีเอชั่น

หลังเดินทางข้ามจังหวัดจากน่านสู่แพร่ แก๊งสาวโสดมีโอกาสได้โชว์ฝีมือและไอเดียการสร้างสรรค์อีกครั้งหนึ่งกับกิจกรรม DIY ที่ “บริษัท บายศรี ครีเอชั่น จำกัด” หรือที่เรียกสั้นๆว่า“บายศรีครีเอชั่น”(ถ.ทุ่งโฮ้ง-ป่าแดง ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวหลักในเส้นทาง “แพรพรรณของฉัน”

บายศรีครีเอชั่น เป็นแหล่งผลิตผ้าที่มีเอกลักษณ์เนื่องจากเจ้าของเป็นนักออกแบบที่จะคิดค้นลวดลายและสไตล์ให้สอดรับกับเทรนด์ในแต่ละปี ก่อนสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานศิลปะบนพื้นผ้า ทั้งการสร้างแพตเทิร์น การพิมพ์ การย้อม การเพนต์ลวดลาย(สด)ๆลงบนผืนผ้า ทำให้ผ้าแต่ละผืนมีลวดลายเฉพาะเป็นหนึ่งเดียว

นอกจากนี้บายศรีครีเอชั่นยังเปิดให้นักท่องเที่ยวผู้สนใจ ได้มีโอกาสมาร่วมสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆบนผืนผ้าด้วยตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งบรรดาสาวๆจากคณะโสดออนทัวร์ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาวาดลวดลาย(ตามแบบที่มีให้เลือก)ลงบนผืนผ้ากันอย่างเต็มที่

นับเป็นผลงานสร้างสรรค์บนผืนผ้าที่มีเพียงผืนเดียวในโลกเท่านั้น

อุตรดิตถ์-วัดดงสระแก้ว-วัดพระแท่นศิลาอาสน์

หลังใช้สมาธิและพลังไปกับการสร้างสรรค์ลวดลายผ้าที่บายศรีครีเอชั่นแล้ว แก๊งสาวโสดไปจิบชากาแฟผ่อนคลายกันที่ร้าน “Gingerbread House Café and Gallery” ร้านกาแฟน่ารักๆกลางเมืองแพร่ ที่ตกแต่งอย่างสวยงามกิ๊บเก๋ มีเสน่ห์ในสไตล์ล้านนาร่วมสมัย ชั้นล่างเป็นมุมนั่งกินอาหาร จิบกาแฟ-เครื่องดื่ม ชั้นบนมีพื้นที่แกลเลอรีสำหรับแสดงผลงานศิลปะ และมีส่วนห้องพัก(ไม่กี่ห้อง)ให้ผู้สนใจได้เลือกใช้บริการ

จากเมืองแพร่ เส้นทางโสดออนทัวร์พาคณะสาวโสดเดินทางสู่ “เมืองลับแล” อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ที่ทาง ททท.สนง.แพร่ ได้ชูการ“ปั่นจักรยานซอกแซกลับแล”เป็นกิจกรรมหลักในเส้นทางโสดออนทัวร์สำหรับผู้มาเยือน จ.อุตรดิตถ์

เมื่อเดินทางมาถึง อ.ลับแล กลุ่มสาวโสดมุ่งหน้าไปยัง “วัดดงสระแก้ว”(บ้านดงสะแก้ว ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล)เพื่อไป(คลาน)ลอดใต้ท้องโบสถ์ไม้สักทอง ซึ่งมีความเชื่อว่าหากได้มาลอดโบสถ์แห่งนี้แล้วอธิษฐานขอพร จะได้รับความเป็นสิริมงคล ประสบความสำเร็จในทุกเรื่องที่ขอ ส่วนใครที่เจ็บป่วยเมื่อมาลอดแล้วก็จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ

ต่อจากนั้นจุดต่อไปเป็น “วัดพระแท่นศิลาอาสน์”(ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล) ที่มีตำนานเล่าว่าพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์เคยเสด็จมาจำศีลบำเพ็ญพุทธบารมีที่นี่ ทำให้ต่อมาจึงมีการสร้าง“พระแท่นศิลาอาสน์” ขึ้นเป็นจุดสำคัญของวัด เป็นพระแท่นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีผู้คนไปทำบุญปิดทองถวายเงินกันเป็นจำนวนมาก

อุตรดิตถ์-พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกไท-ยวน ลับแล

จากวัดพระแท่นศิลาอาสน์ เป้าหมายต่อไปคือ “พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกไท-ยวน ลับแล”(ต.ชัยชุมพล อ.ลับแล) ที่ดำเนินงานโดยคุณ“จงจรูญ มะโนคำ”หรือ“ครูโจ” หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยที่ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมาด้วยใจรัก

