คนเมืองเจดีย์ใหญ่ ต้านย้ายพิพิธภัณฑ์ไป"บรรหารบุรี"

นครปฐม - คนเมืองเจดีย์ใหญ่ในนาม "รักปฐมนคร"เดือดจัด อธิบดีกรมศิลปากรไม่สนกระแสต้าน ย้ายพิพิธภัณฑ์เมืองนครปฐมไปอู่ท่อง จ.สุพรรณบุรี เตรียมจับมือคนสุพรรณช่วยต้านแนวคิดสุดสุดพิลึก

วันนี้( 2พ.ค.) ที่ลานหน้าพระศิลาขาว องค์พระปฐมเจดีย์ ด้านข้าง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ภาคประชาชนที่ใช้ชื่อ"รักปฐมนคร"ฎ ซึ่งมีสมาชิก ทั้งข้าราชการระดับสูง กลุ่มองค์กรอิสระ โดนแกนนำ อาทิ นายแพทย์คงเดช ลีโทชวลิต ประธานกลุ่มรักปฐมนคร นายสมชาย รัตนอารี ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี ผศ.เด่นศิริ ทองนพคุณ กลุ่มเครือข่ายเรารักษ์แม่น้ำท่าจีน นายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม เครือข่ายชมรมรักษ์แม่น้ำท่าจีนนครปฐม จัดตั้งโต๊ะเปิดรับให้ประชาชนคัดค้านนโยบายของนายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร ที่จะนำโบราณศิลปวัตถุ จากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาตินครปฐม 1,873 รายการ ไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยมีบันทึกเอกสารราชการเมื่อวันที่ 17 เม.ย. มาแสดงให้ดู

นายสมชาย กล่าวว่า การรวมตัววันนี้เป็นการเคลื่อนไหวภาคประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้คือเปิดให้มีการลงชื่อเพื่อคัดค้าน และแจกแถลงการณ์ รวมถึงเตรียมหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาล ให้มีการแก้ไขเรื่องนี้ เรามีมติว่าจะไม่ให้มีการย้ายหรือยุบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่นี่ไปที่ไหนทั้งนั้น แต่หากจะย้ายก็ควรอยู่ในจ.นครปฐม และพัฒนาให้ดีขึ้นเท่านั้น

โดยข้อมูลที่อธิบดีกรมศิลปากรแถลงผ่านสื่อว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป เพราะมีเหตุผล คือ ขยายตัวไม่ได้ ไม่มีความก้าวหน้า ระบบรักษาความปลอดภัยทำได้ไม่เต็มที่ และความก้าวหน้าของภัณฑรักษ์ไม่เติบโต หากชาวนครปฐ จะเก็บรักษาไว้ ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟนั้น ถือเป็นสิทธิของคนนครปฐม ที่จะแสดงออกในความหวงแหนมรดกที่มีอยู่ในพื้นที่

"สำหรับผมคิดว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ประชาชนมีสิทธิในการปกป้อง มรดกของจังหวัดไว้ และเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของระบบราชการ ที่สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องดูก่อนว่าการบริหารจัดการถ้ามันไม่ดี มันไม่ดีตรงไหน ไม่ใช่มันไม่ดีเมืองนี้แล้วย้ายไปเมืองอื่น ซึ่งมันไม่ใช่ จริงอยู่ในการบริหารงานในกรอบราชการทำได้ แต่เราต้องดูว่าจะย้ายออกจะย้ายออกเพื่ออะไร เหตุผลที่ท่านให้มามันฟังไม่ขึ้น"

นายไพบูลย์ พวงสำลี ประธานกลุ่มศรีทวารวดี กล่าวว่า วันนี้รวมตัวกันอย่างชัดเจนขึ้น เพราะต้องการรักษาสมบัติของคนนครปฐม และมีงานที่จะต้องเสนอ คือ เรือนจำกลางนครปฐมย้ายออกไปจากในเมือง จึงมีพื้นที่ถึง 32 ไร่ สามารถสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ได้ และเชื่อมโยงกับการผลักดันองค์พระปฐมเจดีย์เป็นมรดกโลกได้ ตอนนี้จังหวัดก็ดำเนินการตามแผนแล้ว

ดังนั้นวัตถุโบราณมีอยู่จำนวนมากในสถานเดิม และเห็นว่าคับแคบ ก็ควรไปสร้างให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุหลายชิ้นที่ไปอยู่ที่แห่งอื่น ซึ่งตนประสานงานการทำงานมาหลายปี หลายแห่งพร้อมจะมอบกลับให้นครปฐม หากมีสถานที่เหมาะสม ซึ่งจังหวัดเองมีศักยภาพที่จะทำด้วยตัวเองได้

