ASTV ผุ้จัดการรายวัน - แบงก์กสิกรไทยจับมือ 2 แบงก์นอก ร่วมปล่อยกู้ล็อตใหญ่ให้การบินไทยซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 2 ลำ วงเงิน 137.8 ล้านยูโร ระยะเวลา 12 ปี ด้วยวิธี SPC ชี้ตอบโจทย์ได้ทั้งในส่วนผู้กู้ที่จะประหยัดต้นทุน และผู้ปล่อยกู้ในการลดภาระความเสี่ยง แย้มมีอยู่ระหว่างเจรจาอีก 2-3 ดีล
วานนี้ (21 ม.ค.) ที่สำนักงานใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ได้มีการแถลงข่าวร่วมกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ธนาคารเครดิต อะกรีโคล คอปอร์เรท แอนด์ อินเวสเม้นท์ (Credit Agricole Corporate and Investment Bank) (CA CIB) สถาบันการเงินชั้นนำจากฝรั่งเศส และธนาคารแลนด์เดสแบงก์ เฮสเสน-ทูริงเก้น จิโรเซนเทรล (Landesbank Hessen-Thuringen Girozentrale) (Helaba) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของเยอรมันในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 2 ลำ วงเงินรวม 137.8 ล้านยูโร
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท การบินไทย แต่งตั้งเป็น Mandated Lead Arranger ร่วมกับธนาคารต่างชาติอีก 2 แห่งดังกล่าว ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การบินไทย เพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส รุ่น A330-300 จำนวน 2 ลำ วงเงินรวม 137.8 ล้านยูโร โดยแบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย 64.5 ล้านยูโร ธนาคารแลนด์เดสแบงก์ เฮสเสน-ทูริงเก้น จิโรเซนเทรเล 41.6 ล้านยูโร และธนาคารเครดิต อะกริโคล คอปอร์เรท แอนด์ อินเวสเม้นท์ 31.7 ล้านยูโร ในระยะเวลา 12 ปี
ทั้งนี้ รูปแบบที่ธนาคารร่วมกับธนาคารต่างประเทศให้การสนับสนุนการปล่อยกู้ครั้งนี้ เป็นโครงสร้างที่เป็นสากล เป็นแนวทางปฏิบัติที่ธนาคารสากลทั่วโลกใช้ในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจัดหาเครื่องบินให้กับสายการบิน เป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของการบินไทยลดลง และให้ประโยชน์สูงสุดกับการบินไทย โดยมีการจัดตั้งบรรษัทเฉพาะกิจ (Special Purpose Company - SPC) ขึ้นที่ต่างประเทศ และมีการปล่อยกู้ที่บริษัทดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงของธนาคาร
"การปล่อยกู้ในรูปแบบนี้ จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับการบินไทยในด้านภาษีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่างกันของสถาบันการเงินฝรั่งเศสกับบริษัทแอร์บัส เป็นการสนับสนุนการลงทุนเหมือนกับBOIของประเทศไทย ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยเองก็ลดภาระความเสี่ยงในการปล่อยกู้ก้อนใหญ่ในวงเงินสูงๆที่ทาง ธปท.เป็นห่วงอยู่"
นายวศินกล่าวอีกว่า ธนาคารกสิกรไทย นับเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจัดหาเครื่องบินให้กับการบินไทยในรูปแบบสากล ที่ผ่านมาการปล่อยกู้เพื่อจัดหาเครื่องบินในประเทศไทยมีข้อจำกัด เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับในเรื่องการจำนองเครื่องบิน ทำให้ไม่สามารถจดจำนองเครื่องบินในประเทศไทยได้ อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องต้นทุนทางการเงินสกุลต่างประเทศ
จึงทำให้ไม่สามารถปล่อยกู้ในรูปแบบดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะสนับสนุนทางการเงินในรูปแบบดังกล่าวให้กับบริษัทสายการบินอีก 2-3 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ เนื่องจากเป็นรูปแบบการปล่อยกู้ที่มีความซับซ้อน แต่จะให้ผลประโยชน์ที่ดีกับทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ รวมถึงจะนำรูปแบบการปล่อยกู้นี้ไปรับใช้กับบริษัทในกลุ่มที่ดำเนินโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และระบบลอจิกส์ติกส์ด้วย เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องการเงินลงทุนในระดับสูงเช่นกัน
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดหาเครื่องบินของการบินไทยระหว่างปี 2554-2557 เพื่อพัฒนาฝูงบินและเพิ่มศักยภาพทางการเงิน โดยการบินไทยจะนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมาให้บริการในเส้นทางบินภูมิภาค อาทิ นาริตะ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ไทเป เป็นต้น เครื่องบินแอร์บัส A 330-300 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 299 ที่นั่ง แบ่งเป็นที่นั่งชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นประหยัด 263 ที่นั่ง เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
และเครื่องบินใหม่ยังช่วยให้การบินไทยบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.