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าซิ่นตีนจกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยเฉพาะการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าซิ่นตีนจกเมืองลับแล ที่เป็นการจกลวดลายแบบโบราณ จกด้วยขนเม่น ย้อมสีจากธรรมชาติ และให้ลวดลายจริงอยู่ด้านบน(ผ้าทอหลายแห่งจะให้ลวดลายจริงคว่ำอยู่ด้านล่าง) รวมไปถึงการจัดแสดงที่บ่งบอกความเป็นมาและวิถีชีวิตของชาวลับแล ผ้าซิ่นตีนจกเป็นผ้าทอพื้นเมืองที่มีความประณีต สอดแทรกทัศนคติ ความเชื่อ โชคลาภ บนผืนผ้าที่ทอลวดลาย ซึ่งเกิดจากจินตนาการของผู้ทอจากสิ่งรอบๆ ตัว

นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงผ้าไทยอันทรงคุณค่าต่างๆให้ชมกันเป็นจำนวนมาก ทั้งผ้าเก่าแก่อายุนับร้อยๆปี หรือผ้าที่ทอขึ้นมาใหม่ด้วยลวดลายอันวิจิตรงดงาม ซึ่งผ้าหลายๆผืนที่นี่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น

อุตรดิตถ์-ซุ้มประตูเมืองลับแล

หลังชื่นชมความงดงามและดื่มด่ำเรื่องราวผ่านการสร้างสรรค์ลวดลายต่างๆบนผืนผ้าแล้ว คณะโสดออนทัวร์เดินทางไปเก็บภาพความประทับใจในช่วงพระอาทิตย์ตกยามเย็นกันที่ “ซุ้มประตูเมืองลับแล”ที่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญอันโดดเด่นของเมืองลับแล

ซุ้มประตูเมืองลับแลสร้างด้วยงานศิลปกรรมแบบสุโขทัยประยุกต์ ด้านข้างเป็นที่ตั้งของ “ประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล” เป็นรูปปั้นหญิงสาวยืนอุ้มลูกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ข้างๆมีสามีนั่งคอตกในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้นเตรียมเดินทาง อันเป็นเรื่องราวที่ปรากฏในตำนานเมืองลับแล และเป็นที่มาของ“เมืองลับแล เขตห้ามพูดโกหก” ซึ่งวันนี้เมืองลับแล ได้ถูกคัดสรรให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจากโครงการ “เขาเล่าว่า...”ของ ททท. กับเรื่องราวตำนานเขาเล่าว่าที่นี่เป็น“เมืองที่ห้ามพูดโกหก” อันลือลั่น

บริเวณซุ้มประตูเมืองลับแลยังมีการปรับแต่งภูมิทัศน์ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวชุมชน มีสนามหญ้า สวนหย่อม สระน้ำ ทางเดินผ่านซุ้มลีลาวดี และที่สำคัญคือที่นี่เป็นที่ตั้งของ“พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล” ที่เป็นการจำลองบ้านเรือนโบราณแบบลับแลมาไว้ให้ชม พร้อมกับจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ที่บอกกล่าวเล่าความเป็นลับแล ทั้งประวัติความเป็นมา ที่มาของคำว่าลับแล วิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม การแต่งกายของชาวลับแล และอาหารการกินอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของชาวลับแล

อุตรดิตถ์-ขุนฝาง

เช้าวันที่สาม คณะโสดออนทัวร์ยังอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยหลังอิ่มหนำจากมื้อเช้าแล้วก็เดินทางไปที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อสักการะ“อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก”วีรบุรุษนักรบคนสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งวีรกรรมการต่อสู้อย่างห้าวหาญเป็นตำนานของท่านยังคงเป็นที่กล่าวขานกันมาจนถึงวันนี้

ที่อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักนอกจากจะมีคนเดินทางมากราบไหว้ขอพรแล้ว ยังมีคนที่สมหวังจากการขอพรเดินทางมาแก้บนด้วยการถวายรูปปั้นไก่ชน และการแก้บนด้วยการชกมวยโชว์ ซึ่งสามารถลงนวมชกมวยด้วยตัวเอง หรือจะเลือกใช้บริการคณะนักมวยแก้บนที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างๆอนุสาวรีย์ให้มาชกมวยแก้บนโชว์ก็ได้(ค่านักมวยแก้บนคู่ละ 280 บาท) นับเป็นอีกหนึ่งสีสันแห่งเมืองอุตรดิตถ์ที่มีมนต์เสน่ห์ไม่น้อย

