xs
xsm
sm
md
lg

“คลองท่อม”นามระบือลูกปัด...อัศจรรย์“สุริยเทพ”แห่งกระบี่/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
ลูกปัดสุริยเทพ ลูกปัดอันโด่งดังขึ้นชื่อของคลองท่อม กระบี่
“สระมรกตขึ้นชื่อ นามระบือแหล่งลูกปัด งามเด่นชัดน้ำตกร้อน ชื่อกระฉ่อนนกแต้วแร้ว” - คำขวัญอำเภอคลองท่อม

จากคำขวัญอำเภอคลองท่อม จ.กระบี่ จะเห็นได้ว่า 1 ใน 4 ของดีคลองท่อม มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นผลงานมนุษย์(ในอดีต)สร้างขึ้นนั่นก็คือ “ลูกปัด” อันเลื่องชื่อนามระบือไกล
สร้อยลูกปัดจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
ย้อนรอยลูกปัดคลองท่อม

ลูกปัดคลองท่อม นอกจากจะเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความเป็นแหล่งค้าขายสำคัญแห่งโลกยุคโบราณเมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว ชุมชนคลองท่อมโบราณยังได้ชื่อว่าเคยเป็นแหล่งผลิตลูกปัดแหล่งใหญ่ เพราะนอกเหนือจากการขุดค้นพบลูกปัดเป็นจำนวนมากในพื้นที่แล้ว ยังมีการขุดค้นพบวัสดุที่ใช้ทำลูกปัดอีกหลากหลาย

โดยเฉพาะการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญจำพวกเศษแก้ว หินแร่ ที่เป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำลูกปัดเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในฐานะแหล่งลูกปัดและแหล่งผลิตลูกปัดโบราณแห่งภูมิภาคนี้ ก่อนที่ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลง กาลเวลาจะผันผ่าน ค่อยๆกลบฝังลูกปัดคลองท่อมจำนวนมากให้จมลงใต้ผืนดินและจมอยู่กับอดีตนับเป็นพันๆปี
ลูกปัดหลากชนิดร้อยเรียงเป็นหนึ่ง
ครั้นมาถึงยุคปัจจุบันลูกปัดคลองท่อมที่ฝังอยู่ใต้ดินได้เผยโฉมออกมาให้ชาวบ้านเห็นเป็นจำนวนมากทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ อันเนื่องมาจากถูกฝนชะล้างหน้าดินออก แต่ว่าชาวบ้านที่นี่ไม่สนใจ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าถ้าใครนำลูกปัดมาเก็บไว้ที่บ้าน จะเจ็บป่วย ประสบโชคร้ายหายนะ ลูกปัดโบราณคลองท่อมจึงถูกปล่อยทิ้งไว้ตามสภาพดังเดิม โดยแหล่งที่มีการค้นพบลูกปัดจำนวนมากนี้ ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “ควนลูกปัด” (ควนในภาษาปักษ์ใต้หมายถึงเนินดิน หรือเขาขนาดย่อม)
คลองท่อมดินแดนแห่งลูกปัดโบราณ ที่มีการขุดค้นพบเป็นจำนวนมาก
ควนลูกปัดถูกทอดทิ้งอยู่เป็นเวลานาน จนเมื่อได้มีการขุดค้นสำรวจทางโบราณคดี นั่นจึงทำให้ทราบว่าที่นี่เป็นแหล่งลูกปัดโบราณที่มีมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย จากนั่นลูกปัดคลองท่อมได้มีชื่อเสียงโด่งดัง ลูกปัดลูกเล็กๆขายได้ราคาดีในหลักพัน หลักหมื่น นั่นจึงทำให้ความเชื่อเรื่องห้ามใครมีลูกปัดไว้ในครอบครองถูกลืมไป ชาวบ้านและคนต่างถิ่นต่างพากันขุดค้นหาลูกปัด มีนักเล่นลูกปัด พ่อค้า นายทุน เข้ามากว๊านซื้อลูกปัดจากชาวบ้าน ซึ่งบางคนเล่นขายหน้าดินกันเป็นคิวเลยทีเดียว

แต่นั่นเป็นปรากฏการณ์ตื่นลูกปัดในยุคแรกเท่านั้น เพราะปัจจุบันกรมศิลปากรได้เข้ามาดูแลพื้นที่ควนลูกปัด อนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติของชาติ ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องทำการขุดค้น นั่นจึงทำให้ลูกปัดคลองท่อมอีกจำนวนมากยังคงถูกฝังไว้กับอดีตที่ควนลูกปัดแห่งนี้

