xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์...ฐาน ROBOT โจมตีหุ้นไทยจนพินาศ (1) / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปัญหาการขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ หรือ NAKED SHORT ปัญหาโปรแกรมการซื้อขาย หรือ ROBOT TRADING หลังจากนักลงทุนลุกฮือขึ้นต่อต้าน จนหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหุ้นต้องกำหนดมาตรการควบคุมการซื้อขายผ่าน ROBOT ที่เข้มข้นขึ้น

นักลงทุนโดยทั่วไปต่างพากันเข้าใจว่า ปัญหา NAKED SHORT และปัญหา ROBOT ที่เอารัดเอาเปรียบนักลงทุน เล่นขี้โกงนักลงทุน โดยส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดกฎเกณฑ์และผิดกฎหมายคงหมดไปแล้ว

แต่ในความเป็นจริง เครื่องจักรสังหารนักลงทุนในประเทศยังคงทำงานอยู่ ROBOT ยังเป็นตัวมหาวายร้ายที่เอาเปรียบในทุกรูปแบบ แหกกฎ ฝ่าฝืนกติกาโดยไม่ยี่หระ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

พฤติกรรมการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือหรือ NAKED SHORT ยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่น เช่นเดียวกับการ SHORT SELL ที่สกปรก

และมาตรการควบคุมกำกับที่เข้มข้นของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ไม่อาจกวดจับ ปราบปราม ROBOT การทำ NAKED SHORT และ SHORT SELL ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้นักลงทุนในประเทศล้มตายกันเป็นเบือ เสียหายย่อยยับ จนต้องถอดใจถอยออกจากตลาดหุ้น

สัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะ 5-6 ปีที่ผ่านมา ทุกคนเล่นแล้วเสีย ถูก ROBOT ไล่สังหารอย่างไม่มีทางสู้ โดย ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ได้แต่ยืนดูพี่น้องนักลงทุนในประเทศถูกเข่นฆ่า

และวันนี้ยังกำราบ ปราบปรามปัญหา NAKED SHORT ซึ่งผิดกฎหมาย ควบคุมการทำ SHORT SELL ที่สกปรกไม่ได้

ขณะที่ ROBOT ยังคง "ขี่คอ" นักลงทุนในประเทศ โกยเงินจากตลาดหุ้นไทยขนกลับบ้านต่อไป ทิ้งความพินาศให้นักลงทุนในประเทศจำนวนเกือบ 3 ล้านคน

ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ร่วมกันออกกฎเกณฑ์มากมายเพื่อกำกับการซื้อขายของ ROBOT การ SHORT SELL และ NAKED SHORT

มีทั้งบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับโบรกเกอร์ที่ปล่อยผ่านคำสั่งที่ไม่เหมาะสม และมีระบบงานรับส่งคำสั่งที่มีประสิทธิภาพ กลั่นกรองคำสั่งโดยตรวจสอบเอกสารเพื่อยืนยันว่าลูกค้ามีหลักทรัพย์ตามคำสั่ง

มาตรการกำกับที่เข้มข้นขึ้นทำให้ทุกคนหลงคิดว่า ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ คงจะเอาอยู่ ควบคุมกำกับ ROBOT NAKED SHORT และ SHORT SELL ได้

แต่โบรกเกอร์ทั้ง 38 แห่ง ซึ่งสัมผัสกับการซื้อขายหุ้นทุกวัน รู้ความเป็นไปทุกอย่าง รู้ความเคลื่อนไหวของ ROBOT ติดตามคำสั่งซื้อขายอย่างเกาะติดใกล้ชิดรู้ดีว่า

ROBOT ยังคงเป็นตัวมหาวายร้าย ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นักลงทุนในประเทศ และสักวันหนึ่งนักลงทุนรายย่อยจะสูญพันธ์จากตลาดหุ้น ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในตลาดหุ้นสิงคโปร์

โบรกเกอร์ที่ติด TOP 5 หรือโบรกเกอร์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก มีอยู่ 3 รายที่มีลูกค้าต่างประเทศและส่งคำสั่งซื้อขายผ่าน ROBOT ซึ่งทั้งหมดแสดงฐานะเป็นนักลงทุนสถาบัน

ฐานที่ตั้งลูกค้าของ 3 โบรกเกอร์ที่เป็นตัวปัญหาของตลาดหุ้นไทยตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ โดยลูกค้าบางรายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของโบรกเกอร์ติดท็อปไฟว์แห่งหนึ่ง ซึ่งหากเสียลูกค้าไปเพียงรายเดียว โบรกเกอร์แห่งนั้น จะล่มสลายเพียงชั่วข้ามคืน

และโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ในท็อปไฟว์อีกรายมีลูกค้าเป็นคนเชื้อสายอินเดีย ซึ่งระดมเงินจัดตั้งเป็นกองทุนขึ้น และสร้างโปรแกรม ROBOT ส่งคำสั่งโจมตีหุ้นรายตัว โดยมีสัดส่วนมูลค่าซื้อขายประมาณ 10% ของมูลค่าซื้อขายโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ในท็อปไฟว์

ROBOT ได้เปรียบนักลงทุนในประเทศทุกประตู โดยต้นทุนค่านายหน้าซื้อขายต่ำกว่า เพราะจ่ายเพียงประมาณ 0.01% เศษเท่านั้น หรือมูลค่าซื้อขายหุ้น 1 ล้านบาท จ่ายค่านายหน้าเพียง 100 บาทเศษ

และยังได้เปรียบในความรวดเร็วการส่งคำสั่งซื้อขาย เพราะต่อท่อตรง หรือเชื่อมระบบซื้อขายตรงกับตลาดหลักทรัพย์ โดยยอมจ่ายค่าธรรมเนียม ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งกลายเป็นองค์กรที่มุ่งกำไรสูงสุด และนำผลกำไรมาใช้เป็นผลงาน เพื่อแจกจ่ายโบนัสกันงามๆ ในหมู่พนักงาน ยินดีเปิดท่อตรงให้ ROBOT โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของวนักลงทุนในประเทศ

เสียงตะโกนเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ ยกเลิกโปรแกรมการซื้อขาย หรือ ROBOT TRADING ซึ่งไม่ได้รับการตอบสนอง เป็นเพราะตลาดหลักทรัพย์มีผลประโยชน์ทับซ้อน

มหาวายร้าย ROBOT จึงยังคงไล่ทุบนักลงทุนในประเทศ ปล้นเงินจากตลาดหุ้นไทย ขนกลับบ้านปีละนับหมื่นนับพันล้านบาท

การซื้อขายที่สกปรกในรูปแบบ SHORT SELL การซื้อขายที่ผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งต้องห้ามของตลาดหุ้นทั่วโลก ในรูปแบบ NAKED SHORT ยังดำรงอยู่

คำถามคือ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ไม่รู้ไม่เห็นพฤติกรรมของมหาวายร้าย ROBOT บ้างเลยหรือ หรือรู้แล้วแต่ไม่ยอมแก้ไข

(พรุ่งนี้อ่านต่อ การ SHORT SELL ที่สกปรก การทำ NAKED SHORT ที่ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ไม่มีวันตรวจสอบได้)








กำลังโหลดความคิดเห็น