Galaxy Digital ยืนยันการทำธุรกรรมบิทคอยน์ครั้งประวัติศาสตร์จากนักลงทุนยุคแรกจำนวน 80,000 BTC หรือราว 9 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโต โดยระบุเป็นส่วนหนึ่งของแผนวางทรัพย์สินขนาดใหญ่ แม้ราคาจะร่วงชั่วคราว แต่ตลาดกลับ "ดูดซับ" เหรียญทั้งหมดไว้ได้อย่างเหนือความคาดหมาย สะท้อนสภาพคล่องที่ยังทรงพลังของตลาดบิทคอยน์
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีร้อนแรงอีกครั้งหลัง Galaxy Digital บริษัทการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ออกแถลงข่าวผ่าน PR Newswire เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยันการทำธุรกรรม บิทคอยน์จำนวนมหาศาลถึง 80,000 BTC หรือคิดเป็นมูลค่าราว 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่เปิดเผยวัน เวลา หรือราคาที่แน่นอนของการขาย
ธุรกรรมขนาดยักษ์ครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่มาจาก "นักลงทุนยุคแรก" หรือ Early Bitcoin Holder ซึ่งวงการเรียกกันว่าเป็นกลุ่มในยุค Satoshi หมายถึงผู้ที่สะสมบิทคอยน์ไว้ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่เป็นที่นิยม ก่อนที่ราคาจะทะยานสู่ระดับแสนดอลลาร์ในปัจจุบัน
แม้ชื่อของผู้ขายจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ Galaxy ระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "แผนวางโครงสร้างมรดกและการจัดการทรัพย์สินระยะยาว" ซึ่งสะท้อนความเปลี่ยนผ่านของบิทคอยน์จากเครื่องมือการเก็งกำไร ไปสู่สินทรัพย์ที่ใช้ในแผนบริหารความมั่งคั่งอย่างเป็นระบบมากขึ้น
การขาย BTC ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงตลาดมีความผันผวน โดยราคาบิทคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 115,000 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ ก่อนจะดีดกลับอย่างรวดเร็ว โดยราคาล่าสุดตามรายงานของ Cointelegraph อยู่ที่ราว 117,300 ดอลลาร์
ข้อมูลจาก Lookonchain แพลตฟอร์มติดตามธุรกรรมคริปโตแบบเรียลไทม์ ระบุว่า BTC จำนวนนี้มาจากกระเป๋าเงินที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานาน ก่อนจะถูกโอนไปยัง Galaxy Digital ระหว่างวันที่ 16–17 กรกฎาคม และภายหลังถูกขายเข้าสู่ตลาดแบบ Over-the-Counter (OTC) หรืออาจกระจายผ่านการแลกเปลี่ยนโดยตรง
เจสัน วิลเลี่ยม นักวิเคราะห์ผู้เขียนหนังสือ *Bitcoin Hard Money* ระบุว่า เหรียญทั้งหมดถูกตลาด "ดูดซับอย่างสมบูรณ์" แทบไม่มีแรงกระแทกต่อตลาด ซึ่งสะท้อนถึงฐานผู้ซื้อที่แข็งแกร่งและความลึกของตลาดที่สูงกว่าที่เคยมีมา
ขณะที่ โจ คอร์นซอร์เต้ หัวหน้าฝ่ายการเติบโตของ Theya บริษัทด้านการเก็บรักษาบิทคอยน์เสริมว่า “การที่ BTC มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ถูกเทขายในตลาดเปิดโดยที่ราคาขยับลงเพียงเล็กน้อยนั้น นับเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่ง ตลาดบิทคอยน์ในตอนนี้ไม่ได้เปราะบางอย่างที่หลายฝ่ายกังวล”
อย่างไรก็ดีราคาบิทคอยน์ในปีนี้พุ่งแรงต่อเนื่อง โดยแตะระดับสูงสุดใหม่ที่กว่า 123,000 ดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้ โดยได้แรงหนุนจากการไหลเข้าของเม็ดเงินสถาบัน การเติบโตของพันธบัตรคริปโต และการผ่อนคลายท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ ที่เริ่มเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก
อย่างไรก็ตามกรณีการเคลื่อนไหวของ BTC จำนวนมหาศาลโดยนักลงทุนยุค Satoshi ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ควรจับตา เพราะนอกจากจะเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งของตลาดแล้ว ยังเป็นสัญญาณสะท้อนถึงวิวัฒนาการของบิทคอยน์ จาก "เหรียญแห่งอนาคต" สู่การเป็น "สินทรัพย์จริงในโลกการเงินปัจจุบัน" อย่างเต็มตัว
ที่สำคัญ การดูดซับแรงขายมหาศาลโดยไม่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคา คือเครื่องชี้วัดความลึกของตลาด (Market Depth) และความมั่นคงของอุปสงค์ระยะยาวที่บิทคอยน์กำลังได้รับจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั่วโลก
สำหรับผู้เล่นรายย่อย การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ควรได้รับการตีความในเชิงบวก เพราะเป็นการยืนยันถึงศักยภาพระยะยาวของ BTC ที่เริ่มมีบทบาทในโลกของการวางแผนทรัพย์สินและมรดกของกลุ่ม Ultra High Net Worth ซึ่งอาจกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการจัดการความมั่งคั่งในโลกอนาคต
