ธปท. ยืนยันอสังหาฯ ไม่ได้ขยายตัวสูงร้อนแรงจนผิดปกติ หรือส่งสัญญาณจะสร้างปัญหาแต่อย่างใด แต่ไม่ประมาทโดยมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ยันไม่มีการปรับเกณฑ์แบงก์ปล่อยกู้รายใหญ่ แต่จะให้ขอเป็นกรณีได้ เพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันไม่ได้ขยายตัวร้อนแรง หรือส่งสัญญาณจะสร้างปัญหาแต่อย่างใด เพราะเท่าที่ติดตามดูยังไม่พบความผิดปกติ แม้ว่าในช่วงนี้จะมีการเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่จำนวนมากก็ตาม แต่อย่าลืมว่าในช่วงนี้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นทำให้กำลังซื้อก็ดีขึ้นด้วย ดังนั้น ในภาวะเช่นนี้จึงยังไม่มีสัญญาณอะไรที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังจำเป็นต้องติดตามภาวะการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
นอกจากนี้ นายประสารยังกล่าวอีกว่า หากธนาคารพาณิชย์ติดขัดเกณฑ์การปล่อยกู้สินเชื่อรายใหญ่ที่ ธปท.กำหนดให้ธนาคารปล่อยกู้ต่อราย และรวมถึงบริษัทลูก และบริษัทในเครือได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินกองทุน ทำให้มีปัญหาในการปล่อยกู้สินเชื่อลูกหนี้รายใหญ่ที่ต้องขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้วงเงินกู้สูงก็สามารถเข้ามาขอผ่อนผันเป็นกรณีได้ เพราะหากธนาคารสามารถชี้แจงเหตุผล และพิสูจน์ได้ว่า ธุรกิจที่ปล่อยกู้มีความเสี่ยงไม่สูง ลูกค้ามีฐานะดี ธปท.ก็พร้อมที่จะพิจารณาให้เป็นรายกรณี แต่ ธปท.จะไม่ปรับแก้เกณฑ์ดังกล่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพราะเกณฑ์เหล่านี้มีไว้ดูแลความเสี่ยงลูกหนี้รายใหญ่ในเวลาที่เกิดปัญหากับลูกหนี้รายใหญ่ จะได้ไม่กระทบกับฐานะของธนาคารมากจนเกินไป จนมีปัญหาเหมือนในอดีต
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวยืนยันว่า การปล่อยกู้วงเงินสูงๆ มีทางออกหลายทาง ไม่ได้ติดเกณฑ์การปล่อยกู้รายใหญ่ และบริษัทในเครือที่กำหนดไว้ให้ปล่อยกู้รวมกันได้ไม่เกิน 25% ของเงินกองทุนแต่อย่างใด และที่สำคัญ หากติดเกณฑ์เหล่านี้ธนาคารก็สามารถที่จะดำเนินการเพิ่มทุน หรือร่วมกันกับธนาคารอื่นๆ ปล่อยกู้ (ซินดิเคทโลน) เพราะไม่ให้รับความเสี่ยงเพียงธนาคารเดียวในยามที่ธุรกิจนั้นๆ เกิดปัญหา หรือเลือกที่จะออกพันธบัตร (บอนด์) กู้เงินได้ เพราะโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้วงเงินสูง ส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างการเงินที่หลากหลายอยู่แล้ว เนื่องจากต้องใช้เวลาในการดำเนินงาน