วานนี้ (21 ม.ค.) ที่สำนักงานใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ได้มีการแถลงข่าวร่วมกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ธนาคารเครดิต อะกรีโคล คอปอร์เรท แอนด์ อินเวสเม้นท์ (Credit Agricole Corporate and Investment Bank) (CA CIB) สถาบันการเงินชั้นนำจากฝรั่งเศส และธนาคารแลนด์เดสแบงก์ เฮสเสน-ทูริงเก้น จิโรเซนเทรล (Landesbank Hessen-Thuringen Girozentrale) (Helaba) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของเยอรมันในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 2 ลำ วงเงินรวม 137.8 ล้านยูโร
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท การบินไทย แต่งตั้งเป็น Mandated Lead Arranger ร่วมกับธนาคารต่างชาติอีก 2 แห่งดังกล่าว ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การบินไทย เพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส รุ่น A330-300 จำนวน 2 ลำ วงเงินรวม 137.8 ล้านยูโร โดยแบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย 64.5 ล้านยูโร ธนาคารแลนด์เดสแบงก์ เฮสเสน-ทูริงเก้น จิโรเซนเทรเล 41.6 ล้านยูโร และธนาคารเครดิต อะกริโคล คอปอร์เรท แอนด์ อินเวสเม้นท์ 31.7 ล้านยูโร ในระยะเวลา 12 ปี
ทั้งนี้ รูปแบบที่ธนาคารร่วมกับธนาคารต่างประเทศให้การสนับสนุนการปล่อยกู้ครั้งนี้ เป็นโครงสร้างที่เป็นสากล เป็นแนวทางปฏิบัติที่ธนาคารสากลทั่วโลกใช้ในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจัดหาเครื่องบินให้กับสายการบิน เป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของการบินไทยลดลง และให้ประโยชน์สูงสุดกับการบินไทย โดยมีการจัดตั้งบรรษัทเฉพาะกิจ (Special Purpose Company - SPC) ขึ้นที่ต่างประเทศ และมีการปล่อยกู้ที่บริษัทดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงของธนาคาร
"การปล่อยกู้ในรูปแบบนี้ จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับการบินไทยในด้านภาษีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่างกันของสถาบันการเงินฝรั่งเศสกับบริษัทแอร์บัส เป็นการสนับสนุนการลงทุนเหมือนกับBOIของประเทศไทย ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยเองก็ลดภาระความเสี่ยงในการปล่อยกู้ก้อนใหญ่ในวงเงินสูงๆที่ทาง ธปท.เป็นห่วงอยู่"
นายวศินกล่าวอีกว่า ธนาคารกสิกรไทย นับเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจัดหาเครื่องบินให้กับการบินไทยในรูปแบบสากล ที่ผ่านมาการปล่อยกู้เพื่อจัดหาเครื่องบินในประเทศไทยมีข้อจำกัด เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับในเรื่องการจำนองเครื่องบิน ทำให้ไม่สามารถจดจำนองเครื่องบินในประเทศไทยได้ อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องต้นทุนทางการเงินสกุลต่างประเทศ
จึงทำให้ไม่สามารถปล่อยกู้ในรูปแบบดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะสนับสนุนทางการเงินในรูปแบบดังกล่าวให้กับบริษัทสายการบินอีก 2-3 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ เนื่องจากเป็นรูปแบบการปล่อยกู้ที่มีความซับซ้อน แต่จะให้ผลประโยชน์ที่ดีกับทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ รวมถึงจะนำรูปแบบการปล่อยกู้นี้ไปรับใช้กับบริษัทในกลุ่มที่ดำเนินโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และระบบลอจิกส์ติกส์ด้วย เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องการเงินลงทุนในระดับสูงเช่นกัน
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดหาเครื่องบินของการบินไทยระหว่างปี 2554-2557 เพื่อพัฒนาฝูงบินและเพิ่มศักยภาพทางการเงิน โดยการบินไทยจะนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมาให้บริการในเส้นทางบินภูมิภาค อาทิ นาริตะ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ไทเป เป็นต้น เครื่องบินแอร์บัส A 330-300 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 299 ที่นั่ง แบ่งเป็นที่นั่งชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นประหยัด 263 ที่นั่ง เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
และเครื่องบินใหม่ยังช่วยให้การบินไทยบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.