xs
xsm
sm
md
lg

“ประสาร” โฟกัส ศก.ไทย 55 ถือเป็นปีแห่งความเสี่ยง “วิกฤตยูโร” ยังอยู่ต่ออีกนาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
“ประสาร” โฟกัส ศก.ไทย 55 ถือเป็นปีแห่งความเสี่ยง “วิกฤตยูโร” ยังอยู่ต่ออีกนาน อาจทำค่าบาทผันผวนสูง เชื่อ ศก.ไทยยังเติบโตได้ แต่อาจทำระบบการเงินเอเชียเปลี่ยน คาดอีก 2 ปี แบงก์ไทย-เอเชีย จะทดแทนแบงก์ต่างชาติ

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา “ไทยแลนด์โฟกัส 2012” โดยยอมรับว่า ในปีนี้ถือเป็นปีแห่งความเสี่ยงและการประเมินนโยบายการเงินใหม่เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศยังคงแข็งแกร่งในช่วงเวลาแห่งวิกฤต เพราะประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงผลกระทบของวิกฤตการเงินของยุโรปได้ ดังนั้น ผู้ร่างนโยบายทั้งหลายควรจะเตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

ผู้ว่าการ ธปท.มองว่า วิกฤตยูโรโซนยังคงจะอยู่ต่อไป และสามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเรื่องการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงได้ โดยยูโรโซนจะเผชิญหน้ากับการเติบโตที่ช้าลง และการฟื้นตัวที่ยากลำบาก ขณะที่สถานการณ์ยุโรปบีบให้นักลงทุนเข้ามาในเอเชียมากขึ้น รวมทั้งไทย ดังนั้น ค่าเงินบาทก็จะมีความผันผวนสูงมากจากการไหลเข้าของเงินทุน โดยเฉพาะในช่วงนี้การเข้ามาของเงินทุนต่างประเทศทั้งในตลาดตราสารหนี้ และตลาดทุนสูงกว่ายุคก่อนวิกฤตเลห์แมนฯ เสียอีก

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยนั้น เชื่อว่าขณะนี้เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้แน่นอน แต่ว่าไทยจะต้องปรับตัว เพราะไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้ และขณะนี้ การส่งออกของประเทศอาเซียนก็ชะลอตัวลงแล้ว และทำให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลงไปด้วย ซึ่งไทยควรจะหันมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่การปฎิรูประบบการเงินที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนกว่าเดิม

นายประสาร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ธนาคารกลางกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาว่าจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจสมดุลกับการควบคุมผลกระทบของเศรษฐกิจจากวิกฤตภายนอกได้อย่างไร ปัจจุบัน ธปท.ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 เป็นต้นมา ซึ่งยอมรับว่าการผันผวนของเงินบาทจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ธนาคารก็จะเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง และอาจจะใช้มาตรการอย่างเช่นการเข้าไปดูแลในตลาดเงิน เพื่อทำให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น

ผู้ว่าการ ธปท. คาดว่าในช่วง 2 ปีต่อจากนี้ ในภูมิภาคอาเซียนธนาคารพาณิชย์เอเชีย และธนาคารพาณิชย์ไทย จะเข้ามามีบทบาทต่อการให้กู้เงินในเอเชีย และประเทศไทยมากขึ้น ทดแทนการป่ล่อยกู้ของธนาคารในยุโรปที่ลดการปล่อยสิน เชื่อลงจากวิกฤตในยูโรโซน ทั้งนี้ การปล่อยกู้ของธนาคารไทย และเอเชียทดแทนธนาคารพาณิชย์ในยุโรปนั้น โดยเฉพาะสินเชื่อการค้า ช่วยดูแลให้ภาคการส่งออกของไทยไปต่อได้ อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงติดตามสถานการณ์ต่อไปว่าในที่สุดแล้ววิกฤตยูโรจะร้ายแรงมากขึ้นแค่ไหน และกระทบต่อสถาบันการเงินในยุโรปรุนแรงจนกระทบต่อสถาบันการเงินไทยในระยะต่อไปหรือไม่

ทั้งนี้ ในส่วนของการกำกับดูแลสถาบันการเงินนั้น ธปท.ไม่ได้จะเข้มงวดมากขึ้น แม้ระบบการเงินโลกจะเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลระบบสถาบันการเงินที่เข้มงวดขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินไทยไม่ได้ทำธุรกรรมที่ซับซ้อน และไม่ได้เกิดวิกฤตจึงไม่จำเป็นต้องไปตามตะวันตก นอกจากนั้น บางเกณฑ์ของบาเซิล 3 ที่จะกระทบต่อการเงินไทย เช่น การคิดความเสี่ยงของสินเชื่อการค้าที่สูงเกินไป หรือการใช้การกับสถาบันการเงินของประเทศแม่มากกว่าเกณฑ์ของประเทศที่สถาบันการเงินตั้งอยู่ ธปท.ได้ทำเรื่องคัดค้านไปยังธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) ที่จะยกเว้นเกณฑ์เหล่านี้ ส่วนความพร้อมของสถาบันการเงินไทยที่จะเข้าสู่การแข่งขันในเออีซีนั้น

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวต่ออีกว่า หลักการในขณะนี้เป็นการเปิดเสรีแบบสมัครใจ และตามความพร้อมของประเทศนั้นๆ ซึ่งในเบื้องต้น ขณะนี้มองว่าในช่วงแรกจะเป็นการเปิดเสรีการแข่งขันในส่วนของอาเซียนลบ 5 ซึ่งคือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ก่อน เพราะอีก 5 ประเทศคือ ลาว เมียนมาร์ กัมพูชา บรูไน และกัมพูชา ยังไม่มีความพร้อม ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางของอาเซียนจะมีการประชุมกันเพื่อหาข้อสรุปมาตรฐานของธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบชนิดพิเศษ (QAB) ที่สามารถได้รับอนุญาตให้ลงทุนในประเทศอาเซียนได้ทุกประเทศ หากต้องการขอเข้าไปทำธุรกรรมการเงิน และคาดว่าจะได้เกณฑ์คุณสมบัติดังกล่าวในครึ่งปีแรกของปีหน้า และอาจจะเริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์ชนิดพิเศษนี้ในช่วงสิ้นปี 2556

ขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ไทยของเราได้เข้าไปทำธุรกรรมการเงินในประเทศอาเซียนแล้วในหลายรูปแบบ เช่น การตั้งสาขาในประเทศต่างๆ หรือการเข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารท้องถิ่นเพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งนี้ เท่าที่ได้หารือกับนายธนาคาร สนใจที่จะขอเป็นธนาคารที่ลงทุนได้ทุกประเทศในอาเซียน เพื่อจะไปทำธุรกรรมการเงินเมื่อเข้าสู่เออีซี แต่อย่างไรก็ตาม เตือนว่า ถ้าเปิดให้เราเข้าไป เขาก็ต้องเข้ามาแข่งขันด้วย เราต้องเตรียมความพร้อม แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่พิจารณาขณะนี้แบงก์ไทยน่าจะยังสู้ได้ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก


กำลังโหลดความคิดเห็น