ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สำนักงานส่งเสริมการจัประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ ลงนามความร่วมมือจังหวัดขอนแก่น พัฒนาเป็นไมซ์ ซิตี แห่งที่ 5 ปั้นจังหวัดขอนแก่นขึ้นศูนย์กลางการจัดประชุม และงานแสดงสินค้า ขยายรับ AEC มั่นใจรายได้ในอุตสาหกรรมไมซ์ ซิตี ขึ้นปีละ 5-10% ด้านพ่อเมืองขอนแก่นโชว์แผนพัฒนารับไมซ์ ปรับโฉมงานเทศกาลไหมประจำปี ให้เป็นงานเทศกาลไหมนานาชาติ เริ่มปี 56 เป็นปีแรก
วันนี้ (29 ก.ค.) จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานโครงการ “ประชุมเมืองไทยมั่นใจ ขอนแก่นพร้อม” โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และโรงแรมเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 350 ราย ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ในงานดังกล่าวได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการพัฒนา “ขอนแก่น ไมซ์ ซิตี” โดยมีนายสมบัติ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมลงนามกับนายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เพื่อมุ่งพัฒนาจังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็นไมซ์ ซิตี แห่งที่ 5 ของประเทศ
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า ความร่วมมือกับจังหวัดขอนแก่นครั้งนี้ เป็นแนวทางหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศแบบองค์รวม ซึ่งมีผู้ประกอบกา รและหน่วยงานภาครัฐรวมกว่า 350 ราย พร้อมใจกันขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่นสู่ไมซ์ ซิตี แห่งที่ 5 ของประเทศ ถัดจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต และถือเป็นประตูสู่ไมซ์ ซิตี ภาคอีสาน และระดับนานาชาติ
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้จะดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือ 4 มิติ ประกอบด้วย 1.ร่วมกำหนดแผนงานเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้เกิดการจัดงานไมซ์ใน จ.ขอนแก่นทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติ 2.ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านไมซ์ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน 3.แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้พิจารณาวางผังเมือง เส้นทางคมนาคมขนส่งจังหวัดขอนแก่น และ 4.พัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อเพิ่มศักยภาพ และความสามารถในการแข่งขัน
ทีเส็บ ได้ตั้งเป้าถึงการขยายตัวของจังหวัดขอนแก่นจากอุตสาหกรรมไมซ์ จะขยายตัวอย่างน้อย 5-10% ต่อปี โดยจะเร่งดำเนินงานเชิงรุกเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558
ด้านนายสมบัติ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีศักยภาพในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ในฐานะเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางการค้า การศึกษา คมนาคม การบริการทางแพทย์ที่สำคัญของภาคอีสาน ที่สำคัญยังเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาคตามยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor หรือ EWEC) เชื่อมโยง 5 ประเทศคือ จีน เวียดนาม ลาว ไทย และพม่า จึงเป็นประตูสู่อินโดจีน และจีนตอนใต้ พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และคมนาคมขนส่งของภูมิภาคในอนาคต
ขณะเดียวกัน จังหวัดขอนแก่น ยังเป็นศูนย์กลางบริหารราชการ มีหน่วยงานตั้งอยู่กว่า 200 แห่ง ศูนย์รวมสถาบันอุดมศึกษาและการแพทย์ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้นครไอซีที ทั้งมีศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน รองรับผู้สัมมนาได้กว่า 3,000 คน ขณะที่โรงแรมที่พักมีโรงแรม 4-5 ดาว รองรับกว่า 5,000 ห้อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อว่า แผนพัฒนาเพื่อรองรับการเป็นไมซ์ ซิตี เบื้องต้นมีแผนยกระดับปรับโฉมงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นงานประจำปี ให้เป็นงานเทศกาลไหมนานาชาติ โดยจะมีทั้งการจัดประชุมนานาชาติ 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง เรื่อง Mekhong Silk Road เพื่อจับมือ 6 ประเทศ จีน เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา และไทย เป็นประเทศคู่ค้าไหม พร้อมจัดเที่ยวชมอำเภอชนบทแหล่งผลิตผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอย่างยิ่งใหญ่ขึ้น
ส่วนภายในงานไหมนานาชาติ จะนำผ้าไหม และผลิตภัณฑ์ไหมชั้นนำในพื้นที่ภาคอีสาน และ 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง มาออกร้าน และให้นักท่องเที่ยวได้ชอปปิ้งภายในงานเทศกาลดังกล่าว ซึ่งในปี 2557 จะมีการเชื่อมโยงกับผู้ผลิต และออกแบบสินค้าแฟชั่นจากฝรั่งเศสเข้าร่วมในงานไหมนานาชาติอีกด้วย