จากนั้นแก๊งสาวโสดออกเดินทางไปยัง“ตำบลขุนฝาง”(อ.เมือง) ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาแมกไม้ รายล้อมไปด้วยสวนผลไม้ท้องถิ่นนานาพันธุ์ มีบรรยากาศดี สงบ วิวทิวทัศน์สวยงาม ช่วงหน้าหนาวอากาศหนาวเย็นมีทิวทัศน์สวยงาม ส่วนหน้าฝนมีอากาศเย็นสบายดูชุ่มฉ่ำ ทำให้ ต.ขุนฝางในวันนี้มีการพัฒนาพื้นที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ใน จ.อุตรดิตถ์ โดยชาวบ้านส่วนหนึ่งได้จัดสร้างและปรับแต่งพื้นที่ของตนให้เป็นที่พัก ที่กางเต็นท์ โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ

สำหรับจุดที่เป็นไฮไลต์ใน ต.ขุนฝาง ก็คือ “ขุนฝางบ้านสวนฮารีน”(ต.ขุนฝาง อ.เมือง) ที่เป็นร้านอาหารและร้านกาแฟในบรรยากาศอันร่มรื่นกิ๊บเก๋ ตกแต่งอินเทรนด์อย่างมีสไตล์ อีกทั้งยังมี “สวนแกะฮารีน” ที่เลี้ยงแกะไว้จำนวนหนึ่ง พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมให้อาหารแกะที่นี่ รวมถึงมีลานกางเต็นท์(มีห้องน้ำให้บริการ)ให้ผู้ที่รักในธรรมชาติไปกางเต็นท์ดื่มด่ำกับบรรยากาศในช่วงหน้าหนาวอันสุดฟิน

นอกจากนี้ที่ขุนฝางยังมีขุนฝาง “สวนม้าโฮมสเตย์”เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูด ที่นี่นอกจากจะมีที่พัก ร้านอาหาร-เครื่องดื่มไว้บริการแล้ว ยังเป็นแหล่งเลี้ยงม้าที่มีทั้งม้าพันธุ์ไทยพื้นเมืองและพันธุ์จากต่างประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปให้อาหารม้า ทำกิจกรรมขี่ม้า รวมถึงทำกิจกรรมผจญภัยอื่นๆได้ เช่น ขี่จักรยาน ขี่รถเอทีวี เล่นน้ำในลำห้วย เป็นต้น

แพร่-วัดจอมสวรรค์

จากขุนฝาง จ.อุตรดิตถ์ คณะโสดออนทัวร์เดินทางกลับมาจังหวัดแพร่ เพื่อเที่ยวชม “วัดจอมสวรรค์”(ถ.ยันตรกิจโกศล ต.ในเวียง อ.เมือง) อันสวยงามงามอลังการ

วัดจอมสวรรค์ เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับองค์พระธาตุจอมสวรรค์อันเก่าแก่อยู่ทางซ้ายมือ

จากนั้นก็จะพบกับไฮไลต์สำคัญคืออาคารวัดที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง(ปัจจุบันได้รับการบูรณะปรับปรุงใหม่)กับงานสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่(เงี้ยว) อันสมส่วน สวยงาม อลังการ หลังคาสร้างเป็นชั้นๆลดหลั่นกันลงมา พร้อมมีงานฉลุไม้ประดับเพิ่มเติมอ่อนช้อยสวยงามตามจุดต่างๆ

อาคารวัดจอมสวรรค์ เป็นทั้งโบสถ์ วิหาร และกุฏิเบ็ดเสร็จ ภายในอาคารตกแต่งอย่างดงามวิจิตร มีการประดับด้วยลวดลายไม้ฉลุ และการประดับกระจกสีอันงดงาม ขณะที่สิ่งน่าสนใจภายในอาคารนั้นก็มี “หลวงพ่อสาน”(พระพุทธรูปที่สานด้วยไม้ไผ่) พระพุทธรูปที่ทำจากงาช้าง พระพุทธรูปหินอ่อน ดอกไม้หิน แผ่นคัมภีร์งาช้าง เป็นต้น

แพร่-บ้านเทพ

จากวัดจอมสวรรค์คณะโสดออนทัวร์มาปิดท้ายทริปกันที่ “พิพิธภัณฑ์บ้านเทพ”(Bann Thep Museum) หรือที่เรียกสั้นๆว่า“บ้านเทพ”(ถ.เทศบาล 2 ต.ในเวียง อ.เมือง) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเมืองแพร่

