xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดคริปโตเกาหลีใต้ระอุ! ส.ส.จี้ไบแนนซ์ ชดใช้เหยื่อเงิน GoFi ถูกอายัดกว่า 106 ล้านดอลลาร์ - มองเอี่ยว Prince Group

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ริชาร์ด เทง ซีอีโอ ไบแนนซ์ (ซ้าย)
เกาหลีใต้ไม่มีแผ่ว “ไบแนนซ์” ถูกกดดันรอบใหม่กลางสภาเกาหลีใต้ หลังเหตุเงินลงทุน GoFi ของแพลตฟอร์ม GOPAX ถูกอายัดตั้งแต่ปี 2565 กว่า 106 ล้านดอลลาร์ ส.ส.โสมขาวเรียกร้องให้บริษัทรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย พร้อมขุดคดีเก่าพัวพันกลุ่มทุนกัมพูชา “Prince Group” ใช้เป็นเส้นทางฟอกเงิน 

เงินผู้ลงทุนยังคงถูกอายัด หลัง FTX ล่มพา “GoFi” จมหาย 150,000 ล้านวอน


ความกดดันต่อไบแนนซ์ ยักษ์ใหญ่คริปโตโลกปะทุขึ้นอีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อ ส.ส.มิน บยองดุก จากพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ออกโรงจี้คณะกรรมการบริการทางการเงิน (FSC) ให้ตรวจสอบว่าไบแนนซ์ จะรับผิดชอบต่อเหยื่อการลงทุนผ่านโปรแกรม GoFi ของแพลตฟอร์ม GOPAX หรือไม่ หลังเงินทุนรวมกว่า 150,000 ล้านวอน (106 ล้านดอลลาร์) ยังถูกอายุดไว้นับตั้งแต่การล่มสลายของ FTX เมื่อปี 2565

โครงการ GoFi ของ GOPAX เป็นผลิตภัณฑ์ฝากคริปโตที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่เมื่อ FTX ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ด้านสภาพคล่องล้มครืน เงินของผู้ใช้ราว 3,000 รายจึงติดอยู่ในบัญชีโดยไม่สามารถถอนออกได้มาจนถึงปัจจุบัน

มินระบุว่า “การชดเชยผู้เสียหายควรเป็นเงื่อนไขสำคัญของดีลเทกโอเวอร์ GOPAX โดย ไบแนนซ์” แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีแผนชำระเงินคืนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเหน็บว่า “นี่คือการควบรวมที่ไร้ทุนรองรับ” พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับเข้มตรวจสอบความรับผิดชอบของไบแนนซ์อย่างจริงจัง

ข้อตกลงเทกโอเวอร์ที่ล่าช้า "กังขา Binance ผ่านด่านกำกับได้อย่างไร?"

ดีลเทกโอเวอร์ GOPAX ของไบแนนซ์ซึ่งประกาศตั้งแต่ปี 2566 เคยถูกชะลอโดยหน่วยข่าวกรองการเงินเกาหลี (KoFIU) เนื่องจากความกังวลเรื่องการละเมิดกฎต่อต้านฟอกเงิน (AML) ในสหรัฐฯ แต่เมื่อเดือนนี้ ดีลกลับได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว หลังไบแนนซ์รายงานว่าได้ “แก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามกฎหมาย” กับหน่วยงานอเมริกันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านตั้งคำถามถึง “จังหวะเวลา” ของการอนุมัติ โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นเพียง 4 เดือนหลังรัฐบาลใหม่เข้ารับตำแหน่ง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์ว่าอาจมีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง บางรายถึงขั้นชี้ว่า “ผู้บริหารระดับสูงของ GOPAX มีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของประธานาธิบดี "อี แจ มยอง” ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้หน่วยงานกำกับต้องแสดงความโปร่งใส

