“ดร.กบ”ยันปลด“ปิยะสวัสดิ์”ไร้การเมืองแทรก ระบุการสื่อสารขาดเอกภาพช่วงจัดซื้อเครื่องบินใหม่เป็นเหตุ แถมกู้เงิน 1.5 หมื่นล้านกระทบโครงสร้างการเงินแต่ไม่รายงานครม. ส่อผิดกฎหมายอาญา 157 แต่ปัดตอบคำถามสหภาพบินไทย ย้ำบอดร์ดถกรอบคอบแล้วก่อนตัดสินใจ
วานนี้(14 มิ.ย.55) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราฎร โดยนายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมิการฯ พร้อมกรรมาธิการได้เรียก นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบริษัทการบินไทยจำกัด เข้าชี้แจงและตอบข้อซักถามในการศึกษาแผนงานและโครงการต่างๆที่สำคัญของบริษัทการบินไทยจำกัด และการที่บอร์ดบริหารการบินไทยมีมติเลิกจ้าง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยฯ
นายอำพน กล่าวถึงเหตุผลในการเลิกจ้าง นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ ว่า การดูแลการบริหารงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาได้ดำเนินการดูการมีธรรมาภิบาลมาตลอด การเลิกจากไม่ใช่ความเห็นของตนเพียงคนเดียวแต่เป็นความเห็นของกรรมการบริหารทั้ง 12 คน แต่ละคนซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ความเห็นของกรรมการตนไม่สามารถชี้แจงแทนได้
“เหตุผลหลักของการเลิกจ้างฯ มาจากการสื่อสารที่ไม่มีเอกภาพ กรณีการจัดซื้อเครื่องบินตามแผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อเครื่องบินพ.ศ.2554-2565 (จำนวน 75 ลำ แบ่งเป็นการจัดซื้อ 2 ระยะ ระยะแรก 38 ลำ ระยะที่สอง 37 ลำ) ของบริษัทแต่ไม่นำเรื่องเข้าสู่ครม.”
นายอำพน กล่าวอีกว่า ตามหลักเกณฑ์ในการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัทได้กำหนดว่าการบริหารทางการเงินจะต้องให้ความสำคัญต่อโครงสร้างการบริหารทางการเงินของบริษัท หากโครงสร้างทางการเงินมีความเปลี่ยนแปลงจะต้องนำเรื่องจัดซื้อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน
โดยในปี 2554 บริษัท มีผลประกอบการขาดทุนประมาณหมื่นล้านเศษดังนั้นการดำเนินการจะต้องนำเรื่อง เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่ยังคงมีการดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 12 ลำ (อยู่ในโครงการจัดซื้อระยะแรก 38 ลำ) ทั้งที่ต้องส่งเสริมให้ค.ร.ม.พิจารณาก่อน
“ผมขอย้ำกว่าการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์เป็นการดำเนินการตามสัญญาจ้าง โดยมีคณะกรรมการทั้งหมดให้ความเห็นการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ ทั้งนี้เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินของบริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ก่อนหน้าจะมีการเพิ่มทุนสำเร็จ 5 พันล้านแต่ตอนหลังต้องกู้เงินเพิ่มจากแผนเดิม 15,000ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ามีผลกระทบเกิดกับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท”
ด้านนายเจือ ราชสีห์ ประธานกมธ.คมนาคม กล่าวว่า อยากทราบผลการให้คะแนนการบริหารงานของ นายปิยะสวัสดิ์ ที่ชัดเจน รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทการบินไทยฯที่อยู่ในทิศทางที่ดีแต่ทำไมจึงมีมติเลิกจ้าง จากนั้น นายจือ ก็เปิดโอกาสให้ กมธ.คนอื่นๆได้สอบถาม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ นายปิยะสวัสดิ์ และนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพ ได้สอบถามนายอำพน แต่นายอำพน ได้ชี้แจงว่า ตนจะตอบคำถามต่อ กมธ.คมนาคมเท่านั้น
นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ์ รองประธาน กมธ.คมนาคม ได้สอบว่ามีความเห็นขัดแย้งกับกรรมการบริหารในการส่ง เรื่องจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 12 ลำ หรือไม่
นายอำพน กล่าวว่า การตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่งเรื่องจัด ซื้อฯให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนหากโครงสร้างทางการเงินของบริษัทเปลี่ยนแปลง อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ขณะที่นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัทการบินไทย กล่าวว่า ความเป็นจริงปรากฎชัดว่ากรรมการผู้อำนวยจการใหญ่ไม่ได้ขัดข้องในการนำเรื่องจัดซื้อเครื่องบินเข้าสู่การพิจารณาของค.ร.ม. การชี้แจงของประธานกรรมการบริหารสามารถชี้แจงสาเหตุที่แท้จริงในเหตุผลเลิกจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุผลคืออะไร ดังนั้นจึงขอให้กรรมาธิการฯ ควรตั้งข้อสังเกตว่าประธานกรรมการได้ทำการใดๆ ที่เป็นการก้าวล่วงฝ่ายบริหารหรือไม่ เพราะการไม่สามารถชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงได้ถือเป็นการดำเนินการอย่างไม่มีธรรมาภิบาล
**ยันไร้การเมืองแทรก**
ด้านพ.อ.วินัย สมพงษ์ กมธ.คมนาคม สอบถามว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการเลิกจ้างนายปิยะสวัสดิ์หรือไม่ และ กำไรของบริษัทในขณะนี้เป็นอย่างไร โดยนายอำพน กล่าวยืนว่า ไม่มีการเมืองเข้าแทรก เพราะกรรมการสรรหาตนให้ปลัดกระทรวการคลัง เป็นกรรมการ ส่วนตัวเลขกำไรคงบอกไม่ได้เพราะบริษัทยังไม่ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท)
อย่างไรก็ดีขณะนี้มีความจำเป็นต้องปรับเป้าผลประกอบการลงประมาณร้อยละ 10-20 โดยในวันที่29 มิ.ย.จะทำทวนรายงานการเงิน สำหรับกำไรของบริษัทเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับเป้ากำไรลดลงอย่างแน่นอน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าคำชี้แจงเรื่องการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์มีความชัดเจน ส่วนคำชี้แจงต่อพนักงานได้สื่อสารทางเว็บไซต์ชัดเจนแล้ว
วานนี้(14 มิ.ย.55) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราฎร โดยนายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมิการฯ พร้อมกรรมาธิการได้เรียก นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบริษัทการบินไทยจำกัด เข้าชี้แจงและตอบข้อซักถามในการศึกษาแผนงานและโครงการต่างๆที่สำคัญของบริษัทการบินไทยจำกัด และการที่บอร์ดบริหารการบินไทยมีมติเลิกจ้าง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยฯ
นายอำพน กล่าวถึงเหตุผลในการเลิกจ้าง นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ ว่า การดูแลการบริหารงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาได้ดำเนินการดูการมีธรรมาภิบาลมาตลอด การเลิกจากไม่ใช่ความเห็นของตนเพียงคนเดียวแต่เป็นความเห็นของกรรมการบริหารทั้ง 12 คน แต่ละคนซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ความเห็นของกรรมการตนไม่สามารถชี้แจงแทนได้
“เหตุผลหลักของการเลิกจ้างฯ มาจากการสื่อสารที่ไม่มีเอกภาพ กรณีการจัดซื้อเครื่องบินตามแผนยุทธศาสตร์การจัดซื้อเครื่องบินพ.ศ.2554-2565 (จำนวน 75 ลำ แบ่งเป็นการจัดซื้อ 2 ระยะ ระยะแรก 38 ลำ ระยะที่สอง 37 ลำ) ของบริษัทแต่ไม่นำเรื่องเข้าสู่ครม.”
นายอำพน กล่าวอีกว่า ตามหลักเกณฑ์ในการบริหารโครงสร้างทางการเงินของบริษัทได้กำหนดว่าการบริหารทางการเงินจะต้องให้ความสำคัญต่อโครงสร้างการบริหารทางการเงินของบริษัท หากโครงสร้างทางการเงินมีความเปลี่ยนแปลงจะต้องนำเรื่องจัดซื้อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน
โดยในปี 2554 บริษัท มีผลประกอบการขาดทุนประมาณหมื่นล้านเศษดังนั้นการดำเนินการจะต้องนำเรื่อง เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่ยังคงมีการดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 12 ลำ (อยู่ในโครงการจัดซื้อระยะแรก 38 ลำ) ทั้งที่ต้องส่งเสริมให้ค.ร.ม.พิจารณาก่อน
“ผมขอย้ำกว่าการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์เป็นการดำเนินการตามสัญญาจ้าง โดยมีคณะกรรมการทั้งหมดให้ความเห็นการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ ทั้งนี้เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินของบริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ก่อนหน้าจะมีการเพิ่มทุนสำเร็จ 5 พันล้านแต่ตอนหลังต้องกู้เงินเพิ่มจากแผนเดิม 15,000ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ามีผลกระทบเกิดกับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท”
ด้านนายเจือ ราชสีห์ ประธานกมธ.คมนาคม กล่าวว่า อยากทราบผลการให้คะแนนการบริหารงานของ นายปิยะสวัสดิ์ ที่ชัดเจน รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทการบินไทยฯที่อยู่ในทิศทางที่ดีแต่ทำไมจึงมีมติเลิกจ้าง จากนั้น นายจือ ก็เปิดโอกาสให้ กมธ.คนอื่นๆได้สอบถาม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ นายปิยะสวัสดิ์ และนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพ ได้สอบถามนายอำพน แต่นายอำพน ได้ชี้แจงว่า ตนจะตอบคำถามต่อ กมธ.คมนาคมเท่านั้น
นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ์ รองประธาน กมธ.คมนาคม ได้สอบว่ามีความเห็นขัดแย้งกับกรรมการบริหารในการส่ง เรื่องจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 12 ลำ หรือไม่
นายอำพน กล่าวว่า การตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่งเรื่องจัด ซื้อฯให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนหากโครงสร้างทางการเงินของบริษัทเปลี่ยนแปลง อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ขณะที่นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัทการบินไทย กล่าวว่า ความเป็นจริงปรากฎชัดว่ากรรมการผู้อำนวยจการใหญ่ไม่ได้ขัดข้องในการนำเรื่องจัดซื้อเครื่องบินเข้าสู่การพิจารณาของค.ร.ม. การชี้แจงของประธานกรรมการบริหารสามารถชี้แจงสาเหตุที่แท้จริงในเหตุผลเลิกจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุผลคืออะไร ดังนั้นจึงขอให้กรรมาธิการฯ ควรตั้งข้อสังเกตว่าประธานกรรมการได้ทำการใดๆ ที่เป็นการก้าวล่วงฝ่ายบริหารหรือไม่ เพราะการไม่สามารถชี้แจงเหตุผลที่แท้จริงได้ถือเป็นการดำเนินการอย่างไม่มีธรรมาภิบาล
**ยันไร้การเมืองแทรก**
ด้านพ.อ.วินัย สมพงษ์ กมธ.คมนาคม สอบถามว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการเลิกจ้างนายปิยะสวัสดิ์หรือไม่ และ กำไรของบริษัทในขณะนี้เป็นอย่างไร โดยนายอำพน กล่าวยืนว่า ไม่มีการเมืองเข้าแทรก เพราะกรรมการสรรหาตนให้ปลัดกระทรวการคลัง เป็นกรรมการ ส่วนตัวเลขกำไรคงบอกไม่ได้เพราะบริษัทยังไม่ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท)
อย่างไรก็ดีขณะนี้มีความจำเป็นต้องปรับเป้าผลประกอบการลงประมาณร้อยละ 10-20 โดยในวันที่29 มิ.ย.จะทำทวนรายงานการเงิน สำหรับกำไรของบริษัทเบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับเป้ากำไรลดลงอย่างแน่นอน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าคำชี้แจงเรื่องการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์มีความชัดเจน ส่วนคำชี้แจงต่อพนักงานได้สื่อสารทางเว็บไซต์ชัดเจนแล้ว