บ้านเทพ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่เกิดจากการสะสมของเก่าด้วยใจรักของคุณ “วัฒนา เหลืองอุทัยศิลป์”ชายวัย 63 ปี ที่เก็บสะสมข้าวของต่างๆมายาวนานกว่า 40 ปี

ภายในบ้านเทพมีห้องจัดแสดงเป็นโซนต่างๆ ทั้งนำโดยห้องโถงส่วนหน้าอันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูป“สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”ให้ผู้มาเยือนได้สักการบูชา พร้อมด้วยศิลปวัตถุและข้าวของเครื่องใช้อันหลากหลาย อาทิ ชุดเครื่องเรือนหรือเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณจากจีน เครื่องกระเบื้องจีน ฆ้องกบที่มีลักษณะคล้ายกับกลองมโหระทึกโบราณ หีบไม้จันทน์แกะสลักลวดลายสวยงามที่ภายในยังส่งกลิ่นหอมอยู่

นอกจากนี้ก็ยังมีห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ชิ้นเล็กๆ ที่มีทั้งจัดวางไว้ข้างนอก และจัดแสดงในตู้โชว์ อาทิ นาฬิกาเก่า ตะเกียงเก่า เงินตราสมัยโบราณ ลูกเป้งช่างน้ำหนัก เงินพดด้วงทองคำสมัย ร.4 เป็นต้น ส่วนพื้นที่จัดแสดงกลางแจ้งก็มี เครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่ ไม้แกะสลัก เรือขุดไม้สักอายุ 100 ปี ที่เป็นเรือไม้สักขุดต้นเดียว ซึ่งแม้จะดูเก่าแก่แต่ก็ดูคลาสสิกและขลังมากๆ

ขณะที่ส่วนจัดแสดงในส่วนหลังที่นำไม้เก่าจากที่ต่างๆมาสร้างเป็นบ้านหลังใหม่นั้นก็มีสิ่งน่าสนใจชวนชม อาทิ งานไม้แกะสลัก เครื่องเรือนเก่า ตู้โบราณ เครื่องทองเหลือง รถจักรยานเก่า มอเตอร์ไซค์เก่า ตัวตุ๊กตุ่นตุ๊กตา เป็นต้น

ที่บ้านเทพยังมีไฮไลต์สำคัญคือ “บานประตูไม้สักทอง” ซึ่งเป็นบานประตู 2 บานขนาดใหญ่ สูงถึง 4 เมตร และเป็นบานประตูที่ทำจากไม้สักทองต้นเดียวกัน อันถือเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นดั่งประตูย้อนกาลเวลา ที่พาคณะสาวโสดออนทัวร์ย้อนวัยไปสัมผัสกับอดีตวันวานอันทรงเสน่ห์ ถือเป็นการปิดท้ายทริปโสดออนทัวร์ด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่น่าสนใจยิ่ง

และนี่ก็คือหนึ่งในเส้นทาง“โสดออนทัวร์ @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” ที่นอกจากจะมากไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายแล้ว ยังครบเรื่องทั้งเรื่อง ชม ชิม ชอป แชะ อีกทั้งยังมีกิจกรรม DIY ให้ได้ลงมือทำ พร้อมนำสิ่งที่ได้ไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไป

นับเป็นเส้นทางท่องเที่ยวหลากรสอันชวนเพลิดเพลินประทับใจตามประสาคนโสด

ชนิดที่คนมีคู่หลายๆ คนเห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้

***************************************

หมายเหตุ : ททท.สำนักงานแพร่(รับผิดชอบพื้นที่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) ได้จัดทำหนังสือคู่มือ“โสดออนทัวร์ @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” ขึ้น เพื่อแนะนำสถานที่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และที่พักน่าสนใจ ในพื้นที่แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มสาวโสด

นอกจากนี้ทาง ททท.ยังได้จัดทำ“หมอน โสดออนทัวร์”ของที่ระลึกพรีเมียม และรางวัลใหญ่ แพกเกจท่องเที่ยว แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ 1 รางวัล( 2 คน) แจกฟรี!!! สำหรับผู้ร่วมทำกิจกรรมตามกติกาที่โครงการกำหนดไว้ ตั้งแต่วันนี้-สิงหาคม 2559 โดยมีรายละเอียดกติกาการร่วมสนุกอยู่ในคู่มือโสดออนทัวร์ ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับคู่มือโสดออนทัวร์ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการโสดออนทัวร์ ได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทร.0-5452-1127

*****************************************

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com