ตามการวิจัยของ 10x พบว่าการที่บิทคอยน์อาจร่วงลงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับกระแสการซื้อที่ลดลงและกระแสการขายที่เร่งตัวขึ้น
จากการเปิดเผยของ cointelegraph ระบุถึงผู้เชี่ยวชาญจาก 10x Research ที่ออกมาเปิดเผยว่า ราคาบิทคอยน์อาจลดลงจาก 60,000 ดอลลาร์มาอยู่ที่ต่ำกว่า 57,000 ดอลลาร์ในวันที่ 4 กรกฎาคม โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการลดลงอย่างรวดเร็วนี้อาจเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น โดยอาจลดลงต่อเนื่องไปถึง 50,000 ดอลลาร์
การทะลุเกณฑ์ทางจิตวิทยาที่ 60,000 เหรียญไปสู่ 50,000 เหรียญ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความรู้สึกของตลาด โดย 10x Research ระบุว่าเป็นผลจากกระแสการซื้อที่หยุดชะงักอย่างเฉียบพลัน "ขณะที่กระแสการขายกำลังเร่งตัวอย่างรวดเร็วขึ้น"
มาร์คัส ทีเลน นักวิเคราะห์จาก 10x Research ให้ความเห็นว่าแนวโน้มขาลงนั้นเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ โดยระบุว่า “ข้อมูลของเราตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนชี้ให้เห็นแล้วว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไปและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง”
ผลกระทบต่อนักลงทุนหลังจากที่บิทคอยน์ ลดลงมากว่า 54,167 ดอลล่าร์ต่อเหรียญบิทคอยน์ ซึ่งการปรับตัวลดลงอย่างกระทันหัน -5.44% ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนและสภาพคล่องในตลาดอย่างมาก สะท้อนให้เห็นได้จากมูลค่าตลาดของบิทคอยน์ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น 57%
จากเหตุการณ์ “ระดับสำคัญสำหรับนักขุดบิทคอยน์ และผู้ซื้อ ETF Bitcoin” โดย 10x Research คาดการณ์ว่าราคาจะลดลง “เนื่องจากแนวรับถูกทำลายและผู้ขายต้องดิ้นรนเพื่อหาสภาพคล่อง”
การเทขายดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมๆ กับที่ Mt.Gox จะเริ่มทยอยชำระคืนบิทคอยน์ มูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกำหนดจะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ตามรายงาน 10x Research ระบุว่า หลังจากทำลายแนวรับ 60,000 ดอลลาร์แล้ว "มีเพียงผู้ค้าที่ไม่มีข้อมูลเพียงพอเท่านั้นที่เต็มใจจะซื้อ ณ ช่วงเวลานี้"
คาดการณ์ราคาบิทคอยน์ ในช่วงเวลาแห่งความผันผวน
รายงานของ 10x Research แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังสำหรับความผันผวนของบิทคอยน์โดยแนะนำให้ผู้ซื้อขาย ให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนที่อาจเข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง
“เราเตือนแล้วว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะนิ่งนอนใจ แต่ผู้ถือบิทคอยน์สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว"
ตามการวิเคราะห์ล่าสุดจาก IT Tech พบว่าแนวโน้มขาลงนี้ เป็นผลมาจากผู้ถือระยะยาวที่แสวงหากำไรเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม อัตราส่วนกำไรจากผลผลิตที่ใช้ไป (SOPR) จากผู้ถือในระยะยาวเกินมูลค่า 10 ซึ่งบ่งชี้ว่าบิทคอยน์ถูกขายไปในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อ เริ่มต้นอย่างน้อย 10 เท่า
ตามการวิเคราะห์ผู้ถือบิทคอยน์ในระยะยาว ซึ่งปกติแล้วจะถือครองไว้ประมาณ 5 ถึง 7 ปี มีส่วนทำให้เกิดแรงขายในตลาด
