นครปฐม - เข้าวาระระดับชาติ ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และระดับชาติ ตลอดจนข้าราชการ ประชาชนเมืองเจดีย์ใหญ่นัดรวมพลังคนทั้งจังหวัด ต่อต้านนโยบายกรมศิลป์ย้ายพิพิธภัณฑ์คู่เมืองไปอู่ทอง เผยพบ “ยิ่งลักษณ์” โผล่ร่วมแสดงจุดยืนร่วมคัดค้านด้วย ด้านประธานกลุ่ม “รักปฐมนคร” เตรียมเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าฯ 6 พ.ค.นี้ ก่อนจะกลับมาตั้งรับการลงชื่อเพื่อคัดค้าน และรวมตัวครั้งใหญ่ 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ลานจอดรถองค์พระปฐมเจดีย์ ฝั่งพระศิลาขาว ติดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ กลุ่ม “รักปฐมนคร” ได้มีการตัดตั้งโต๊ะให้ประชาชนทั่วไปได้มาร่วมลงชื่อคัดค้านนโยบายของ นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบกรมศิลปากร ที่ให้ย้ายวัตถุโบราณจำนวน 1,873 ชิ้น จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม ไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีหนังสือบันทึกราชการเมื่อวันที่ 17 เม.ย.58 ที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศในช่วงบ่าย ได้มีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ปธ.อบจ.) นครปฐม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครปฐม เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้ง นายสุนทร แก้วพิจิตร ประธานสภาเทศบาลนครนครปฐม พร้อมด้วย นายเอกพันธุ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่เทศบาลอีกกว่า 500 คน ได้เดินทางมาลงชื่อเพื่อแสดงการคัดค้านแนวความคิดในการย้ายวัคถุโบราณดังกล่าวกันอย่างคึกคัก
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ช่วงสายของวันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางมายังบริเวณดังกล่าวเพื่อจะเข้าไปดูภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ แต่ปรากฏว่า เป็นวันหยุดได้มีการปิดทำการ โดยมี นายอนุชา สะสมทรัพย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครปฐม เดินทางมาลงชื่อด้วย พร้อมกับได้รับการฝากฝังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้แสดงจุดยืนในการคัดค้านในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ส่วนที่สำนักงานองค์การบริการส่วนจังหวัดนครปฐม นายกองโทพยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้รับการประสานจาก นายชรินทร์ ลี้ไพบูลย์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ให้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือต่อที่ประชุม โดยมี ส.อบจ.เข้าร่วมในการประชุมทุกคนเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ และได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถมาลงชื่อในการคัดค้านที่องค์การบริการส่วนจังหวัด (อบจ.) นครปฐม ได้ในวันที่ 11 พ.ค.นี้
เบื้องต้น มีรายงานว่าจะมีประชาชนมารวมลงชื่อไม่น้อยกว่า 3 หมื่นคน ที่แจ้งความประสงค์เข้ามาแล้วแ ละคาดว่าจะมีอีกเรื่อยๆ
ขณะที่ นายแพทย์คงเดช ลีโทชวลิต รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ในฐานะประธานกลุ่ม “รักปฐมนคร” กลุ่มแกนนำในการคัดค้านมาตั้งแต่ครั้งแรกได้แจ้งว่า จะนำหนังสือเข้าร้องเรียนต่อ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในวันที่ 6 พ.ค.58 นี้ เวลา 09.30 น. ก่อนจะกลับมาตั้งรับการลงชื่อเพื่อคัดค้านต่อไป และจะมีการรวมพลังในการแสดงจุดยืนของประชาชนทุกภาคส่วนในวันที่ 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีคนมาร่วมแสดงพลังเป็นจำนวนมาก
ด้าน นายสมชาย รัตนอารี ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู นครปฐม หนึ่งในแกนนำคัดค้าน เปิดเผยว่า การเปิดให้ลงชื่อนั้นมีมาร่วม 1 สัปดาห์แล้ว ตอนนี้ข้อมูลที่ทราบคือทุกกลุ่มก้อนใน จ.นครปฐม ได้รวมพลังกันไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด โดยไม่มีการแบ่งสายการเมือง หรือความขัดแย้งใดใดที่จะประกาศจุดยืนที่ชัดเจน โดยเฉพาะองค์กรทางด้านการศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และวันนี้ได้รับแจ้งหนังสือราชการจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐมเขต 1 ถึงทุกโรงเรียนทุกแห่งใน จ.นครปฐม เพื่อให้ครู และนักเรียนออกมาคัดค้านในเรื่องนี้แล้ว
