xs
xsm
sm
md
lg

“ลิ้นจี่ป้าชิด 2” อร่อยหวานเต็มคำ แบบเนื้อเน้นๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“ลิ้นจี่ป้าชิด 2” เนื้อแน่น เมล็ดเล็ก รสหอมหวานอร่อย
“ลิ้นจี่”ผลไม้เปลือกสีแดงผิวขรุขระ แต่เนื้อในกลับมีรสชาติอร่อยหวานฉ่ำ พร้อมกลิ่นหอมเย้ายวนที่เป็นเอกลักษณ์เอกลักษณ์เฉพาะ และเป็นผลไม้ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน โดยมีการกล่าวถึงในประวัติศาสตร์จีนในสมัยราชวงศ์ถัง ว่าเป็นผลไม้โปรดของหยางกุ้ยเฟย พระสนมของจักรพรรดิถังเสวียนจง ด้วยความโดดเด่นในรสชาติ ลิ้นจี่จึงได้กลายมาเป็นผลไม้ที่ได้รับความชื่นชอบของใครหลายคน

และในประเทศไทยลิ้นจี่ก็ยังถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายและมีหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่ใครๆ ต่างก็ต้องการที่จะลองลิ้มชิมรสเพราะมีผลผลิตปีละครั้ง ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ลิ้นจี่จากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้มีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาก็มีความโดดเด่น ทั้งในด้านขนาดผลและรสชาติขนาด ซึ่งหนึ่งในสายพันธุ์ลิ้นจี่ของไทยที่ได้รับการพัฒนาจนได้รับการพูดถึงในวงการลิ้นจี่ ก็คือ “ลิ้นจี่ป้าชิด 2” แห่ง "ไร่บีเอ็น" (BN) ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
พนังงานไร่บีเอ็นกำลังคัดลิ้นจี่ป้าชิด 2
ลิ้นจี่ป้าชิด 2 เป็นลิ้นจี่ที่มีผลขนาดใหญ่ เนื้อในแน่น รสชาติหวานกรอบ มีเมล็ดที่เล็กลีบ และได้รับการยอมรับจากสาวกลิ้นจี่ในปัจจุบันว่าเป็นลิ้นจี่ดีมีคุณภาพ และจุดกำเนิดของลิ้นจี่ป้าชิด 2 นั้น คุณลุงจุลพงษ์ คุ้นวงษ์ เจ้าของไร่บีเอ็นรุ่นปัจจุบัน ได้เล่าให้ฟังว่า

“คุณบรรเจิด คุ้นวงศ์ ผู้เป็นคุณพ่อ ได้บุกเบิกทำสวนลิ้นจี่มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 พร้อมกับปลูกพืชชนิดอื่นๆ เช่น มะม่วง อะโวคาโด พลับ ลำไย น้อยหน่าออสเตรเลีย และได้พัฒนาปรับปรุงสายพันธ์ลิ้นจี่มาโดยตลอด ซึ่งได้ใช้เวลานานกว่า 30 ปี จนได้ลิ้นจี่พันธุ์ป้าชิด 2 ซึ่งเป็นชื่อของคุณแม่ และในปัจจุบันลิ้นจี่ป้าชิด 2 ก็เป็นที่รู้จักของผู้ที่ชื่นชอบลิ้นจี่มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยต้นลิ้นจี่จะมีผลผลิตออกมาให้ได้ชิมในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี และราคาในปัจจุบันจะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-300 บาท ”
“ลิ้นจี่” ผลไม้ที่มีเปลือกสีแดงผิวขรุขระ แต่เนื้อในกลับมีรสชาติอร่อยหวานฉ่ำ
และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลผลิตลิ้นจี่ป้าชิด 2 มีผลที่ดีมีคุณภาพ ก็คือวิธีการดูแลสวนลิ้นจี่ของไร่บีเอ็น โดยคุณลุงจุลพงษ์ ได้เล่าให้ฟังอีกว่า