ส.ส.ฝ่ายค้านขุดลึก “Binance - Prince Group” ปมโยงฟอกเงินและค้ามนุษย์กัมพูชา

ประเด็นร้อนยังไม่จบ เมื่อ ส.ส.คิม แจซอบ จากพรรคพลังประชาชน (People Power Party) ออกมาเปิดเผยในที่ประชุมว่าไบแนนซ์ อาจมีความเชื่อมโยงทางธุรกิจกับ Prince Group กลุ่มทุนยักษ์กัมพูชาที่ถูกทางการสหรัฐฯ กล่าวหาว่าพัวพันการฟอกเงินและค้ามนุษย์ พร้อมอ้างอิงรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ว่าพบการใช้แพลตฟอร์มไบแนนซ์ในการเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมายของกลุ่มดังกล่าว

นอกจากนี้คิมยังย้ำถึงบทลงโทษครั้งใหญ่ต่อ ฉางเผิง จ้าว (CZ) ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์ที่ถูกปรับกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ และถูกห้ามทำธุรกิจในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของ ไบแนนซ์ในการขยายอิทธิพลในเอเชีย

ขณะที่ ส.ส.คัง มินกุก ยังเรียกร้องให้ตรวจสอบ 5 ธนาคารเกาหลีที่ถูกกล่าวหาว่ามีธุรกรรมโอนเงินต่างประเทศกว่า 3.96 พันล้านวอน ที่อาจเกี่ยวข้องกับ Prince Group ขณะที่ประธาน FSC อี ออกวอน ยืนยันว่ากำลังประสานงานกับกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศเพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงดังกล่าว

ภาครัฐเข้มคุมสินเชื่อดิจิทัล-เปิดทางสู่ระบบการเงินใหม่

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับการเงินของเกาหลีใต้ได้ออกมาตรการห้ามแพลตฟอร์มคริปโตในประเทศให้บริการสินเชื่อดิจิทัลทั้งหมดชั่วคราว เพื่อจัดระเบียบความเสี่ยงในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนเตรียมประกาศกรอบกำกับดูแลฉบับใหม่

อย่างไรก็ดีท่าทีของรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ได้ปิดกั้นวงการคริปโตทั้งหมดกลับกัน กำลังวางรากฐานสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจ ด้วยการเตรียมเปิดให้สถาบันการเงินลงทุนในคริปโต และออก ETF สินทรัพย์ดิจิทัลตัวแรกในประเทศ รวมถึงการผลักดัน “สเตเบิลคอยน์สัญชาติเกาหลี” ที่อิงค่าเงินวอน เพื่อเสริมสภาพคล่องและลดความผันผวนในตลาด

“Binance” กับบททดสอบศรัทธาในตลาดเกาหลีใต้

กรณี GoFi ของ GOPAX กลายเป็นบททดสอบความน่าเชื่อถือครั้งใหญ่ของไบแนนซ์ในตลาดเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดคริปโตที่มีความเข้มงวดสูงและมีมูลค่าการซื้อขายติดอันดับโลก นักลงทุนต่างจับตาว่าไบแนนซ์จะดำเนินการอย่างไรในการชดเชยผู้เสียหายและกอบกู้ภาพลักษณ์ของตนในภูมิภาคเอเชีย

ซึ่งหากไบแนนซ์ไม่สามารถแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม อาจเผชิญแรงต้านทั้งจากผู้กำกับดูแลและสังคมเกาหลีใต้ที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและธรรมาภิบาลสูง ขณะเดียวกัน การเมืองภายในที่เข้มข้นอาจทำให้กรณีนี้กลายเป็น “เกมเชิงอำนาจ” ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่ใช้ไบแนนซ์เป็นเครื่องมือกดดันเชิงนโยบายต่อเศรษฐกิจดิจิทัล

สุดท้าย ศึกครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงการต่อสู้เรื่องความรับผิดชอบทางการเงินของไบแนนซ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ จากประเทศที่เคยระแวงคริปโต สู่เวทีที่กำลังสร้างสมดุลระหว่าง “นวัตกรรม-การกำกับดูแล” เพื่อก้าวสู่อนาคตเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน.