xs
xsm
sm
md
lg

เป้าหุ้น 1300 จุด...ยิ่งวันยิ่งห่างไกลไปทุกที / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ใกล้ส่งท้ายปีเก่า 2568 บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นอับเฉาอย่างหนัก ดัชนีราคาหุ้นตกอยู่ในสภาพซึมเศร้า มูลค่าการซื้อขายหุ้นเบาบาง เหลือวันละเพียงระดับ 3 หมื่นล้านบาท และบางวันทรุดเหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนแทบไม่เหลือความหวังใดในปีนี้แล้ว

สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวดีชิ้นใหญ่ที่นักลงทุนรอคอย ธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% และมีแนวโน้มท่าจะลดลงอีกในปีหน้า ซึ่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่คาดหมายว่า ตลาดหุ้นจะตอบรับข่าวการลดดอกเบี้ย แต่ปรากฏว่า ดัชนี ฯกลับปักหัวลง โดยไม่ตอบรับข่าวดีแต่อย่างใด

สัปดาห์นี้เหลือข่าวดีชื้นสุดท้ายส่งท้ายปีเก่า โดยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งจะประชุมกันวันที่ 17 ธันวาคมนี้ จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และน่าจะกระตุ้นให้ตลาดหุ้นเกิดความคึกคัก

ดัชนี ฯ จะตีฝ่าแนวต้าน 1300 จุดขึ้นไปได้หรือไม่ อยู่ที่การลดดอกเบี้ยของ กนง. ซึ่งหากตลาดหุ้นไม่ตอบรับข่าวดีเหมือนการลดดอกเบี้ยของสหรัฐ โค้งสุดท้ายของตลาดหุ้นไทย ช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายปี 2568 ตลาดหุ้นคงหงอยสนิท

ดัชนี ฯ หมิ่นเหม่ที่จะหลุดแนวรับ 1250 จุดอยู่ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดที่ระดับ 1254.10 จุด เหลือกันชนที่ลงสู่แนวรับอีกเพียง 4 จุดเท่านั้น ซึ่งตอนนี้รอลุ้นกันว่า การลดดอกเบี้ยของ กนง.จะปลุกตลาดหุ้นให้ตื่นจากการหลับใหลได้หรือไม่

ถ้านักลงทุนยังไม่ตอบรับข่าวดี กนง. ลดดอกเบี้ย ภายในปีนี้ คงไม่มีโอกาสได้เห็นดัชนี ฯ ตีฝ่าแนวต้านขึ้นไปแตะที่ระดับ 1300 จุดอีกครั้ง

เพราะไม่เหลือข่าวดีใด ๆ ที่จะกระตุ้นการลงทุนอีกแล้ว แม้จะมีความพยายามผลักดันโครงการ TISA หรือ Thailand Individual Savings Account หรือบัญชีการออม-การลงทุนส่วนบุคคล ที่เปิดให้นักลงทุนที่ซื้อสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศตามเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุด 8 แสนบาท เพื่อกระตุ้นการลงทุนก็ตาม

เป้าหมายดัชนี ฯ สิ้นปีที่บรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนักประเมินไว้ที่ 1340 จุด ถ้าประเมินจากสถานการณ์แวดล้อมตลาดหุ้นวันนี้ โอกาสที่หุ้นจะพุ่งทะยานขึ้นไปที่ระดับ 1340 จุด ความเป็นไปได้แทบเหลือศูนย์ ซึ่งนักวิเคราะห์และนักลงทุนส่วนใหญ่ ได้ปรับความคาดหวังใหม่แล้ว

ตอนนี้คาดหวังกันเพียง สิ้นปีนี้ขอให้ดัชนี ฯ ปิดเหนือ 1300 จุดก็พอใจกันแล้ว เพราะท่ามกลางการขาดแคลนข่าวดี และปัจจัยภายในที่รุมล้อมรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง การที่หุ้นจะตะเกียดตะกายไปให้ถึง 1300 จุด ไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ไม่ว่า สิ้นปีดัชนี ฯ จะจบลงที่เท่าไหร่ แต่คงเป็นอีกปีที่ตลาดหุ้นไทยจะอยู่รั้งท้าย เป็นตลาดหุ้นที่ “ห่วยแตก” ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และจะจับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นแพะรับบาปไม่ได้

เพราะตลาดหลักทรัพย์ไม่มีหน้าที่ทำให้หุ้นขึ้น มีเพียงหน้าที่ทำให้การซื้อขายหุ้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ ยุติธรรมและเท่าเทียม โดยไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน

มีหน้าที่ในการดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นที่มีอยู่ประมาณ 3.5 ล้านชีวิต

ความตกต่ำของตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายปี สวนทางจากตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งสร้างจุดสูงสุดใหม่กันเป็นแถว เกิดจากปัญหาภายในประเทศทั้งสิ้น โดยเฉพาะความตกต่ำทางเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ นอกจากนั้นยังขาดแคลนรัฐบาลที่ดี ซึ่งดูเหมือนว่า ประเทศไทยไม่เคยมีเสียด้วยซ้ำ

ตลาดหุ้นไทยจะฟื้นคืนสู่ความสดใส เศรษฐกิจจะต้องฟื้นตัว รัฐบาลชุดใหม่จะต้องสร้างความคาดหวังให้นักลงทุนได้ ซึ่งดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็ต้องลองลุ้นดูกันอีกทีในปลายไตรมาสแรกปี 2569

แต่อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าก่อนปิดฉากปี 2568 ทำใจกันไว้ ตลาดหุ้นอาจจมปรักอยู่ความเงียบเหงาซบเซา และนักลงทุนอาจหมดสิทธิเห็นดัชนีฯ 1300 จุดอีกครั้ง








กำลังโหลดความคิดเห็น