ขณะที่ลูกปัดคลองท่อมจำนวนมากที่ถูกขุดค้นไปแล้วนั้น ส่วนหนึ่งชาวบ้านยังคงเก็บไว้ แต่อีกหลายส่วนได้เปลี่ยนมือไปมากมาย เกิดการเดินทางของลูกปัดคลองท่อมไปทั่วฟ้าเมืองไทย รวมถึงเดินทางไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนา
สร้อยลูกปัดหลากสีสัน
พิพิธภัณฑสถานคลองท่อม

ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีในยุคที่มีการขุดค้นพบลูกปัดโบราณคลองท่อม ณ บริเวณควนลูกปัด ท่าน“พระครูอาทรสังวรกิจ(สวาส กนฺตสํวโร)” (พ.ศ.2464-2550) อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองท่อม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของคลองท่อมในฐานะแหล่งลูกปัดโบราณ

ท่านจึงได้เริ่มรวมรวมลูกปัดโบราณควบคู่ไปกับโบราณวัตถุต่างๆมาเก็บรักษาไว้ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2509 ขณะเดียวกันในช่วงเวลานั้น ควนลูกปัดได้ถูกขุดทำลายลงไปเป็นจำนวนมาก เพื่อนำลูกปัดไปขายให้กับนักนิยมของเก่า พระครูอาทรสังวรกิจจึงได้ดำเนินการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นภายในวัดด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวของท่านเอง เพื่ออนุรักษ์สมบัติของแผ่นดินและเพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาเรียนรู้
ภาพพระครูอาทรสังวรกิจที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
โดยเริ่มแรกท่านได้ก่อตั้ง “พิพิธภัณฑสถานพระครูอาทรสังวรกิจ”ขึ้น ภายในวัดคลองท่อม แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525

จากนั้นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม” ดำรงฐานะเป็นแหล่งรวบรวม จัดแสดงลูกปัดโบราณและศิลปวัตถุต่างๆของชุมชนคลองท่อม ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2555 จะมีการดำเนินการดำเนินการปรับปรุงอาคารและการจัดแสดงภายในอาคารให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมเปลี่ยนชื่อมาเป็น “พิพิธภัณฑสถานคลองท่อม จังหวัดกระบี่” โดยโอนมาให้อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้
อาคารพิพิธภัณฑ์หลังปรับปรุงใหม่
พิพิธภัณฑสถานคลองท่อมฯหลังใหม่นี้ มีตัวอาคารสีขาวนวล ด้านหน้าประดับประติมากรรมลูกปัดสุริยเทพ ครั้นเมื่อเดินเข้าไปภายในแอร์ที่นี่เย็นฉ่ำมาก และอะไรๆก็ยังคงดูใหม่ มีการจัดวางที่ดูดี ทันสมัย โดยจุดแรก(หากไปเป็นหมู่คณะ)เจ้าหน้าที่จะพาไปชมวีดิทัศน์เรื่องราวของลูกปัดเป็นการอุ่นเครื่องให้ความรู้ในเบื้องต้น

