การจัดการประชุม สัมนา การจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ หรือที่เรียกกันว่า “อุตสาหกรรมไมซ์” (MICE = Meeting, Incentive, Convention, Exhibitions) ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังก่อให้เกิดการกระจายรายได้ การสร้างงาน และการขยายตัวของเศรฐกิจภายในประเทศ
ปัจจุบัน สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” (TCEB) ได้คัดเลือกและสนับสนุนจังหวัดที่มีศักยภาพให้เป็น “ไมซ์ซิตี้” หรือจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านการจัดประชุมและแสดงสินค้าระดับสากล โดยที่ผ่านมามีไมซ์ซิตี้ทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ และเมื่อเร็วๆ นี้ “จังหวัดขอนแก่น” ก็ได้รับเลือกให้เป็นไมซ์ซิตี้น้องใหม่ โดยได้มีพิธีเปิดโครงการ “ประชุมเมืองไทย มั่นใจขอนแก่นพร้อม” เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จังหวัดขอนแก่น โดยภายในงานได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ระหว่างทีเส็บและจังหวัดขอนแก่น โดยมีหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการท้องถิ่นกว่า 350 รายร่วมลงนามในครั้งนี้ด้วย
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีศักยภาพในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ในฐานะเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางการค้า การศึกษา คมนาคม การบริการทางแพทย์ที่สำคัญของภาคอีสาน ที่สำคัญยังเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาคตามยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor หรือ EWEC) เชื่อมโยง 5 ประเทศคือ จีน เวียดนาม ลาว ไทย และพม่า จึงเป็นประตูสู่อินโดจีนและจีนตอนใต้
ขณะเดียวกัน ขอนแก่นยังเป็นศูนย์กลางบริหารราชการ มีหน่วยงานตั้งอยู่กว่า 200 แห่ง ศูนย์รวมสถาบันอุดมศึกษาและการแพทย์ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เป็นนครไอซีที ส่วนด้านบริการการจัดประชุม ปัจจุบันขอนแก่นมีศูนย์ประชุม ม.ขอนแก่น เป็นศูนย์ประชุมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้กว่า 3,000 คน และศูนย์ประชุมที่กระจายอยู่ตามโรงแรม 5 ดาว สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาได้ไม่ต่ำกว่าแห่งละ 1,500 คน ขณะที่โรงแรมที่พักมีโรงแรม 4-5 ดาว รองรับกว่า 5,000 ห้อง
นายสมบัติกล่าวต่อว่า แผนพัฒนาเพื่อรองรับการเป็นไมซ์ซิตี้ เบื้องต้นได้มีแผนยกระดับงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นงานประจำปี ให้เป็นงานเทศกาลไหมนานาชาติ โดยจะมีทั้งการจัดประชุมนานาชาติ 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ในเรื่อง Mekhong Silk Road เพื่อจับมือ 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา และไทย เป็นประเทศคู่ค้าไหม พร้อมจัดเที่ยวชมอำเภอชนบทแหล่งผลิตผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของจังหวัด และจะนำผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมชั้นนำในพื้นที่ภาคอีสาน และ 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง มาออกร้านให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อภายในงานเทศกาลดังกล่าว
ด้านนายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นประตูสู่ไมซ์ซิตี้แห่งภาคอีสานและระดับนานาชาติ ความร่วมมือกับจังหวัดขอนแก่นครั้งนี้จะเป็นแนวทางหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศแบบองค์รวมที่เน้นการพัฒนาใน 3 ด้าน คือ ภารกิจในเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ ด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านการจัดการองค์ความรู้และให้คำปรึกษา และจะร่วมกันกำหนดแผนโรดแม็พในการพัฒนาตั้งแต่ปี 2556-2559 โดยจะเน้นการขยายตลาดไมซ์ในช่วงแรก เน้นการพัฒนามาตรฐานไมซ์ในจังหวัดขอนแก่น และเน้นการบุกตลาด AEC โดยที่ผ่านพบว่าในปี 2555 อุตสาหกรรมไมซ์ของของแก่นมีมูลค่าสูงถึง 343 ล้านบาท
ความร่วมมือระหว่างทีเส็บและจังหวัดขอนแก่น จึงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะมีเมืองไมซ์ซิตี้ประจำภาคอีสาน และเป็นการส่งเสริมตลาดไมซ์ในเมืองไทยก่อให้เกิดการกระจายรายสู่ภูมิภาค กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจให้เกิดความคึกคักเพิ่มมากขึ้นและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