xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์...ฐาน ROBOT โจมตีหุ้นไทยจนพินาศ (จบ) / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาตรการกำกับที่เข้มข้น และคุยโวกันว่า สามารถกำราบและกำจัดธุรกรรมการซื้อขายที่ไม่พึงประสงค์ของ ROBOT TRADING SHORT SELL และ NAKED SHORT จนอยู่หมัดนั้น โบรกเกอร์ทั้ง 38 แห่งรู้ดีว่าเป็นเพียงเรื่องที่แหกตาสาธารณชน

เพราะ ROBOT ยังคงส่งคำสั่งซื้อขายที่สกปรกการ SHORT SELL ที่ไม่เหมาะสม เลี่ยงกฎยังดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับ NAKED SHORT ซึ่งยังมีอยู่

เพียงแต่ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ไม่มีวันตรวจสอบพบเท่านั้น

ในโบรกเกอร์ท็อปไฟว์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด เปิดประตูต้อนรับลูกค้าต่างประเทศที่ใช้ ROBOT ด้วยความยินดี พร้อมให้บริการทุกระดับให้ลูกค้า ซึ่งมีฐานที่มั่นใหญ่ในสิงคโปร์ โดยเป็นนักลงทุนสถาบัน

ทั้งที่เป็นนักลงทุนรายบุคคล แต่ระดมเงินจากกลุ่มเพื่อนวงเงินระดับร้อยล้านบาท ตั้งเป็นกองทุนขึ้นมา

นักลงทุนกลุ่มนี้สั่งซื้อขายหุ้นได้วันละหลายพันล้านบาท สามารถชี้นำการขึ้นลงของหุ้นรายตัว และถึงขั้นชี้นำทิศทางตลาดหุ้นได้ ทั้งที่พอร์ตมีวงเงินประมาณ 100 ล้านบาทเท่านั้น

ROBOT เป็นอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อเข่นฆ่านักลงทุนทุกคน โดยจะซื้อขายในรูปแบบเดย์เทรด หรือซื้อขายรายวัน และตัดบัญชีทุกวัน

นอกจากได้เปรียบเรื่องความรวดเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย ได้เปรียบในเรื่องต้นทุนค่านายหน้าแล้ว ROBOT ยังเล่นนอกกติกา โดยได้รับการอำนวยความสะดวกจากโบรกเกอร์ไทย

การ SHORT SELL หรือยืมหุ้นมาขาย ROBOT ทำได้แทบจะไร้ขีดจำกัด โดยโบรกเกอร์ยักษ์ 1 ในท็อปไฟว์ มีหุ้นในพอร์ตจำนวนมาก พร้อมให้ยืมทุกเมื่อ เพียงแต่เป็นวิธีการยืมหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรอนุญาต

ลูกค้าที่ใช้ ROBOT ไม่ได้ยืมหุ้นแล้วโอนหุ้นเข้าบัญชีเพื่อรอการขาย SHORT SELL เพียงแต่แจ้งไปที่โบรกเกอร์ว่า จะขอยืมหุ้นจำนวนหนึ่ง เช่นขอยืมหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จำนวน 1 แสนหุ้น แต่จองไว้ก่อน หรือทำ LOCATE ไว้เท่านั้น

โบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่บางแห่งอาจมีหุ้น PTT จำนวน 1 แสนหุ้นที่สามารถให้ยืมได้ แต่เมื่อลูกค้ายืม และไม่ได้โอนหุ้นออกไปจริง หุ้น PTT จำนวน 1 แสนหุ้นจึงยังปรากฏในพอร์ตโบรกเกอร์ และสามารถให้ยืมกับลูกค้ารายอื่นหมุนได้หลายรอบ

เช่น หุ้น PTT จำนวน 1 แสนหุ้น อาจให้ยืมไปทำ SHORT SELL ได้ถึง 5 รอบหรือ 5 แสนหุ้น

ปริมาณหุ้นที่จะถล่มขาย SHORT SELL จึงมีมากมายไร้ขีดจำกัด และสามารถทุบราคาหุ้นรายตัวจนหัวทิ่ม

คำถามคือ ตลาดหลักทรัพย์ปล่อยให้ธุรกรรมยืมหุ้นขาย SHORT เอาเปรียบนักลงทุนในประเทศได้อย่างไร ซึ่งลงโทษยึดเงินโบนัสผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์คืนย้อนหลังไหม

