"สโคปฯ" เผยความสำเร็จของโครงการแฟลกชิป สโคป หลังสวน ซึ่งสามารถทำยอดขายรวมแตะ 90% ภายในปีนี้ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงปี 2567–2568 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดระดับบน และความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อคุณภาพงานออกแบบและมาตรฐานการอยู่อาศัยของแบรนด์ สโคป
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จของ สโคป หลังสวน มาจากการผสานองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ทำเลถนนหลังสวนซึ่งเป็น Rare Location กรรมสิทธิ์การครอบครองที่ดินมีอยู่อย่างจำกัด, งานออกแบบระดับสากลร่วมกับ Thomas Juul-Hansen และ KPF, การเลือกสรรวัสดุ คุณภาพที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด รวมถึงแนวคิด Well-Being ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยทั้งด้านกาย ใจ และสังคม ในปี 2567 SCOPE Langsuan สร้างยอดขายรวมกว่า 1,600 ล้านบาท และยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2568
“แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯเผชิญการแข่งขันสูงและแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลายด้าน ยืนยันบทบาทของ สโคป หลังสวน ในฐานะโครงการเรือธงที่แข็งแกร่งที่สุดในพอร์ตของบริษัท จากดีมานด์ทั้งในและต่างประเทศที่ยังแข็งแรง และเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่านี้ สโคปจึงประกาศยืน“ราคาพิเศษปัจจุบัน” สำหรับ 10 ยูนิตสุดท้ายถึงสิ้นปี 2568 ก่อนจะปรับขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2569 โดยคาดว่าราคาขายเฉลี่ยใหม่ของโครงการจะอยู่ราว 650,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นราว 10% จากปัจจุบัน ”
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงบนทำเลหายากที่มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10 ยูนิตนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการสินทรัพย์คุณภาพที่จะอยู่อาศัยเอง หรือนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ ระดับพรีเมียมในย่านที่มีซัพพลายจำกัด และมีแนวโน้มเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ก่อนมีการปรับราคาขึ้นอย่างเป็นทางการในปีถัดไป
พร้อมกันนี้ สโคป ยังเปิดเผยทิศทางธุรกิจปี 2569 โดยเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาตรฐานสากลแห่งใหม่ในทำเลคุณภาพ พร้อมยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยผ่าน ACQUA ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการไลฟ์สไตล์ ผ่าน 4 บริการซิกเนเจอร์ ได้แก่ TasteCraft, Housekeeping Prestige, Wellness Sanctuary, และ Lifestyle Atelier ซึ่งออกแบบเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม UHNWI ในทุกมิติของการใช้ชีวิต
“เรามุ่งเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ สโคป ในฐานะผู้นำตลาด Ultra Luxury Residential อย่างแท้จริง ด้วยการพัฒนาโครงการที่ไม่เพียงโดดเด่นด้านดีไซน์ คุณภาพ แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยตามแนวคิด Well-Being อย่างลึกซึ้ง พร้อมจับโอกาสจากแนวโน้มเศรษฐกิจและสภาวะดอกเบี้ยที่มีทิศทางดีขึ้นในปีหน้า”


