ประธานเฟด เผยคณะกรรมการ FOMC ยังมีความเห็นแตกต่างกันต่อทิศทางดอกเบี้ยในปี 2568 หลังเพิ่งประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% ลงสู่กรอบ 4.00–4.25% โดยสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ผิดปกติ ตลาดแรงงานอ่อนแรง แต่เงินเฟ้อยังทรงตัวสูง ขณะเดียวกันนักลงทุนคริปโตเก็งกำไรว่า ดอกเบี้ยขาลงอาจกลายเป็นเชื้อเพลิงใหม่ให้สินทรัพย์เสี่ยงทะยาน
FOMC เสียงแตกหลังลดดอกเบี้ยครั้งแรกปี 2568
พาวเวลแถลงหลังการประชุมเฟดเมื่อวันพุธว่า คณะกรรมการ FOMC ทั้ง 19 คน มี 10 คนเห็นควรลดดอกเบี้ยเพิ่มอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่อีก 9 คนประเมินว่าอาจลดน้อยกว่านั้น หรือบางรายไม่เห็นสมควรลดเพิ่มเลย
ขณะที่การคาดการณ์จาก Summary of Economic Projections (SEP) ชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 2568 จะอยู่ที่ 3.6% ก่อนทยอยลดลงเหลือ 3.4% ในปี 2569 และ 3.1% ในปี 2570 แต่พาวเวลย้ำว่าตัวเลขดังกล่าวคือ “ฉากทัศน์ความน่าจะเป็น” ไม่ใช่ข้อสรุปตายตัว
ดอกเบี้ยลด ดีต่อตลาดการเงินจริงหรือ
การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นครั้งแรกของปี 2568 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.00–4.25% ขณะที่ตลาดยังจับตาความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพราะการลดดอกเบี้ยมักเป็นตัวหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือคริปโตเคอร์เรนซี
แม็ท เมนา นักกลยุทธ์วิจัยคริปโตจาก 21Shares มองว่า การลดดอกเบี้ยจะดึงเงินกว่า 7.2–7.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่จอดนิ่งในกองทุนตลาดเงิน (Money Market Funds) กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก โดยเฉพาะคริปโต
คริปโตรอวันฟื้นตัวสู่ตลาดกระทิง
เมนาเชื่อว่าบิทคอยน์จะได้แรงหนุนเข้าสู่การปรับขึ้นในไตรมาส 4 โดยมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่เกิน 124,000 ดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลจาก Polymarket แพลตฟอร์มพยากรณ์ราคาชี้ว่า 62% ของนักลงทุนเชื่อ BTC จะแตะ 130,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568
ความไม่แน่นอนยังกดดันตลาดต่อเนื่อง
การที่เฟดยังไร้ฉันทามติเรื่องดอกเบี้ยตอกย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะซับซ้อน ตลาดแรงงานอ่อนแรงแต่เงินเฟ้อยังสูง เฟดจึงต้องเลือกเดินบนเส้นบางระหว่าง “การพยุงการจ้างงาน” และ “การคุมเงินเฟ้อ”
สำหรับตลาดคริปโต ความไม่ชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยคือโอกาส เมื่อการเงินตึงตัวเริ่มผ่อนคลาย เงินทุนอาจไหลกลับสู่สินทรัพย์เสี่ยง และหากบิทคอยน์สามารถยืนได้เหนือสถิติเดิม ปี 2568 อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของระบบการเงินดิจิทัลทั่วโลก