“จารุพงศ์” แจงเหตุผลต้องปลด “ปิยสัวสดิ์” พ้นเก้าอี้ “ดีดี” การบินไทย เป็นมติเอกฉันท์ของบอร์ด 12 คน ซึ่งตั้งโดย รบ.ชุดก่อน 7 คน ชี้ ปมร้อน “การสื่อสารไม่ตรงกัน” เพราะไม่ยอมเสนอซื้อเครื่องบินให้ ครม.ชุดปัจจุบัน สวนความเห็นบอร์ด ยันเรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูก พร้อมฝากอัดแกนนำสหภาพฯ ออกมาเคลื่อนไหวประท้วง เพราะเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกับ “ดีดี” แถมยังมีสถานภาพเถื่อน “แรงงาน” ไม่รับรอง
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีมติเลิกจ้าง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) เนื่องจากมีปัญหาในด้านการสื่อสาร และการทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการกับนายปิยสวัสดิ์ โดยยืนยันว่า เรื่องนี้อำนาจอยู่ที่คณะกรรมการ อย่านำมาเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง
“การที่บอร์ดสื่อสารกับดีดีไม่ตรงกัน ถือเป็นเรื่องตัดสินใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมรับฟังและรับทราบ ทางฝ่ายการเมืองคงไม่ต้องพูดอะไร ซึ่งมีหลายคนมองว่า น่าจะเป็นการเมืองสั่งการให้ปลด เรื่องนี้ขอบอกว่า คณะกรรมการการบินไทยมีทั้งหมด 12 คน ซึ่ง 7 คนตั้งในสมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 12 คน ก็เอาไปคิดเองแล้วกัน”
เมื่อถามว่า กระทรวงคมนาคมในฐานะดูแล และกำกับการบินไทยจะเป็นห่วงในการทำงานอย่างต่อเนื่องหรือไม่ นายจารุพงศ์ ระบุว่า เรื่องนี้บอร์ดต้องรับผิดชอบ และบอร์ดเขาก็วิเคราะห์แล้ว จึงตัดสินใจเลือกทางเดินที่คิดว่าเหมาะที่สุด เราก็ต้องให้การสนับสนุนและประคับประคองเขาไป แต่ถามว่าห่วงไม่ห่วง จะเปลี่ยนดีดีหรือไม่เปลี่ยนก็ห่วงทั้งหมด
ส่วนเรื่องสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ออกมาชุมนุมคัดค้านการปลดนั้น มองว่าสหภาพฯ กับดีดีก็เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน แล้วจะมาถามอะไรกันอีก รู้กันหมดแล้วนี่ แล้วจริงๆ สหภาพฯ ชุดนี้ กระทรวงแรงงานไม่ได้รับรอง สหภาพการบินไทยชุดนี้ทำไม่ถูกต้อง ขั้นตอนการประชุม หรือดำเนินการไม่เหมาะไม่ควรไม่ถูกต้อง สหภาพการบินไทย จึงไม่ได้รับการรับรอง
สำหรับการสรรหาคนใหม่เข้ามาทำงานแทน นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ต้องดูที่ผลการดำเนินงาน ยอมรับว่า การบริหารงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจัดซื้อเครื่องบิน 75 ลำ ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าต้องจัดซื้อเพิ่มอีก 30-35 ลำ
ขณะที่นายปิยสวัสดิ์ ยืนยันว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดที่ผ่านมา ได้อนุมัติไปแล้วจึงไม่จำเป็นต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม. ชุดปัจจุบันพิจารณาเพิ่มเติม ขณะที่คณะกรรมการหลายคนยอมรับว่าควรเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณา เพราะการซื้อเครื่องบินฝูงใหม่ใช้เงินนับแสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของประชาชน และรัฐบาลชุดปัจจุบันผ่านการรับเลือกตั้ง
“การสื่อสารที่ไม่ตรงกันอยู่ที่ว่า ดีดีมีความเห็นว่า การที่จะไปข้างหน้าอีก เป็นอำนาจของบอร์ดและดีดีที่จะเสนอและทำไปได้เลย ไม่ต้องมาขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีก แต่ทางบอร์ดเห็นว่า เงินลงทุนอีกหลายแสนล้านบาทอย่างนี้ อีกทั้ง 35 ลำ และเวลาอีกเกือบ 7-8 ปีข้างหน้า จะไม่หารือกับ ครม.ได้อย่างไร นี่คือที่มาของคำว่า การสื่อสารไม่ตรงกัน ซึ่งไม่มีใครผิดใครถูก”
เมื่อถามว่า เกี่ยวกับกรณีที่ดีดีจะเข้าไปตรวจสอบการซื้อเครื่องบินฝูงใหม่จำนวน 38 ลำหรือไม่ นายจารุพงศ์ตอบว่า ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่แน่นอนที่สุดบอร์ดเขาก็ห่วง คือแผนของการบินไทย ในปี 2018 เป็นต้นไปต้องมีแผนทั้งเช่า และซื้อเครื่องบิน ในเครื่องบิน 35 หรือ 38 ลำ ซึ่งในแผนเดิมเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว การบินไทยได้มีแผนในการจัดหาเครื่องบินรวม 75 ลำ ซึ่งเมื่อถึงปี 2018 จะจัดหาได้ครบ 30-35 ลำ หรือจัดหาได้ครึ่งหนึ่ง โดยปีหน้า แอร์บัส 380 จะส่งมอบอีก 3 ลำ ถัดมาปีต่อไปก็จะจัดหาเพิ่มอีก 3 ลำ และต้องมองไปข้างหน้าหลังปี 2018 ที่จะจัดหาเพิ่มอีก 35 ลำ ว่าจะไปทางไหน จัดหาจากไหน