จากนั้นจะเป็นเส้นทางเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบของการชมพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่คือบังคับเดินไปในเส้นทางเดียว ผ่านส่วนต่างๆของชั้นล่างขึ้นไปยังชั้นสอง ก่อนกลับลงมาชั้นล่างแล้วออกอีกทาง
ข้าวของโบราณ ไม้กลายเป็นหิน และทุ่นแก้วโบราณ ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์คลองท่อม
สำหรับข้าวศิลปวัตถุสิ่งน่าสนใจที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์หลักๆแล้วก็เป็นโบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ที่ขุดได้ที่ควนลูกปัดหลังวัดคลองท่อม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือหิน หม้อไห ถ้วยโถโอชาม เครื่องประดับ นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านที่ชาวบ้านนำมาบริจาคตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นพิพิธภัณฑ์วัดดั้งเดิม รวมถึงมีซากกระดูกช้าง กระดูกวาฬ ไม้กลายเป็นหิน ทุ่นโบราณที่ทำจากแก้ว
บรรยากาศการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์คลองท่อม
ขณะที่สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์และเป็นส่วนหลักของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ “ลูกปัด” ที่มีการไล่เรียงให้ความรู้ความเป็นมาของลูกปัด ตั้งแต่ในช่วงแรกที่เราได้รู้จักกับลูกปัด นำมาจนสู่แหล่งลูกปัดสำคัญๆในภาคใต้ และนำมาสู่เรื่องราวของลูกปัดโบราณคลองท่อม โดยในชั้นล่างจะมีข้อมูลพร้อมภาพประกอบ เรียกน้ำย่อย บิวด์อารมณ์ไปเรื่อยๆ ก่อนนำส่งสู่ชั้นสองที่เป็นชั้นไฮไลท์ ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งจัดแสดงลูกปัดโบราณที่มีให้ชมกันเป็นจำนวนมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ลูกปัดหลากสี หลายชนิด ร้อยเป็นสร้อย จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์คลองท่อม
ในการจัดแสดงลูกปัดที่ชั้นสองนี้ มีทั้งลูกปัดหลากหลายชนิดที่ถูกร้อยเสียงผสมผสานกันเป็นสร้อยเส้นงาม มีทั้งที่จัดแสดงแบบแยกเม็ด ทั้งเป็นกลุ่ม เป็นคู่ และเม็ดเดียวโดดๆ โดยลูกปัดเกือบทั้งหมดจะเป็นลูกปัดโบราณที่ถูกนำเสนอแบบดิบๆ ให้สีตามธรรมชาติแบบดั้งเดิม คือจะออกซีดหน่อยๆ เพราะไม่ได้ไปขัดแต่งหรือไปทำให้ดูเหมือนใหม่สีสดใส
ลูกปัดลายธงชาติ
สำหรับลูกปัด เครื่องประดับ และวัตถุโบราณขนาดเล็ก จำพวกเดียวกับลูกปัด ที่โดดเด่นน่าสนใจในชั้นนี้ก็มี ลูกปัดหินกึ่งอัญมณี ลูปปัดเขียนลาย ลูกปัดตา ลูกปัดมงคล ตราประทับ จี้และหัวแหวนลูกปัดอำพันทอง รวมถึงลูกปัดที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือ “ลูกปัดนกแสงตะวัน” ที่เป็นวัตถุสีดำมีรูปนกสีขาวอยู่ตรงกลาง, “ลูกปัดธงชาติ” เป็นเป็นหินสีมีลวดลายแดง-ขาว-น้ำเงิน เรียงเป็นแถบเหมือนสีธงไตรรงค์
ตราประทับรูปสัตว์
ส่วนที่พลาดไม่ได้เพราะถือเป็นไฮไลท์สำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อีกทั้งปัจจุบันยังถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ อ.คลองท่อม และ จ.กระบี่ ก็คือลูกปัด“สุริยเทพ” อันลือลั่น

ลูกปัดสุริยเทพ หรือ “ลูกปัดหน้าอินเดียนแดง” หรือ “ลูกปัดหน้าคน” เป็นลูกปัดเก่าแก่หายาก มีชื่อเสียงในระดับโลก ทำจากแก้วด้วยวิธีแก้วโมเสค คือนำแก้วสีขาวและดำมาเรียงเป็นรูปใบหน้า ตา ปาก จากนั้นหลอมด้วยความร้อนจนอ่อนตัว แล้วจึงดึงเป็นเส้นยาว ทำให้มีรูปหน้าตัดคล้ายใบหน้าคน
ลูกปัดสุริยเทพอีกหนึ่งเม็ดที่หน้าเลือนไปหน่อย จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์คลองท่อม
ลูกปัดสุริยเทพได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดลูกปัดแห่งคลองท่อม เดิมพบเฉพาะที่คลองท่อมเพียงแห่งเดียวในโลก แต่ว่าเมื่อเร็วๆนี้มีการพบลูกปัดในลักษณะคล้ายกันนี้ที่ประเทศจีน

ผมได้ชมลูกปัดสุริยเทพที่จัดแสดงและได้ฟังผู้รู้อธิบายวิธีการทำแล้วก็ถึงกับอึ้ง เพราะการะทำให้แก้วมาผสมเป็นใบหน้าแบบนี้ถือว่ายากมาก โดยเฉพาะนี่เป็นการทำตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยโบราณนับเป็นพันปี
มีการจำลองรูปลูกปัดสุริยเทพไว้ที่ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์
ขณะที่อีกสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งในความอัศจรรย์ของการสร้างสรรค์ลูกปัดสุริยเทพก็คือ เจ้าลูกปัดนี้มันมีขนาดเล็กจิ๋ว บางชิ้นประมาณเหรียญสลึง บางชิ้นเล็กกว่า แต่ว่าช่างโบราณกลับสามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม หลากสีสัน ที่สำคัญคือมีใบหน้าคนประดับอยู่ในนั้น

