xs
xsm
sm
md
lg

มาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่น...ปลุกหุ้นไม่ฟื้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นคืนสู่ความคึกคักมา 2 วันแล้ว ดัชนีหุ้นดีดกลับขึ้นมาเกือบ 20 จุด จนทะลุขึ้นมายืนที่ระดับ 1,316 จุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะมีความคาดหวังมาตรการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จะร่วมกันผลักดันออกมา

การแถลงถึงมาตรการเรียกความเชื่อมั่นของ 3 หน่วยงาน ไม่มีอะไรที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ไม่มีการฟื้นกองทุนหุ้นระยะยาวหรือ LTF กลับขึ้นมาใหม่ ไม่มีการยกเลิกการทำรายการยืมหุ้นมาขาย หรือ SHORT SELL การซื้อขายด้วยโปรแกรม หรือ ROBOT TRADE ยังดำรงอยู่ต่อไป ส่วนการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ หรือ NAKED SHORT จะแก้กฎหมาย เพิ่มบทลงโทษทั้งทางแพ่งและความผิดทางอาญา

มาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นโดยรวมที่ 3 หน่วยงานนัดแถลงข่าวใหญ่ ไม่ใช่ยาแรงที่จะปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้นในทันที ไม่มีมาตรใดที่จะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นว่าบรรยากาศการลงทุนจะกลับสู่ความสดใส และหยุดยั้งการเทขายของนักลงทุนต่างชาติได้

มาตรการที่เด่นๆ คือ การขยายสิทธิประโยชน์การลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ THAIESG โดยจะเพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีจากปีละไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นไม่เกิน 3 แสนบาท และลดระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุนจาก 8 ปีเหลือ 5 ปี และคาดว่าจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุนประมาณปีละ 30,000 ล้านบาท

ส่วนปัญหาที่คาใจนักลงทุน เกี่ยวกับการ SHORT SELL ROBOT TRADE และ NAKED SHORT ไม่มีอะไรนอกเหนือจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยแถลงไว้แล้ว โดยจะเพิ่มมาตรการกำกับ ดูแล ควบคุมและตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น ป้องการการเอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป มีบทลงโทษผู้กระทำผิดที่หนักขึ้น

SHORT SELL ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าเป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำให้หุ้นตกจนโงหัวไม่ขึ้น และมีเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันจะไม่ยกเลิก เพราะการยกเลิกจะส่งผลเสียระยะยาว และขัดกับหลักสากล โดย SHORT SELL เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ

แต่ทำไมตลาดหุ้นเกาหลีใต้จึงไม่กังวลกับการยกเลิก SHORT SELL ไม่กลัวการถูกตีตราว่าไม่เป็นสากล ไม่สนใจว่าฝรั่งจะลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้หรือไม่ แตกต่างจากตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ยืนกรานหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมเลิก SHORT SELL แม้หุ้นจะลงเข้าวินาศ นักลงทุนในประเทศขาดทุนกันป่นปี้ก็ตาม

มาตรการเรียกความเชื่อมั่นโดยรวมอาจทำให้นักลงทุนในประเทศเกิดความหวังว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นน่าจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แม้จะเป็นมาตรการที่ยังไม่โดนใจเสียทีเดียวก็ตาม

ดัชนีหุ้นที่ดีดกลับไปเกือบ 20 จุด รอรับข่าวดีล่วงหน้า มีคำถามว่า ซึมซับรับข่าวดีไปหมดหรือยัง จะมีโอกาสเดินหน้าได้ต่อ หรือหยุดเพียงเท่านี้

ต้นเหตุใหญ่ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยทรุดลงหนัก สร้างจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี เกิดจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจกังวลกับปัจจัยภายในประเทศ ทั้งสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และแนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ชะลอตัวลง

ปี 2566 ต่างชาติเทขายหุ้น 1.92 แสนล้านบาท ปี 2567 ยังไม่เลิกขาย โดยยอดขายหุ้นสุทธิสะสมจนสิ้นสุดวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 109,349 ล้านบาท และไม่มีแนวโน้มจะหยุดถล่มขาย และนำเงินกลับเข้ามาลงทุนใหม่

มาตรการของ 3 หน่วยงานจะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติได้หรือไม่ จะทำให้ต่างชาติหยุดขาย และกลับมาซื้อหุ้นได้หรือไม่

เพราะถ้าต่างชาติยังปักหลักขายหุ้นคงไปต่อลำบาก และอาจต้องย่ำอยู่แถว 1,300 จุดต่อไป จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ที่เปลี่ยนทัศนะมุมมองของนักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย

มองว่าตลาดหุ้นไทยมีอนาคตสดใส และกลับมาซื้อหุ้นคืนรอบใหม่

กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์หมายมั่นปั้นมือ หวังว่า มาตรการปลุกความเชื่อมั่นจะพลิกฟื้นตลาดหุ้นที่กำลังซบเซาสุดขีดได้

ดัชนีหุ้นในระยะสั้นจะเป็นตัวชี้วัดว่า มาตรการเรียกความเชื่อมั่นครั้งนี้จะประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมาย หรือล้มเหลวไม่เป็นท่า








กำลังโหลดความคิดเห็น