“บินไทย” ป่วนหนัก กัปตัน “อภิชัย” บุกยื่นหนังสือ “กิตติรัตน์” สั่งพักราชการ “อารีพงศ์” ปลัดคลัง และบอร์ดบินไทย คัดสรรตำแหน่งรองดีดีโดยมิชอบ หลังศาลอาญาชี้คดีมีมูล “ปิยสวัสดิ์” เปิดใจ ไม่รู้สาเหตุแท้จริงในการสั่งเด้ง แฉหมดเปลือก เงื่อนงำที่อยู่เบื้องลึก ปมขัดแย้ง ทั้งอำนาจ ผลประโยชน์ พร้อมตั้งข้อสังเกต “ดร.กบ” แต่งตั้ง “โชคชัย ปัญญายงค์” นั่งรักษาการดีดี อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
เรืออากาศโทอภิชัย แสงศศิ อดีตผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หลังตนเองได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการคัดสรรรองกรรมการผู้จัดการใหญ่
ทั้งนี้ ศาลอาญาได้ไต่สวนมูลฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีคำสั่งว่า คดีดังกล่าวมีมูลให้ประทับรับฟ้อง ทำให้ผู้ต้องหาตกเป็นจำเลย ซึ่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน มาตรา 101 ระบุว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใด ถูกฟ้องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา และตกเป็นจำเลย ผู้บังคับบัญชามีสิทธิ์ใช้อำนาจสั่งพักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวน หรือการพิจารณา หรือผลแห่งคดีได้ ตนจึงได้มายื่นหนังสือเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เร่งดำเนินเรื่องดังกล่าวตามข้อกฎหมาย
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน หลังถูกคำสั่งคณะกรรมการปลดออกจากตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) โดยยืนยันว่า ตนเองยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงในการประกาศเลิกจ้างครั้งนี้ มาจากสาเหตุเรื่องอะไร แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ได้เกิดประเด็นใหม่ขึ้นมาเกี่ยวกับการจัดซื้อฝูงเครื่องบินฝูงใหม่ของการบินไทย ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นอะไรที่จะมาขัดแย้งกัน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2554 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแผนการจัดหาเครื่องบิน จำนวน 75 ลำ สำหรับแผนในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนของโครงการในปี 2560 มีจำนวน 37 ลำ และปี 2561-2565 อีกจำนวน 38 ลำ
“เรื่องนี้ เราได้มีการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งในโครงการปี 2018-2022 ก็จะเป็นโครงการที่เรากำลังจะดำเนินการต่อไป โดยในเครื่องบิน จำนวน 38 ลำ เราจะมาดำเนินการแบบกระชั้นชิดใกล้ ปี 2018 มากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะเครื่องบินมันจะไม่มี เนื่องจากการจัดเครื่องบินดังกล่าวจะต้องมีการจองในระยะยาว”
ดังนั้น เราจึงจะต้องดำเนินการจัดหาเครื่องบินก่อนปี 2018 เพราะเครื่องบินที่จะจัดหามีจำนวนน้อย เรื่องทุกอย่างได้มีการจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการบริหารไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการนำเรื่องเสนอเข้าไปยังบอร์ด
โดยคณะกรรมการบริหารในชุดนั้นมีทั้ง ดร.ประวิตร รัตนเพียร เป็นประธาน ก็ได้ให้ความเห็นชอบ แต่ไม่ได้มีการนำเสนอเข้าบอร์ด รวมทั้งในตอนนั้น ฐานะการเงินของบริษัทการบินไทย มีฐานะการเงินไม่ค่อยดี ก็ทำให้เรื่องต่างๆ ก็ได้เงียบไป
สำหรับแผนในปีนี้ ตนเองเห็นว่าเรื่องดังกล่าวควรจะต้องเริ่มดำเนินการใหม่ได้แล้ว เนื่องจากเราเห็นว่าหากไม่เริ่มดำเนินการในตอนนี้ อาจจะทำให้มีปัญหาไม่สามารถจัดหาเครื่องบินได้ ตนจึงได้ทำเรื่องเสนอเข้าไปยังกรรมการบริหาร และได้นำเรื่องเสนอบอร์ดชุดใหญ่ ยืนยันว่าจะมีการดำเนินการจัดหาเครื่องบินในโครงการที่สองแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกจำนวน 12 ลำ และที่เหลืออีก 26 ลำ จะเป็นการดำเนินการในช่วงที่สอง
