xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.หารือพรรคปชป.ขับเคลื่อนศก.ไทย ชี้น้ำท่วมภาคใต้เสียหายกว่า2.5หมื่นล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.อ.ท. หารือพรรค ปชป. เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมไทย ชี้จำเป็นต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง กำจัดคอรัปชั่นและรื้อระบบการศึกษาไทย “เกรียงไกร”คาดมูลค่าเสียหายน้ำท่วมภาคใต้กว่า 2.5 หมื่นล้าน หลังโรงงานได้รับผลกระทบกว่า 700 แห่ง ชงภาครัฐสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ- เร่งออกมาตรการ Fast Track  

วันนี้ ( 2 ธันวาคม 2568) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เพื่อประชุมหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย

 


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายอภิสิทธิ์ และคณะบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในหลายเรื่อง ซึ่งมีความคิดเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ โดยหัวใจสำคัญในการหารือครั้งนี้ คือความห่วงใยต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศแข่งขันได้

ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเปรียบได้กับ “รถที่ติดหล่ม” ต้องใช้แรงมหาศาลในการดึงขึ้นมา ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการเร่งเครื่องนโยบายจากภาครัฐ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ประกาศนโยบาย “Quick Big Win” เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้หนี้ เพิ่มสภาพคล่อง และฟื้นการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญอีกครั้ง

โดยส.อ.ท.แสดงแนวทางการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวจากอุตสาหกรรมดั้งเดิมจากรับจ้างผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ ไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งมีแนวทางขับเคลื่อนไปสู่ 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ S-Curve , New S-Curve, BCG และการไปสู่ Net Zero ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายที่เรากำลังขับเคลื่อนไป

ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมยังมีปัจจัยลบที่เผชิญอยู่ อาทิ มาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ,ปัญหาสินค้าทุ่มตลาด/สวมสิทธิ์ส่งออก ,ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ,ข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ,หนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจ ,ค่าเงินบาทแข็งค่า ,ผลกระทบจากปัญหาสภาพภูมิอากาศ ,ธุรกิจสีเทาและอาชญากรรมไซเบอร์ ตลอดจนปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งสังคมผู้สูงอายุ กับดักรายได้ปานกลาง ระบบการศึกษา การเมือง งบประมาณไม่สมดุล คอร์รัปชันและกฎหมายล้าสมัย


อย่างไรก็ดี แนวทางการขับเคลื่อนของภาคเอกชนผ่านนโยบาย 4 GO ได้แก่ 1.Go Digital & AI 2.Go Innovation 3.Go Global และ 4.Go Green ช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้และพัฒนาประเทศไทยให้เข้มแข็งกว่าเดิม โดยให้ความสำคัญกับการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม

เพื่อขับเคลื่อนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ภาคอุตสาหกรรมไทย นายเกรียงไกร กล่าวว่าเป้าหมายการพัฒนาประเทศใน 3 ด้าน ประกอบด้วย เป้าหมายที่ 1 เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย (Competitiveness) มีผลประเมินการจัดอันดับ IMD TOP 20 อันดับแรก (ปี 2025 ประเทศไทยยังอยู่อันดับที่ 30) เป้าหมายที่ 2 ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Driving GDP Growth) ให้ขยายตัวได้ในระดับ 5% และเป้าหมายที่ 3 การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 เร็วกว่าเดิม 15 ปี จากเป้าหมายเดิมคือปี 2065



นายเกรียงไกร กล่าวว่าจากการหาครั้งนี้ คาดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะนำแนวทางในการหารือไปวางแผนในการเลือกตั้งต่อไป ปัจจุบันต้องทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคการศึกษาหรือสถาบันต่างๆในการขับเคลื่อนรวมทั้งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะหากไม่เร่งแก้ไขการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคงทำได้ยาก


"วันนี้เป็นแค่เริ่มต้น ในอนาคตจะมีการทำงานกันอย่างใกล้ชิด และสิ่งที่ฝากไว้มีเรื่อง Zero คอรัปชั่น ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ของ กกร. โดยตรงกับที่หัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์วางไว้เรื่องการเมืองสุจริต" นายเกรียงไกร กล่าว