“ผมว่าตอนนี้กระแสสังคมในนครปฐมกำลังตื่นตัวต่อเรื่องนี้ เพราะข่าวสารที่กระจายออกไปเรื่อยๆ จากการทำงานมาหลายวันพบว่า ทั้ง 7 อำเภอในจังหวัดนครปฐม กำลังมีการวางแผนในการรับลงรายชื่อเพื่อคัดค้านผ่านโรงเรียน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ประชาชนสามารถแสดงออกได้อย่างสะดวก และเตรียมจะมีการเผยแพร่ข้อมูลต่างให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงออกอย่างสงบ ตอนนี้ไม่มีเสียงคัดค้านแม้แต่เสียงเดียว และจะขยายมากขึ้นไปทุกวัน และเราได้ทำเสื้อเพื่อรณรงค์ในการคัดค้านครั้งนี้ออกมาจำหน่ายเพื่อนำเงินรายได้ทำป้าย และกระจายข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่” นายสมชาย กล่าว
ทางด้าน นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารดี ทนายความด้านอนุรักษ์ โบราณในจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในวันนี้ได้เห็นพลังมวลชน และประชาชนชาวนครปฐม มีความรักในสมบัติของจังหวัดตัวเอง และตนเองก็ได้ทำงานเรื่องนี้มาหลายปี ตั้งแต่อธิบดีกรมศิลปากรคนก่อน แต่ก็ถูกอ้างว่าไม่มีงบประมาณ ซึ่งตอนนี้ในแผนของจังหวัดนครปฐม ตนได้เสนอแผนบรรจุในจังหวัดนครปฐมไปแล้วว่า ให้มีการย้ายพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปตั้งที่เก่า เรือนจำกลางนครปฐม ที่มีพื้นที่ 32 ไร่ ที่ติดกับองค์พระปฐมเจดีย์ แต่กรมศิลปากรก็ไม่เคยดำเนินการมานานหลายปี จนกระทั่งมามีกระแสย้ายวัตถุโบราณ และยุบพิพิธภัณฑ์ ก่อนจะมีประชาชนทราบข่าว และออกมาเคลื่อนไหว
“ผมมองว่าเรื่องนี้คงแปลกที่จะให้คนนครปฐมไปหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่อูท่อง มันไม่เป็นเหตุเป็นผล เพราะของที่นี่ยืนยันว่า มีการขุดพบที่นี่ และนครปฐม เป็นเมืองที่มีประวัตศาสตร์นับพันปี ผมทำงานมาคนเดียวเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างยาวนาน และเก็บหลักฐานไว้ได้พอสมควร จนรู้ว่าการก่อกำเนิดพุทธศาสนาในประเทศไทย จึงได้ชื่อว่าสุวรรณภูมิ และมีชื่อเรียกว่า ปฐมนคร ซึ่งที่ผ่านมา กรมศิลปากรเองที่ไม่ได้เข้ามาดูแลพิพิธภัณฑ์อย่างจริงจัง ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ซึ่งยังมีเรื่องพื้นที่การขุดค้นพบวังปฐมนครปฐม และได้ระบุว่า เป็นโบราณสถาน กรมศิลปากร ก็ไม่ได้มาดูแลอย่างจริงจัง” นายไพบูลย์ กล่าว
นายสุนทร แก้วพิจิตร ประธานสภาเทศบาลนครนครปฐม กล่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานนะประธานสภาเทศบาลนครนครปฐม ได้มาลงชื่อคัดค้านไว้เรียบร้อย แต่เรื่องนี้ก็เป็นกระแสของความรักท้องถิ่นของคนในจังหวัด ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อให้มีการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ทุกส่วนต้องอยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้มีทิศทางอย่างไร แต่เสียงที่นี่เป็นหนึ่งเดียวชัดเจนแล้ว
นายภิญโญ คชศิลา ประธานพุทธสมาคมจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้เคยนั่งในตำแหน่งของงานด้านพระพุทธศาสนาใจจังหวัดนครปฐม ก็อยากจะให้ความเห็นว่า สมบัติทุกชิ้นเป็นจุดยืนยันถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาในจังหวัดนครปฐม สมควรที่จะต้องมีการเก็บไว้ และพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าของผู้คนในจังหวัดนครปฐม
พ.ต.สุขชาติ สะสมทรัพย์ บุตรชาย นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ได้มาลงชื่อคัดค้าน กล่าวว่า วันนี้ต้องคิดแบบนี้ว่า ถ้าราเอาของของคนอู่ทองมาเค้าจะคิดอย่างไร เช่นกัน สมบัติของคนนครปฐม ทิศทางเดียวกันหมด คือเรามีห้องพระของเรา เรากราบไหว้ทุกวัน ใครจะมาเอาพระในบ้านเราออกไป เราจะคิดยังไง เรื่องนี้ชัดเจนมากว่าต้องรักษาสมบัติของเราเอาไว้ให้ถึงที่สุด