ทั้งนี้ ทางประธานบอร์ดได้บอกกลับมาว่า ตอนนี้ ฐานะการเงินของการบินไทย มีฐานะไม่ค่อยดี และยังมีความเสี่ยง จึงไม่อยากให้มีการจัดหา รวมทั้งมีการพูดถึงว่า ควรจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ใหม่ อีกหรือไม่ โดยได้บอกว่า เรื่องนี้ไม่ควรที่จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของอีก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระยะยาว และเมื่อปีที่ผ่านมา เรามีปัญหาเรื่องน้ำท่วม และในปีนี้ทุกอย่างได้มีการฟื้นสภาพกลับคืนมาแล้ว ดังนั้น ฐานะการเงินไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ผมขอเรียนว่า เรื่องการจัดหาเครื่องบินนั้น จนถึงเวลานี้เรายังไม่มีการพิจารณาลงรายละเอียด มีแต่เพียงขอหลักการเท่านั้น เพื่อเราจะนำไปทำรายละเอียด ดังนั้น ทางบอร์ดก็บอกมาว่า ให้กรรมการบริหารความเสี่ยงเข้าไปดูในสองประเด็น คือ หากมีการจัดหาเครื่องบินดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสี่ยงหรือไม่ สอง จะต้องนำเรื่องนั้เสนอเข้าครม.หรือไม่ โดยหลังจากกรรมการบริหารความเสี่ยงไปตรวจสอบ ก็มีความเห็นว่าเรื่องความเสี่ยงไม่มีปัญหา เห็นควรให้ดำเนินการจัดหาเครื่องบิน จำนวน 38 ลำต่อไป”
ส่วนเรื่องจะต้องเสนอเรื่องนี้ไปยัง ครม.หรือไม่นั้น กรรมการบริหารความเสี่ยงเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องเสนอเรื่องเข้าไปยัง ครม. แต่มาตอนหลัง หนึ่งในคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คงจะได้รับสัญญาณอะไรลงมา จึงกลับความเห็นว่าควรจะต้องนำเรื่องเสนอ ครม.ให้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งผมเองก็บอกไปว่าไม่มีปัญหา
ดังนั้น เรื่องการจัดหาเครื่องบินไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเรื่องการจัดหาเครื่องบิน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการลงไปในรายละเอียดว่าจะใช้เป็นเครื่องรุ่นนี้ รุ่นนั้นแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมบอร์ดได้มีการกล่าวกันว่าในประชุมบอร์ดมี นายปิยสวัสดิ์ เพียงคนเดียวที่คัดค้านไม่ให้นำเรื่องการจัดหาเครื่องบินในโครงการเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. แต่บอร์ดที่เหลือ มีความเห็นด้วยที่จะให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การประชุมบอร์ดในเดือนมีนาคม 2555 ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนได้เสนอความเห็นว่า ไม่ควรเสนอเข้าจริง ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ผ่านตรวจสอบของกรรมการบริหารความเสี่ยงแล้ว แต่หากจะให้มีการเสนอเรื่องเข้าสู่ ครม. ตนก็ไม่ว่าอะไร
ดังนั้น หากตนมีปัญหาเรื่องการสื่อสารระหว่างตนกับบอร์ดเรื่องเครื่องบิน ตนก็อยากจะตั้งคำถามกลับไปว่า การเอา นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ และทำหน้ารักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มานั่งเป็นประธานมารักษาการดีดีทำไม ในเมื่อตัวของนายโชคชัยเป็นประธานในการจัดหาเครื่องบิน
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ และการที่ตนมานั่งอยู่ตรงนี้จะทำให้เกะกะอะไรหรือไม่ ตนไม่สามารถบอกได้ อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าว ยังไม่มีการพิจารณาลงรายละเอียดแต่อย่างใดเลย
เมื่อถามว่า การลงโทษพนักงานฝ่ายช่างเกี่ยวกับการขายเครื่องยนต์เครื่องบิน นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมการสอบสวนที่จะลงไปดู เรื่องนี้ตนขอบอกได้ว่าเป็นเรื่องของเครื่องยนต์ได้หายไป ดังนั้น ตนคิดว่าการเลิกจ้างตนไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นเรื่องใดนั้น คงจะต้องไปถามบอร์ดเอาเอง ถามประธานอำพนเอาเอง เพราะตนไม่อยากจะพูดอะไรในเรื่องนี้
