เมื่อพูดถึง “ประเทศสิงคโปร์” ทุกคนก็จะนึกถึงประเทศเพื่อนบ้านแห่งอาเซียน ที่เป็นเกาะและตั้งอยู่ปลายสุดของคาบสมุทรมลายู แม้จะเป็นประเทศที่มีพื้นที่ไม่มาก แต่ประเทศแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเก่าและใหม่ และหลากหลายอารมณ์ จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวมากมายจากต่างแดน ที่ต้องการเดินทางมาเพื่อสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศสิงคโปร์
จุดเริ่มต้นของนักเที่ยวหลายๆ คน เมื่อได้มาเยือนประเทศสิงคโปร์เเล้ว สถานที่แห่งเเรกที่ต้องจะไปเยือนก็คือ “อ่าวมารีน่า” (Marina Bay) ที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ โดยทุกคนจะต้องไปทักทาย “เมอร์ไลออน” (Merlion) รูปปั้นสิงโตที่มีร่างเป็นปลาบนยอดคลื่น รูปปั้นนี้ถูกออกแบบ โดยนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของประเทศ แต่ปัจจุบันรูปปั้นสิงโตทะเลตัวนี้ ได้กลายมาเป็นเครื่องหมายประจำชาติของสิงคโปร์ ซึ่งใครที่ได้มาเยือนประเทศแห่งนี้ และไม่ได้มาชมพร้อมเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกกับเมอร์ไลออน ก็เหมือนไม่ได้มาเยือนประเทศสิงคโปร์
อีกทั้งบริเวณที่ตั้งของเมอร์ไลออน ยังสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามรอบอ่าวมารีน่าได้อย่างกว้างไกล โดยสามารถเห็นตึก มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) หรือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศสิงคโปร์นั้น คือความลงตัวของความสถาปัตยกรรมยุคเก่าและยุคใหม่ อีกทั้งยังสามารถเห็นได้ไม่ยาก เช่นที่ “ย่านไชน่าทาวน์” (Chinatown) อีกหนึ่งย่านท่องเที่ยวขึ้นชื่อและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานของประเทศสิงคโปร์ ย่านไชน่าทาวน์ก่อตั้งขึ้นเมื่อเรือของประเทศจีนลำแรกเดินทางเข้ามาที่สิงคโปร์ประมาณปี ค.ศ.1821 และได้มีการพัฒนา จนต่อมาได้มีการเปิดเป็นย่านไชน่าทาวน์อย่างเป็นทางการ ในปี ค.ศ.1828
ปัจจุบันย่านแห่งนี้ ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตึกรามบ้านช่องในย่านแห่งนี้ ล้วนเป็นตึกเก่าที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมผสานตะวันตกที่ยังคงสวยงาม ให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนได้ชมและสัมผัสกับกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนยุคเก่าที่ยังไม่จางหายไปกับความเจริญของประเทศ อีกทั้งยังมีร้านค้าขายสินค้ามากมายหลากชนิดวางขายอยู่ริมสองข้างทางของถนน และยังมีถนนอาหาร “ไชน่าทาวน์ ฟูด สตรีท” (Chinatown Food Street ) ให้ได้เดินตระเวนลองลิ้มชิมรสอาหารจีนหลากเมนูกันด้วย
เมื่อได้มาเที่ยวย่านไชน่าทาวน์แล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “วัดพระเขี้ยวแก้ว” (Buddha Tooth Relic Temple) อาคารหลังใหญ่โตอลังการตั้งตระหง่านอยู่ในไชน่าทาวน์แห่งนี้ ถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนสมัยราชวงศ์ถังผสมศิลปะมันดาลา โดยชั้นบนของอาคารเป็นที่ประดิษฐาน สถูปทองคำที่บรรจุพระสารีริกธาตุพระทนต์ของพระพุทธเจ้าไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ ซึ่งมีกฎข้อห้ามในการถ่ายรูป บริเวณชั้นล่างประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และเป็นห้องโถงสำหรับทำพิธีกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ภายในวัดก็ยังมีพิพิธภัณฑสถานทางพุทธศาสนาให้ผู้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เยี่ยมชม
ในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ก็นับได้ว่า สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายอย่างมาก อีกทั้งยังมีให้เลือกอยู่อย่างมากมาย อาทิ สถานที่ท่องเที่ยวแบบสวนสัตว์ ประเทศสิงคโปร์ก็มีเช่นกัน โดยมีทั้ง “สวนสัตว์สิงคโปร์” (Singapore Zoo) “สิงคโปร์ ไนท์ ซาฟารี” (Singapore Night Safari) และ “ริเวอร์ ซาฟารี” (River Safari) โดยมีริเวอร์ ซาฟารี เป็นสวนสัตว์น้องใหม่ที่น่าสนใจ เพราะถือว่าเป็นสวนสัตว์ซาฟารีแห่งแรกของเอเชีย ที่มาในธีมจัดแสดงแบบแม่น้ำ
