หลังจากที่ราคาบิทคอยน์อยู่เหนือระดับ 60,000 ดอลลาร์มาเป็นระยะเวลานาน ล่าสุดราคา บิทคอยน์ ก็ตกลงมาต่ำกว่า 58,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการลดลงมากกว่า -3.8% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การลดลงครั้งนี้ดึงดูดความสนใจจากนักวิเคราะห์และนักลงทุนจำนวนมาก และจะเกิดอะไรขึ้น หากต่อไปสถานการณ์ปัจจุบันการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลปรับตัวในทิศทางขาลงและสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับบิทคอยน์เมื่อราคาซื้อขายลดลงต่ำกว่า 50000 เหรียญสหรัฐ
ไดนามิกของราคาบิทคอยน์ในปัจจุบัน
ราคาบิทคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า 58,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน การร่วงลงครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความผันผวนที่ต่ำผิดปกติ โดยราคา BTC ก่อนหน้านี้ผันผวนอยู่ระหว่าง 60,000 ถึง 70,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกลัวและอุปทานที่เพิ่มขึ้นในตลาดคริปโต ทำให้มีการคาดการณ์ว่าราคาจะตกต่ำมากขึ้น เมื่อยืนอยู่ที่เส้น EMA 200 วัน โอกาสที่ราคาจะร่วงลงนั้นสูงกว่าการกลับตัวอย่างมาก เนื่องจากปริมาณการซื้อขายพุ่งขึ้น 55% ใน 24 ชั่วโมง
แม้ว่าราคาจะร่วงลงเมื่อเร็วๆ นี้การวิเคราะห์ ของ Glassnode แสดงให้เห็นว่าช่วงที่ความผันผวนต่ำ มักจะตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยหลักเบื้องหลังการลดราคาล่าสุด
Wise Advice นักวิเคราะห์ด้านคริปโตได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่เป็นไปได้เบื้องหลังการร่วงลงของ BTC
การโอนคืนเหรียญโทเค็นให้นักลงทุนของ Mt.Gox
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ลดลงคือการที่ตลาดแลกเปลี่ยน Mt. Gox ซึ่งปิดตัวไปแล้วจะโอนเหรียญบิทคอยน์มูลค่าเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ กลับคืนให้นักลงทุนหลังจากที่ถูกอายัดไว้กว่า 10 ปี โดยในเดือนกรกฎาคมนี้จะมีบิทคอยน์ประมาณ 140,000 เหรียญที่ถูกอายัดไว้ในช่วงระหว่างการพิจารณาคดี จะมีการเตรียมโอนกลับคืนให้กับนักลงทุนหรือเจ้าหนี้ จึงมีความกลัวว่าเจ้าหนี้เหล่านี้อาจขาย BTC จำนวนมากที่ตนถือครองออกไป เนื่องจากราคาของบิทคอยน์อยู่ที่ประมาณ 600 ดอลลาร์เมื่อตลาด Mt. Gox ล่มสลาย เจ้าหนี้เหล่านี้จึงมีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้มาก ซึ่งการเทขายออกมาจำนวนมาก อาจกดดันตลาดคริปโตได้
นักขุดกำลังเทขายบิทคอยน์
ปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ นักขุดบิทคอยน์เริ่มขายสินทรัพย์คริปโตของตนออกไปแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา พวกเขาได้ขายบิทคอยน์มูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ออกไปบนกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งแรงกดดันในการขายนี้เกิดขึ้นเนื่องจากรายได้ของนักขุดรายวันลดลงจาก 79 ล้านดอลลาร์เหลือเพียง 29 ล้านดอลลาร์เนื่องมาจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving เพื่อรักษาการดำเนินงาน นักขุดจึงต้องขายสินทรัพย์ของตนออกไป
การชำระบัญชีที่เพิ่มขึ้น
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการขายสถานะซื้อมูลค่าประมาณ 231.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ร่วงลงอย่างหนัก และเกิดวงจรป้อนกลับของราคาที่ลดลง และการชำระบัญชีที่เพิ่มขึ้น
โอกาสซื้อตอนราคาตก?
ด้วยอุปทานที่เพิ่มขึ้นการซื้อขายแบบขายทอดตลาดระยะยาวจึงเพิ่มขึ้น แนวโน้มขาลงจะส่งผลให้ราคาลดลงต่ำกว่าระดับ 56,000 ดอลลาร์เพื่อทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 50,000 ดอลลาร์หรือไม่ ผู้ให้บริการข้อมูลบนเครือข่าย Santiment สังเกตเห็นการเทขายอย่างหนักในทั้งบิทคอยน์ และ altcoins โดยราคาตกลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสองเดือน แม้ว่าจะมีการคาดว่าจะมี ETF Ethereum แบบสปอตภายในวันที่ 15 กรกฎาคม แต่ราคา Ethereum ก็ลดลงต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์เช่นกัน และตัวกระแส Ethereum เองก็ไม่ทรงพลังมากพอที่จะแบกตลาดคริปโตทั้งโลกนี้ได้
ทั้งนี้ Santiment ชี้ให้เห็นว่าสภาพตลาดในปัจจุบันอาจเป็นโอกาสซื้อเมื่อราคาตกลง อย่างไรก็ดีนักลงทุนควรรอดูท่าทีของตลาดก่อนในช่วงแรก หรือช่วงฝุ่นตลบให้จางหายไปก่อน