นายเกรียงไกร กล่าวถึงผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ว่า ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2568 ส.อ.ท.ได้เสนอแนวทางในการฟื้นฟูโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้กลับมาทำงานได้เร็วที่สุด ซึ่งมีการเสนอในมาตรการหลายส่วน มีทั้งภาคเอกชนช่วยเหลือกันและสิ่งที่ภาครัฐต้องมาสนับสนุนด้านเงินทุนเรื่องซอฟต์โลนต่างๆ รวมถึงเรื่องใบอนุญาต เช่น บางโรงงานติดข้อจำกัดการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรต้องขออนุญาตบีโอไอใช้เวลานาน จึงต้องมี Fast Track ในเรื่องเหล่านี้



ส่วนการประเมินความเสียหายเบื้องต้นทางธนาคารกสิกรไทยประเมินความเสียหายอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงงานที่ได้รับผลกระทบประมาณ 700 แห่ง โดยส.อ.ท.ได้ส่งทีมงานเข้าไปสำรวจว่ามีอะไรที่สามารช่วยได้ อาทิ การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ ระบบทั้งเครื่องกล-ใช้ไฟฟ้า และระบบทำความเย็นต่างๆ รวมถึงรถยนต์ ซึ่งมีการจัดแคมเปญเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยคาราวานสิ่งของไปช่วยเหลือยังชีพเบื้องต้นไปแล้ว

“อุทกภัยภาคใต้ขยายวงกว้างหลายจังหวัด ต่างจากน้ำท่วมที่เชียงราย คาดว่าความเสียหายน่าจะมากกว่า 25,000ล้านบาท ขณะนี้ส.อท.ได้ส่งทีมไปสำรวจและช่วยเหลือ โดยโรงงานที่ได้รับผลกระทบจะเป็นโรงงานแปรรูปอาหารและการเกษตรโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ยาง ฯลฯ”นายเกรียงไกรกล่าว


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมาโดยตลอดว่า กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวจริงคือ ภาคเอกชน และบทบาทของภาครัฐ คือ การสร้างกติกาสภาพแวดล้อมที่จะเอื้อให้ทางภาคเอกชนทำงานได้ดีที่สุด วันนี้ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ เทคโนโลยี และแนวโน้มใหม่ๆ รวมถึงปัญหาภายในประเทศที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการเมือง จำเป็นจะต้องหาแนวทางใหม่เพื่อจะทำให้เศรษฐกิจไทยหลุดพ้นจากกับดักหรือหล่มที่เผชิญอยู่

วันนี้ตนและผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้วางกรอบทิศทางไว้หลายประเด็น ตลอดจนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ โดยเฉพาะการเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจและอัตราการเจริญเติบโต ที่นับวันยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆ ที่จำเป็นต้องทำให้อัตราการเจริญเติบโตกลับไปโตที่ประมาณ 5 % เพราะหากตัวเลขยังเติบโตในระดับที่ 2 % แบบปัจจุบัน ไทยจะสุ่มเสี่ยงตามหลังประเทศในอาเซียน และจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องอื่นๆ ได้ เช่น สังคมสูงวัย การจัดสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น เราต้องแสวงหาเครื่องจักรตัวใหม่หรือกระบวนทัศน์ใหม่ในการที่จะขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และภาคบริการ ให้เกิดการผสมผสานในภาพรวม

นอกจากเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นโจทย์ใหญ่มี 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ การทุจริตคอร์รัปชั่น ที่เป็นความท้าทายและต้องยอมรับว่าเป็นตัวสร้างปัญหาปั่นป่วนและทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและบั่นทอนขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ต้องเริ่มต้นที่บ้านเมืองที่สุจริตอย่างเอาจริงเอาจัง และให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและอันตรายตรงนี้ และเรื่องที่สองที่ถือเป็นโจทย์ใหญ่ คือ การพัฒนาทักษะคน โดยเฉพาะระบบการศึกษาที่เรื้อรังและยืดเยื้อมานาน ที่จะไม่ใช่เรื่องการให้ความรู้อีกต่อไป แต่จะเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้และมีความยืดหยุ่น รวมถึงการมีหลักสูตรที่รับรองเป็นรายทักษะที่มากขึ้นอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น