ภายในริเวอร์ ซาฟารีนั้น ถูกแบ่งโซนการจัดแสดงเป็นลุ่มแม่น้ำที่สำคัญต่างๆ ของโลก โดยมีตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ได้นำปลานานาชนิดประจำลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วโลกมาจัดแสดง อาทิ โซนแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ ที่ได้จัดแสดงระบบนิเวศของป่าอเมซอน ที่มีไฮไลต์คือตู้ปลาขนาดใหญ่มหึมา ที่ได้นำตัวแมนนาที หรือปลาพะยูนหางแบน ปลาช่อนอเมซอน และปลาอีกหลากหลายชนิดในลุ่มน้ำอเมซอนมาไว้ในชมกันอย่างอลังการ
และยังมีโซนลุ่มแม่น้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทวีปอเมริกาเหนือ ,โซนแม่น้ำคองโกและแม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา ,โซนแม่น้ำคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งชมพูทวีป ,โซนแม่น้ำโขง แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ,โซนแม่น้ำแยงซี ในเขตประเทศจีน ที่แต่ละโซนได้นำสัตว์และปลานานาชนิดจากลุ่มน้ำนั้นๆ มาให้ชมอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ที่ริเวอร์ ซาฟารี ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์คือแพนด้ายักษ์ทูตสันถวไมตรีจากประเทศจีน คือเจ้า “ไข๋ไข่” (Kai Kai) แพนด้ายักษ์เพศผู้ และเจ้า “เจียเจี้ย” (Jia Jia) แพนด้ายักษ์เพศเมียให้ได้ชม ซึ่งใกล้ๆ กันนั้น ยังมีแพนด้าแดงให้ได้ชมความน่ารักกันอีกด้วย
หรือจะท่องเที่ยวแบบชมงานศิลป์ ที่สิงคโปร์ก็มีสถานที่ให้ชม เช่นที่ “พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ” (Alive Museum Singapore) พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติแห่งใหม่ของประเทศสิงคโปร์ โดยตั้งอยู่ที่ “ซันเทค ซิตี้” (Suntec City) บริเวณด้านในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงภาพวาดงานศิลปะที่เป็นภาพวาด 3 มิติกว่า 80 รูป ให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนได้ชมภาพวาด 3 มิติ เเต่ละภาพวาดนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับภาพวาดได้อย่างกลมกลืน เเละสามารถแสดงท่าทางต่างๆ ประกอบได้อย่างไม่มีขีดจำกัดเพื่อถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกระหว่างเดินชมได้อีกด้วย
อีกทั้งที่ “ซันเทค ซิตี้” (Suntec City) ก็ยังเป็นที่ตั้งของ “น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง” (Fountain of Wealth) อันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งโชคลาภของประเทศสิงคโปร์ หากใครที่เชื่อในเรื่องโชคลาภและฮวงจุ้ยเเล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเเวะชมเเละสัมผัสกับน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง เพื่อรับพลังจากน้ำแห่งความร่ำรวย น้ำพุแห่งความมั่งคั่งนั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1995 พร้อมๆ ซันเทค ซิตี้ อาคารสำนักงานใหญ่ยักษ์และศูนย์การค้า ที่ได้คำนึงในเรื่องการสร้างตามหลักฮวงจุ้ย โดยได้สร้างหมู่ตึกจำลองเป็นนิ้วห้านิ้ว โดยมีน้ำพุอยู่ตรงกลางเสมือนอยู่บนฝ่ามือ
ตัวน้ำพุถูกสร้างเป็นรูปวงแหวนมีขาเป็นฐานสี่ข้าง โดยออกแบบตามความเชื่อของศาสนาฮินดู เพื่อเป็นตัวแทนจักรวาล ความเท่าเทียมและการหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนสิงคโปร์ที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติ และในแง่ของความเชื่อเรื่องโชคลาภและฮวงจุ้ย วงแหวนที่มีน้ำพุ่งออกมาเข้าสู่ใจกลางน้ำพุ มีความหมายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชีวิตและความมั่งคั่ง การที่น้ำพุ่งเข้าตรงกลางความหมายคือความมั่งคั่งที่ไหลมารวมกันด้าน และกักเก็บความมั่งคั่งของตัวตึกซันเทค ซิตี้ จนเป็นที่มาของชื่อ “น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง” ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ชื่อในเรื่องดังกล่าวมักจะพูดกันไว้ว่า
“ใครที่มาเที่ยวประเทศสิงคโปร์และได้มาเยือนซันเทค ซิตี้ แล้วได้มาเดินรอบน้ำพุแห่งนี้ 3 รอบ โดยเอามือแตะที่น้ำพุตรงกลางไว้ตลอดเวลาจะได้รับพลังน้ำแห่งโชคลาภและความโชคดีติดตัวกลับบ้านกันทุกคน”