ต่อยอดภูมิปัญญา

จากความน่าสนใจในภูมิปัญญาโบราณที่ช่างสามารถสร้างสรรค์ลูกปัดคลองท่อมออกมาได้อย่างน่าทึ่ง เป็นมรดกแห่งมนุษยชาติตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีพิพิธภัณฑสถานคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวม เก็บรักษาไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ตามปณิธานของพระครูอาทรสังวรกิจ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
Play+Learn = เพลินไปในกิจกรรมเรียนรู้ด้านลูกปัด
ล่าสุดทาง“สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ(สพร.)” ได้ต่อยอดภูมิปัญญาลูกปัดคลองท่อม ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนในรูปแบบ “Play+Learn = เพลิน” ขึ้นที่ พิพิธภัณฑสถานคลองท่อมฯ ในชื่อ กิจกรรม Play+Learn : นักโบราณคดีน้อยกับลูกปัดโบราณ
กิจกรรม Play+Learn : นักโบราณคดีน้อยกับลูกปัดโบราณ
กิจกรรมนี้ได้จัดให้เยาวชนและชาวบ้านในพื้นที่ผู้สนใจ มาร่วมทำการทดลองขุดค้นหาลูกปัดภายในกระบะจำลองที่จะมีลูกปัดจำลองฝังอยู่ในชั้นปูน โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องค่อยๆกะเทาะชั้นปูนออกไปเรื่อยๆ เพื่อค้นหาลูกปัดที่ซ่อนอยู่ภายในอย่างกระจัดกระจาย ครั้นเมื่อได้ลูกปัดทั้งหมดแล้วก็สามารถนำมาร้อยเป็นเครื่องประดับได้ ซึ่งทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมในกิจกรรมนี้ต่างตั้งใจกะเทาะหาลูกปัดในชั้นปูนกันเพลิดเพลิน แบบมีลุ้นเล็กๆ ก่อนจะยินดีปรีดายามที่ได้พบลูกปัดที่ซุกซ่อนอยู่จนครบ
หินและแร่ต่างๆ ก่อนที่จะถูกนำมาทำเป็นลูกปัด
สำหรับกิจกรรมนี้ทางผู้จัดคือ สพร. ต้องการปลูกฝังการเรียนรู้พื้นฐานทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกให้เห็นความสำคัญของลูกปัดที่เชื่อมโยงเรื่องราวของพื้นที่ในอดีต ตลอดจนให้เกิดกระบวนการตั้งคำถามและค้นหาคำตอบ ที่สามารถนำไปต่อยอดในชีวิตประจำวัน นำไปต่อยอดในอนาคตที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้

และนั่นก็เป็นการสานต่อทางภูมิปัญญาแห่งลูกปัดโบราณคลองท่อม ซึ่งสุดท้ายแล้วผมขอกราบคารวะพร้อมสดุดีแด่ท่าน“พระครูอาทรสังวรกิจ” ที่มีปณิธานอันแน่วแน่ พร้อมกับมีวิสัยทัศน์ก้าวหน้ามองเห็นในคุณค่าของโบราณวัตถุ โดยเฉพาะกับ“ลูกปัดโบราณคลองท่อม” ที่วันนี้ได้กลายมาเป็นมรดกอันทรงคุณค่าของแผ่นดิน

และส่งผลให้ “อำเภอคลองท่อม” เป็นหนึ่งในดินแดนลูกปัดขึ้นชื่อของเมืองไทย
ข้าวของเครื่องใช้ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์คลองท่อม
มรดกทรงคุณค่า

“...การเก็บรักษาไว้นี้ไม่ได้เอามาเป็นส่วนตัว แต่เก็บเอาไว้เพื่อให้ชาวโลกได้รู้ ได้ศึกษาความเป็นมาของโบราณวัตถุว่ามีความเป็นมาอย่างไร อายุยาวนานสักเท่าไหร่ และเอาไว้เพื่อสร้างวัดคลองท่อม...”

พระครูอาทรสังวรกิจ(สวาส กนฺตสํวโร)” (พ.ศ.2464-2550) บันทึกไว้ใน“สิ่งเร้นลับที่เปิดเผย” ปี พ.ศ.2500
ลูกปัดนกแสงตะวัน
*****************************************




พิพิธภัณฑสถานคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ที่วัดคลองท่อม บนถนนเพชรเกษม กม.ที่ 71-72 ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อมประมาณ 1 กม. พิพิธภัณฑ์จะเปิดให้ชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ระหว่างเวลา 8.30 -12.00 น.(ช่วงเช้า) และ 13.00 - 16.00 น.(ช่วงบ่าย) ค่าเข้าชม คนไทย : เด็ก 10 บาท,ผู้ใหญ่ 20 บาท ต่างชาติ : เด็ก 50 บาท, ผู้ใหญ่ 100 บาท ผู้สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 075-699-223 ต่อ 105,111 หรือที่ 082-507-0727
 
หมายเหตุ : เนื้อความบางส่วนอ้างอิงข้อมูลจากพิพิธภัณฑสถานคลองท่อมฯ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com


กำลังโหลดความคิดเห็น