“ดร.กบ” ชี้ ปลด “ปิยสวัสดิ์” เหตุไม่นำเรื่องซื้อเครื่องบินเข้า ครม.

“อำพน” แจง กมธ.คมนาคม เหตุผลหลักในการเลิกจ้าง “ปิยสวัสดิ์” มาจากการสื่อสารที่ไม่มีเอกภาพ ดำเนินการผิดหลักเกณฑ์ ไม่นำเรื่องการซื้อเครื่องบินโดยสาร 12 ลำ เข้า ครม.ทั้งที่การบินไทย ขาดทุนหมื่นล้าน ยันไม่มีการเมืองแทรกแซง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่มี นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ เป็นประธานการประชุม พร้อมกรรมาธิการได้เรียก นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าชี้แจง และตอบข้อซักถามในการศึกษาแผนงานและโครงการต่างๆ ที่สำคัญของบริษัท การบินไทย และการที่บอร์ดบริหารการบินไทย มีมติเลิกจ้าง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย

นายอำพน ได้กล่าวถึงเหตุผลในการเลิกจ้าง นายปิยสวัสดิ์ ว่า การดูแลการบริหารงานของบริษัท การบินไทย ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการดูการมีธรรมาภิบาลมาตลอด การเลิกจากไม่ใช่ความเห็นของตนเพียงคนเดียว แต่เป็นความเห็นของกรรมการบริหารทั้ง 12 คน แต่ละคนซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ความเห็นของกรรมการตนไม่สามารถชี้แจงแทนได้

“เหตุผลหลักของการเลิกจ้าง มาจากการสื่อสารที่ไม่มีเอกภาพ กรณีการจัดซื้อเครื่องบินตามแผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อเครื่องบิน พ.ศ.2554-2565 (จำนวน 75 ลำ แบ่งเป็นการจัดซื้อ 2 ระยะ ระยะแรก 38 ลำ ระยะที่สอง 37 ลำ) ของบริษัท” นายอำพน กล่าว และว่า ตามหลักเกณฑ์ในการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัทได้กำหนดว่าการบริหารทางการเงินจะต้องให้ความสำคัญต่อโครงสร้างการบริหารทางการเงินของบริษัท หากโครงสร้างทางการเงินมีความเปลี่ยนแปลงจะต้องนำเรื่องจัดซื้อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งในปี 2554 บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนประมาณหมื่นล้านเศษ ดังนั้น การดำเนินการจะต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่ยังคงมีการดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 12 ลำ (อยู่ในโครงการจัดซื้อระยะแรก 38 ลำ) ทั้งที่ต้องส่งให้ ครม.พิจารณาก่อน

“ผมขอย้ำว่า การเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ เป็นการดำเนินการตามสัญญาจ้าง โดยมีคณะกรรมการทั้งหมดให้ความเห็นการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัท ทั้งนี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ แม้ก่อนหน้าจะมีการเพิ่มทุนสำเร็จ 5 พันล้าน แต่ตอนหลังต้องกู้เงินเพิ่มจากแผนเดิม 15,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า มีผลกระทบเกิดกับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท”

ด้าน นายเจือ กล่าวว่า อยากทราบผลการให้คะแนนการบรารงานของ นายปิยสวัสดิ์ ที่ชัดเจน รวมทั้งผลประกอบการของบริษัท การบินไทย ที่อยู่ในทิศทางที่ดี แต่ทำไมจึงมีมติเลิกจ้าง จากนั้น นายเจือ ก็เปิดโอกาสให้ กมธ.คนอื่นๆ ได้สอบถาม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ นายปิยสวัสดิ์ และ นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพ ได้สอบถาม นายอำพน แต่ นายอำพน ได้ชี้แจงว่า ตนจะตอบคำถามต่อ กมธ.คมนาคม เท่านั้น

นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ์ รองประธาน กมธ.คมนาคม ถามว่า มีความเห็นขัดแย้งกับกรรมการบริหารในการส่งเรื่องจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 12 ลำ หรือไม่ นายอำพน กล่าวว่า การตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่งเรื่องจัดซื้อฯให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อน หากโครงสร้างทางการเงินของบริษัทเปลี่ยนแปลง อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

จากนั้น นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ กมธ.คมนาคม ได้ถามว่า สาเหตุในการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ มาจากอะไร ในเมื่อนายปิยสวัสดิ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีความเห็นขัดแย้งกับกรรมการบริหารของบริษัท นายอำพน ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรรมการแต่ละคนจะมีเหตุผลและดุลพินิจของตนเอง ตนไม่สามารถชี้แจงได้ กรรมการ 7 คน ใน 12 คน เป็นกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งมานานแล้ว

ขณะที่ นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ความจริงปรากฏชัดว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไม่ได้ขัดข้องในการนำเรื่องจัดซื้อเครื่องบินเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.การชี้แจงของประธานกรรมการบริหารไม่สามารถชี้แจงสาเหตุที่แท้จริงในเหตุผลเลิกจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ ว่า เป็นเพราะเหตุผลคืออะไร ดังนั้นจึงขอให้กรรมาธิการควรตั้งข้อสังเกต ว่า ประธานกรรมการได้ทำการใดๆ ที่เป็นการก้าวล่วงฝ่ายบริหารหรือไม่ เพราะการไม่สามารถชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงได้ ถือเป็นการดำเนินการอย่างไม่มีธรรมาภิบาล

ด้า นพ.อ.วินัย สมพงษ์ กมธ.คมนาคม สอบถามว่า มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ หรือไม่ และกำไรของบริษัทในขณะนี้เป็นอย่างไร โดย นายอำพน กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการเมืองเข้าแทรก เพราะกรรมการสรรหาตนให้ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ ส่วนตัวเลขกำไรคงบอกไม่ได้ เพราะบริษัทยังไม่ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีความจำเป็นต้องปรับเป้าผลประกอบการลงประมาณร้อยละ 10-20 โดยในวันที่ 29 มิ.ย.จะทบทวนรายงานการเงิน สำหรับกำไรของบริษัท เบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับเป้ากำไรลดลงอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า คำชี้แจงเรื่องการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ มีความชัดเจน ส่วนคำชี้แจงต่อพนักงานได้สื่อสารทางเว็บไซต์ชัดเจนแล้ว