"ผมคิดว่ากรมศิลปากรมีการทำงานที่น่าสงสัย และไม่ชัดเจน แม้กระทั่งเรื่องการขุดพบวังปฐมนคร ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญ เป็นที่ประทับของพระบามสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ขุดพบด้านทิศตะวันตกขององค์พระปฐมเจดีย์ ผมทำเรื่องขอให้มีการอนุรักษ์ กรมศิลปากรก็ยังไม่สนใจ จนต้องยื่นเรื่องฟ้องที่ศาลปกครอง ซึ่งประวัติศาสตร์ต่างเชื่อมโยงกันหมด และมีความสำคัญกับจังหวัด"

นายชัยภัค สุนทรหงส์ นายอำเภอเมือง ซึ่งมาสังเกตการณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบและเป็นเรื่องที่ดี ส่วนอำเภอได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด ให้มาอำนวยความสะดวกในการรับเอกสาร และเห็นว่าเป็นกระแสที่ดี ที่คนนครปฐมตื่นตัวออกมาแสดงความรักท้องถิ่น ซึ่งตรงกับโครงการของตนที่กำลังจะให้ชุมชน ในพื้นที่ทำประวัติของตัวเอง ทางราชการก็พร้อมให้การบริการเต็มที่ และเห็นว่าควรให้มรดกของนครปฐมอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง

ด้านนายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม เครือข่ายชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีนนครปฐม กล่าวว่า ในเขตอ.บางเลน ได้มีการพูดคุยกับผู้นำชุมชนทั้งหมดแล้วที่จะคัดค้านเรื่องนี้ รวมถึงได้รับการประสานงานจากเครือข่าย ชมรมรักแม่น้ำท่าจีนสุพรรณบุรี ว่าจะออกมาคัดค้านเรื่องนี้เช่นกัน หากเป็นจริง

นายคมสันต์ อยู่เป็นสุข นักศึกษาปริญญาเอก ด้านบริหารศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการจุดประเด็นที่ดี ในการนำองค์ความรู้ให้สู่โรงเรียน เพื่อให้เยาวชนได้ซึมซับเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในพื้นที่ของตัวเอง และบรรจุเป็นวิชาพิเศษในท้องถิ่น เพื่อจะเป็นการรักษาชาติพันธุ์ของตัวเอง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 11.00 น. นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ในพิพิธภัณฑ์ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยและรับฟังการรายงานการดำเนินการอย่างละเอียด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง และได้เดินทางออกไปก่อนจะมีการตั้งโต๊ะรับลงรายชื่อคัดค้าน

ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันมีประชาชนที่ทราบข่าว ทั้งที่เป็นชาวนครปฐมและต่างจังหวัด มาร่วมลงชื่อคัดค้าน การย้ายวัตถุโบราณและยุบพิพิธภัณฑ์ ซึ่งในกระแสโซเชียลรายงานว่าทั้ง 7 อำเภอ ประชาชนได้มีการรวบรวมรายชื่อ เพื่อจะนำรายชื่อมาสมทบกับจุดรับลงชื่อคัดค้าน

ล่าสุด มีจุดรับลงรายชื่คัดค้านเพื่อเติมอีกที่ข้างพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม ส่วนในอ.บางเลน จะมีการเปิดให้ลงชื่อที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง วันที่ 6 พ.ค. รวมถึงเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ต่อไ โดยติดตามได้ที่ เฟสบุ๊ค "ชาวนครปฐมไม่ย้ายพิพิธภัณฑ์"

ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้นางฐิติรัตน์ เค้าภูไทย วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม แจ้งผ่านไลน์กลุ่มรักปฐมนครว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. อธิบดีกรมศิลปากร ได้สั่งด้วยวาจาว่าจะยกเลิกการย้ายวัตถุโบราณทั้งหมดแล้ว แต่เช้าวันที่ 2 พ.ค. กลับมีข่าวผ่านสื่อว่าจะดำเนินการต่อไป ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ จึงดำเนินการดังกล่าว และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของการปกป้องมรดกของตัวเองไว้ทั้งสิ้น คาดว่าอาจจะมีการรวมพลังประชาชนครั้งใหญ่ก่อนวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งจะเป็นวันดีเดย์ของคนนครปฐมในการคัดค้านเรื่องนี้