แต่ที่ขึ้นชื่อในการเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายของประเทศสิงคโปร์ ก็คงจะเป็นที่ “เกาะเซ็นโตซ่า” (Sentosa Island) เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเก่าและใหม่ ให้ได้เลือกเที่ยวเช่นที่ “ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ” (Universal Studio of Singapore) ที่จะได้สนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิด , “ไทเกอร์ สกาย ทาวเวอร์” (Tiger Sky Tower) ชมทัศนียภาพมุมสูง กว้างไกล 360 องศา บนยอดหอคอยที่สูง 110 เมตร, หรือเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์บริเวณ “รีสอร์ท เวิลด์ เซ็นโตซ่า" (Resorts World Sentosa) เป็นต้น
อีกทั้งยังมีที่เที่ยวแห่งใหม่ คือ “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ สิงคโปร์” (Madame Tussauds Singapore) ให้ได้มาชมกันด้วย พื้นที่ภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งที่เสมือนจริงราวกับมีชีวิต ของบุคคลสำคัญและเหล่าผู้มีชื่อเสียงไว้อย่างมากมาย พร้อมบรรยากาศในการชมที่จะมีทั้งแสง สี เสียง ให้เข้ากับอิริยาบถของบุคคลที่ถูกจำลองเป็นหุ่นขี้ผึ้ง โดยแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ อาทิ “ห้องบุคคลสำคัญ” ก็จะได้พบกับเหล่าผู้นำของโลก เช่น ประธานาธิบดีบารัก โอบามา หรือ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีประเทศสิงคโปร์ “ห้องนักกีฬาคนโปรด” ก็จะได้พบกับ เดวิด เบ็คแฮม นักฟุตบอลชื่อดังและเหล่านักกีฬาชื่อดังอีกมากมาย “ห้องปาร์ตี้คนดังบนพรมแดง” ผู้เข้าชมก็สามารถกระทบไหล่ดาราฮอลลีวู้ดอย่างใกล้ชิด เช่นกับนิโคล คิดแมน,ลีโอนาโด ดีคาพริโอหรือแจ็คกี้ ชาน พร้อมโพสท่าถ่ายรูปได้อย่างตามใจ
และที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ สิงคโปร์ ก็ยังมีกิจกรรมนั่งเรือชม นิทรรศการจิตวิญญาณของสิงคโปร์ (Images of Singapore live) โดยการล่องเรือนั้นจะได้ชมสองฝากฝั่ง ที่ได้จัดการแสดงที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของประเทศสิงคโปร์ผ่านสายน้ำ ซึ่งกิจกรรมนี้ทางพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ สิงคโปร์ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก
สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศสิงคโปร์ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส หากใครที่ได้มีโอกาสมาเยือนประเทศสิงคโปร์แล้ว และจัดตารางการท่องเที่ยวดีๆ รับรองว่าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่คุณได้ไปเยือน จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
***************************************************************************************************************
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวสิงคโปร์ ประจําประเทศไทย โทร.0-2108-1273-4 และทางอีเมล์ stb_bangkok@stb.gov.sg
ริเวอร์ ซาฟารี เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. ค่าบริการผู้ใหญ่ : 25 SGD เด็ก 3-12ปี : 16SGD เด็กอายุตำกว่า 3 ปีเข้าฟรี
พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ (Alive Museum Singapore) ตั้งอยู่ที่ซันเทค ซิตี้(Suntec City) อาคาร3 ชั้น4 เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ : 25 SGD เด็ก 3-12 ปี : 20SGD แพกเกจ : ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 ราคา 60SGD
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ สิงคโปร์ (Madame Tussauds Singapore) ตั้งอยู่เกาะเซ็นโตซ่า เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ 10.00-19.30น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ : 35SGD เด็ก 3-12 ปี : 25SGD
SGD : สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ 1 SGD : ประมาณ 25 บาท
**********************************************************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com