สัปดาห์แรกของมาตรการ UPTICK RULE หรือกฎที่กำหนดให้ขาย SHORT SELL หรือการยืมหุ้นมาขายในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย พร้อมมาตรการควบคุมโปรแกรมการซื้อขายหรือ ROBOT TRADE มีผลบังคับใช้มา 1 สัปดาห์แล้ว และนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีของตลาดหุ้นในหลายด้าน
บรรยากาศการลงทุนที่ซบเซายืดเยื้อ กลับสู่ความคึกคักขึ้นอีกครั้ง ดัชนีหุ้นดีดตัวกลับ บวกติดต่อ 4 วันทำการ จนยืนเหนือระดับ 1,300 จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซึ่งเทขายหุ้นมาตลอด เริ่มกลับมาซื้อหุ้นคืน
มาตรการฟื้นฟูตลาดหุ้น เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำลังเห็นผล
ยาที่ฉีดกระตุ้นตลาดหุ้นกำลังออกฤทธิ์ สร้างความหวังใหม่ให้นักลงทุนที่กำลังจะสิ้นหวัง
นักลงทุนต่างชาติที่ถล่มตลาดหุ้นจนทรุดหนักลงกว่า 100 จุด นับจากต้นปี โดยปักหลักขายหุ้นไม่เลิก ทยอยกลับมาซื้อหุ้นแล้ว
รายการ SHORT SELL ซึ่งเดือนมิถุนายนมีสัดส่วนเฉลี่ย 12.88% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ลดฮวบลงมาเหลือเพียง 3-5% ของมูลค่าการซื้อขายรวมเท่านั้น
เช่นเดียวกับสัดส่วนของ ROBOT TRADE ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา มูลค่าซื้อขายเหลือเพียง 35.13% ของมูลค่าซื้อขายรวม
การเล่นหุ้นขาลงโดยการขายทุบราคา ไม่ว่าการขาย SHORT หรือการทำ NAKED SHORT คือการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์อาจตรวจสอบไม่พบ และเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้ดัชนีหุ้นปักหัวลงกำลังปิดฉากลง
สถานการณ์ตลาดหุ้นกระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจนในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้มูลค่าการซื้อขายจะลดต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทก็ตาม แต่มูลค่าซื้อขายที่หดตัวลง เกิดจากการซื้อขายที่ไม่พึงปรารถนาของการขาย SHORT และ ROBOT
แม้ตลาดหุ้นไทยจะมีมาตรการคุม SHORT SELL ที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังไม่เข้มงวดเท่าตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซึ่งห้าม SHORT SELL มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2566 โดยจะใช้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่เมื่อได้ผลดี กระตุ้นให้หุ้นฟื้นตัวขึ้น จึงประกาศขยายเวลาห้ามขาย SHORT ไปจนถึงเดือนมีนาคมปี 2568
และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และฟิวเจอร์ส หรือ FSC ของเกาหลีใต้ ประกาศลงโทษปรับบริษัทในเครือเครดิต สวิส วงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จำนวน 2.7 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 713 ล้านบาท ในความผิดทำ SHORT SELL ผิดกฎหมาย
ก่อนหน้าเกาหลีใต้ได้ลงโทษปรับแบงก์ต่างชาติแล้วหลายราย ในความผิด SHORT SELL ไม่ว่าจะเป็น HSBC BNP PARIBAS รวมเป็นเวินประมาณ 700 ล้านบาท
ผู้บริหาร ก.ล.ต.และผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ของไทย น่าจะศึกษาระบบตรวจสอบ SHORT SELL ของเกาหลีใต้ เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการควบคุมธุรกรรมการซื้อขายหุ้นที่ผิดกฎหมายของนักลงทุนต่างชาติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ป้องกันการทุบขายเพื่อทำกำไรหุ้นขาลง ซึ่งดำเนินมาหลายปี จนตลาดหุ้นแทบจะพังทลาย
อย่างไรก็ตาม แม้ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ของไทยจะไม่กล้าหาญ เด็ดขาดเหมือนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ไม่ยอมเลิก SHORT SELL แต่มาตรการชุดใหญ่คุม SHORT SELL คุม ROBOT TRADE ก็กำลังออกฤทธิ์ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก
เพียงสัปดาห์แรก กิจกรรมการซื้อขายที่เป็นตัวกดราคาหุ้นลดลงอย่างชัดเจน ทั้งการขาย SHORT และ ROBOT TRADE
ความหวังของนักลงทุนถูกปลุกให้ลุกโชนขึ้นแล้ว พร้อมสถานการณ์ตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มพลิกตัวกลับสู่ขาขึ้น และเป้าหมายการพุ่งทะลุ 1,350 จุดอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น
