xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบันทึกตลาดเก่าเยาวราช ไหว้ศาล“เจ๊สัวเนียม” ใบบุญของลูกจีนเสื่อผืนหมอนใบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระศรีทรงยศหรือเจ๊สัวเนียม
"เทศกาลตรุษจีน" คือเทศกาลปีใหม่ของชาวจีนที่มีความคึกคักไม่น้อยไปกว่าเทศกาลไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านเยาวราช ซึ่งถือเป็นไชน่าทาวน์ในเมืองไทย

หากจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของย่านไชน่าทาวน์เยาวราชแล้วละก็ คงต้องกล่าวถึง "ตลาดเก่าเยาวราช" หรือ ที่คนจีนเรียกกันว่า “เหล่าตั๊กลัก” ซึ่งนับเป็นธุรกิจเอกชนที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ตลาดแห่งนี้มีการสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นและได้รับความนิยมมาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ผู้ก่อตั้งนั้นเป็นคฤหบดีที่มั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งก็คือ "พระศรีทรงยศ" หรือคนโดยทั่วไปเรียกขานกันในนาม "เจ๊สัวเนียม" นั่นเอง
ศาลพระศรีทรงยศ ตั้งอยู่ที่ถนนมังกรติดถนนเยาวราช
ข้อมูลจากหนังสือ "ลูกจีน หลานมอญในกรุงสยาม" โดยพิมพ์ประไพ พิศาลบุตร กล่าวถึงประวัติของเจ๊สัวเนียมว่า พระศรีทรงยศหรือเจ๊สัวเนียม มีชีวิตอยู่ในช่วง 80 ปีแรกแห่งยุคสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งจะอยู่ในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 ลูกหลานได้เล่าว่าบรรพชนนั้นเป็นชาวจีนแซ่เตีย ทำสวนปลูกผักริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าราชวรดิฐ ต่อมาถูกให้ย้ายออกไปหาที่ทำกินใหม่จึงย้ายมาอยู่ที่สำเพ็ง

ในช่วงรัชกาลที่ 3 การค้าระหว่างไทยกับจีนกำลังเฟื่องฟู ในสมัยนั้นมีชาวจีนอพยพมาอย่างมากมาย บ้างมีญาติอยู่ก่อนแล้ว บ้างมาแบบเสื่อผืนหมอนใบโดยพวกที่เดินทางมาแบบนักแสวงหาโชคนั้นก็จะติดขัดในเรื่องไม่มีเงินเสียค่าเข้าเมือง ทางเจ๊สัวเนียมซึ่งเป็นจีนเก่า หรือชาวจีนที่อยู่มาก่อน พอมีทุนจากการปลูกผักชายผักจึงนำเงินมาปล่อยกู้ให้คนจีนใหม่ที่เพิ่งอพยพเข้ามาหยิบยืมเงินไปเสียภาษีและสำรองเป็นค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วค่อยจัดหางานให้ทำพร้อมทยอยใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย ธุรกิจนี้ชาวจีนเรียกว่า ”ชุกหยิบเค่า” ภาษาแต้จิ๋วแปลว่าทางผ่านเข้าออกในที่นี้ก็คือเป็นค่าคนเข้าเมือง ชาวจีนหน้าใหม่เหล่านั้นก็เริ่มต้นด้วยงานแบกหาม รับจ้างพายเรือ รับจ้างปลูกผัก จากนั้นใครมีปัญญาดีขยันหมั่นเพียรก็อาจตั้งตัวได้
ถนนมังกรหรือคลองเว็จขี้เมื่อครั้งอดีต
อีกทั้งเจ๊สัวเนียมยังได้ก่อตั้ง ”เต็กเฮงตึ้ง” หรือสำนักคุณธรรมกำจร ขึ้นมา เป็นสำนักที่มีจีนจับกังขึ้นสังกัดอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเจ๊สัวเนียมนั้นมีความเชื่อมันในศักยภาพของชาวจีนอพยพว่า "คนจีนพากเพียร รู้จักอดออม และมีความอดทน" ดังนั้นแม้จีนผู้มาขอกู้จะเป็นชายแปลกหน้า มีเสื้อผ้าติดตัวมาเพียงชุดเดียว เจ๊สัวเนียมก็ยังยอมให้กู้เงิน ซึ่งการออกเงินกู้ให้แก่คนจีนใหม่เหล่านี้นำความมั่งคั่งมาให้แก่เจ๊สัวเนียม โดยท่านได้มีการติดต่อกับทางการทำอาชีพผูกอากรนำเข้าเบี้ยจากประเทศจีน จนได้ความดีความชอบพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระศรีทรงยศ” ว่ากันว่าท่านรวยขนาดมีเงินใส่ไหตั้งเรียงจากบ้านที่ตลาดเก่าไปถึงวังหลวงเลยทีเดียว