“ทางไร่บีเอ็นนั้น ได้ใช้วิถีทำให้ลิ้นจี่มีที่ต้นเตี้ยลง และมีการจัดการเรื่องระบบการระบายน้ำที่ดี โดยได้ไปเรียนรู้หลักการนี้จาก พ่อหลวงมนัส เจ้าของสวนลิ้นจี่ศรินทิพย์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีการตัดแต่งกิ่งให้โปร่งที่สุด กิ่งที่มีความสูงเกิน 3 เมตร ให้ตัดออก เมื่อเปรียบเทียบก็จะเหมือนกับแผงโซล่าเซลล์ ที่สามารถรับแสงอาทิตย์ได้จากทุกทิศทาง ไม่เหมือนต้นแบบพุ่มที่ได้รับแสงอาทิตย์แต่เพียงด้านเดียว อีกทั้งต้นลักษณะเตี้ยยังสามารถดูดน้ำและแร่ธาตุได้ดี ต้นลิ้นจี่จึงไม่ต้องเสียพลังงานลำเลียงมาก เหมือนต้นสูงๆ เมื่อได้รับทั้งแสงอาทิตย์ น้ำและแร่ธาตุอย่างสมบูรณ์ ต้นลิ้นจี่ก็จะให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งอีกหนึ่งข้อดีของการทำต้นเตี้ยก็คือการเก็บผลผลิต โดยสามารถเก็บผลลิ้นจี่ได้ง่ายขึ้นและไม่เปลืองแรงงานอีกด้วย”
คุณจุลพงษ์ คุ้นวงษ์ เจ้าของไร่บีเอ็นรุ่นปัจจุบัน ผู้ใจดีเล่าเรื่องราวลิ้นจี่ป้าชิด 2 ให้ฟัง
ด้วยเหตุผลที่ได้เล่ามานั้น จึงทำให้ลิ้นจี่ป้าชิด 2 ของไร่บีเอ็น ได้กลายมาเป็นหนึ่งในลิ้นจี่สายพันธุ์คุณภาพของไทยที่ใครๆ ก็ต้องการจะลองลิ้มชิมรส แต่หากใครที่จะลองชิมลิ้นจี่ป้าชิด 2 และไม่อยากจะผิดหวังว่าลิ้นจี่ที่ได้กินนั้นเป็นของปลอม ก็ต้องมาลองชิมเองที่ไร่บีเอ็น โดยจะมีผลผลิตลิ้นจี่ให้ได้ชิมและซื้อกลับไปฝากคนที่บ้าน ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม แต่จะมีให้ชิมช้าหรือเร็วก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี
ต้นลิ้นจี่แบบเตี้ยภายใน “ไร่บีเอ็น”
และในปัจจุบันทางไร่บีเอ็น ยังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อเป็นจุดแวะของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งสามารถแวะซื้อและชิมพืชผัก ผลไม้ นานาชนิดตามฤดูกาล อาทิ ลิ้นจี่ ลำไย ผักกาดแก้ว อะโวคาโด ลูกพลับ และทางไร่ยังมีไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิด เช่น เบิร์ด ออฟ พาราไดซ์ ดาหลา ตระกูลเฮลิโกเนีย ให้ได้เดินซื้อเดินชมกลับไปเป็นของฝาก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบรรยากาศภายในไร่บีเอ็นได้อีกด้วย
“ลิ้นจี่ป้าชิด 2” ของแท้ พร้อมจำหน่ายที่ไร่บีเอ็น
ไร่บีเอ็นจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนอกจากได้ลิ้มลองลิ้นจี่ป้าชิด 2 ของแท้ ก็ยังจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศไร่ผลไม้ พร้อมกับการซื้อของฝากกลับไปฝากคนที่บ้าน

***************************************************************************************************************

ไร่บีเอ็น (BN) ตั้งอยู่ที่ ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 08.30- 19.00น. ติดต่อสอบถาม โทร. 0-5675-0419





* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น