รายการ SHORT SELL กำหนดต้องแสดงเครื่องหมาย FLAG S ในคำสั่ง และห้าม SHORT SELL หุ้นในราคาเปิด

แต่ลูกค้าต่างประเทศที่มี ROBOT สามารถขาย SHORT ได้ในทันทีที่เปิดการซื้อขาย และไม่ต้องแสดงเครื่องหมาย FLAG S ใดๆ ทั้งที่ไม่มีหุ้นในมือด้วยซ้ำ

เพียงแค่อ้างว่า หุ้นที่สั่งขายมีอยู่จริง แต่ฝากไว้ที่คัสโตเดียนหรือผู้ดูแลเก็บรักษาหุ้นในต่างประเทศ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์หมดปัญญาตรวจสอบจากคัสโตเดียนว่า นักลงทุนต่างชาติที่สั่งขายหุ้นมีหุ้นฝากไว้จริงหรือไม่

มีเพียงฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรขั่น หรือ HSBC เท่านั้นที่เป็นคัสโตเดียนเพียงแห่งเดียวที่ให้ความร่วมมือกับ ก.ล.ต. สามารถตรวจสอบความมีอยู่จริงของหุ้นที่ลูกค้าขาย SHORT

แต่คัสโตเดียนในต่างประเทศ ก.ล.ต.หมดสิทธิตรวจสอบความมีอยู่จริงของหุ้นที่ขาย SHORT

นักลงทุนต่างชาติที่ขาย SHORT และอ้างว่ามีหุ้นฝากไว้ที่คัสโตเดียนในต่างประเทศ ส่วนใหญ่ "แหกตา" เป็นการทำ NAKED SHORT ทั้งสิ้น

ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ที่ออกมายืนกระต่ายขาเดียว ประกาศก้องโลกว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นเขตปลอด NAKED SHORT นั้น จึงเป็นคำพูดที่เลื่อนลอย เพราะไม่อาจตรวจสอบความมีอยู่จริงของหุ้นที่ลูกค้าขาย SHORT ได้

ธุรกรรมอุบาทว์ เอาเปรียบนักลงทุนในประเทศยังดำรงอยู่ โดยฉพาะ NAKED SHORT

ROBOT มีโบรกเกอร์ใหญ่เป็นตัวคอยช่วยเหลือ โดยวันใดที่รายการ NAKED SHORT เกิดความผิดพลาด สิ้นวันไม่มีหุ้นส่งมอบ จะขอความช่วยเหลือจากโบรกเกอร์ที่เปิดบัญชีไว้

ขอให้ช่วยจัดหายืมหุ้นมาส่งมอบ ซึ่งถ้าโบรกเกอร์ไม่มีหุ้นในพอร์ตจะติดต่อขอยืมหุ้นจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ซึ่งมีเพียง 2 โบรกเกอร์ใหญ่เท่านั้นที่มีสิทธิยืมหุ้นจาก กบข.

6 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ ROBOT บุกโจมตีตลาดหุ้นไทย นักลงทุนรายย่อยจำนวนเกือบ 3 ล้านคน แบกหุ้นต้นทุนสูงไว้เกือบ 6 แสนล้านบาท

วันนี้นักลงทุนรายย่อยในประเทศถูกกินจนเหลือแต่กระดูก แต่ ROBOT ยังคงไล่ล่า เข่นฆ่านักลงทุนอย่างไร้ความปรานี

ยังถล่มตลาดหุ้นไทยจนใกล้พังทลายแล้ว

รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นอกจากไม่มีมาตรการกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนแล้ว ยังปล่อยให้มหาวายร้าย ROBOT ลอยนวล ซ้ำเติมตลาดหุ้นให้เลวร้ายหนักลงไปอีก

นักลงทุนสิ้นแล้ว ได้แต่ยืนดูตลาดหุ้นซึมลง ทรุดลง และสุดท้ายคงพังครืน เพราะไม่มีใครเลยที่ใส่ใจกอบกู้ตลาดหุ้น ไม่มีใครสั่งปิดตาย ROBOT แม้จะเป็นหนึ่งในชนวนเหตุที่นำความพินาศมาสู่ตลาดหุ้นไทยก็ตาม








กำลังโหลดความคิดเห็น