จากความร่ำรวยในกิจการจนได้รับบรรดาศักดิ์หลังจากที่มีฐานะดีขึ้น เจ๊สัวเนียมจึงได้ซื้อที่ดินบริเวณหลังศาลเจ้าเก่าต่อจากตรอกโคมลึกลึกจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางตะวันออก ทำเป็นตลาดสดโดยตัดทางเดินซึ่งชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ตรอกเจ๊สัวเนียม” โดยตลาดขนานไปกับคลองเว็จขี้ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกถมแล้วกลายเป็นถนนและถูกเรียกใหม่อย่างไพเราะว่า “ถนนมังกร” ตลาดเจ๊สัวเนียมนั้นจึงกลายมาเป็นตลาดที่คึกคักได้รับความนิยมจากพ่อค้าจีนตั้งแต่แรกก่อตั้ง
ตลาดเยาวราชคึกคักไม่เคยเปลี่ยนตั้งเเต่เเรกเริ่ม
เจ๊สัวเนียมนั้นมีบุตรธิดาถึง 14 คนโดยคนโตนั้นเป็นบุตรสาวมีชื่อว่าคุณหญิงนิ่ม ซึ่งในการต่อมานั้นคุณหญิงนิ่มผู้นี้ได้แต่งงานกับพระยาอิศรานุถาพ (เอี่ยม) ขุนนางตระกูลบุนนาคซึ่งเป็นบุตรของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ โดยมียศศักดิ์เป็นขุนนางวังหน้า ซึงรวมความร่ำรวยของคุณหญิงนิ่มผู้เป็นบุตรสาวและบารมีของทางพระยาอิศรานุภาพผู้เป็นลูกเขยแล้วก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ทั้งยังเป็นเจ้าของตลาดขนาดใหญ่กลางสำเพ็ง เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของชุมชนจีนสยามสืบต่อกิจการตลาดจากรุ่นสู่รุ่นจนเป็นที่กล่าวว่า “ตลาดสดแห่งนี้เป็นธุรกิจเอกชน ที่ประกอบการต่อเนื่องมานานกว่า 200 ปีและเป็นธุรกิจเอกชนที่มีความเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย” โดยตรอกอิศรานุภาพในย่านตลาดเก่าเยาวราชในปัจจุบันนั้น ก็ได้ชื่อมาจากเจ้าพระยาอิศรานุภาพ ลูกเขยของท่านเจ๊สัวเนียมนั่นเอง

หลังจากเสียชีวิตลงแล้วกิจการที่สืบต่อกันมาก็กลายมาเป็นกิจการในแบบให้เช่าทรัพย์สินแทนการปล่อยกู้ให้แรงงานจีน ในยุคหลังนั้นครอบครัวของเจ๊สัวเนียมก็กลายเป็นคนไทยกันหมดแล้ว คงเหลือไว้แต่ย่านตลาดเก่าที่ยังคึกคักเป็นที่รู้จักของใครต่อใครในทุกยุคทุกสมัย และกลายมาเป็นย่านเยาวราช ไชน่าทาวน์ของไทยในปัจจุบัน ซึ่งลูกหลานก็ได้สร้างศาลเจ๊สัวเนียมหรือพระศรีทรงยศไว้ที่ฝั่งถนนมังกรด้านติดกับถนนเยาวราชข้างห้างโลตัส ภายในศาลมีรูปปั้นเจ๊สัวเนียม เป็นชายสูงวัย โกนหน้าผากคล้ายจีนผูกปี้ รูปร่างผอมเกร็ง เบ้าตาลึก นุ่งโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อ

ศาลแห่งนี้สร้างไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงบรรพชนผู้ที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองจนเป็นประวัติสืบต่อกันมา และยังเป็นที่เคารพของผู้คนในย่านนั้นสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com


กำลังโหลดความคิดเห็น