CEO หุ้น SABUY ประกาศผ่านเฟสบุ๊ก โต้ปมฉาว ตลท. แจงไม่พบข้อมูล Naked Short Sell หรือความผิดปกติ หลัง บมจ. สบาย เทคโนโลยี พบหุ้นหายไปอย่างปริศนากว่า 20 ล้านหุ้น ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายยืมหุ้นขาย พร้อมเตรียมรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายเข้าร้อง DSI ให้ตรวจสอบในสัปดาห์หน้า
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สบาย เทคโนโลยี หรือ SABUY โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก SABUY CEO เพื่อแจ้งกระบวนการรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายจากกรณีที่บริษัทสงสัยว่ามีการทำ Naked Short Sell ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 66 ซึ่งทำให้ราคาหุ้น SABUY เกิดความผันผวนอย่างมาก โดยจะนำรายชื่อทั้งหมดเข้ายื่นแจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ตรวจสอบในสัปดาห์หน้า หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยืนยันว่าไม่พบธุรกรรม Naked Short Selling
โดยในเพจ SABUY CEO ได้โพสต์ข้อความว่า สัปดาห์หน้าผู้ถือหุ้นที่คาดว่าเสียหายจากความผันผวนของราคาหุ้น SABUY ในช่วงเดือน ตุลาคม ซึ่งบริษัทกำลังเตรียมการจัดลงทะเบียนผ่านทางระบบออนไลน์เพื่อให้ลงชื่อในเว็บของบริษัท พร้อมเดินทางไปแจ้งความเพื่อตรวจสอบ Naked Short ที่ DSI โดยนายชูเกียรติจะเปิดเผยกรณีที่ SABUY เจอข้อมูลที่คาดว่ากองทุนนำหุ้นที่ฝากไว้ Custodian Bank ไปขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือหุ้นใหญ่ SABUY
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ SABUY ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นและตรวจสอบปริมาณหุ้นที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย.66 พบว่ามีหุ้นจำนวนหนึ่งของผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งหายไปเกือบ 20 ล้านหุ้น ทั้งที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายนี้ ไม่ได้มีการยินยอมอนุญาตให้มีการยืมหุ้นแต่อย่างใด แต่ได้มีการนำหุ้นจำนวนหนึ่งไปฝากไว้คัสโตเดียน ขณะที่พบปริมาณการซื้อขายที่ผิดปกติในช่วงนั้นใกล้เคียงกับจำนวนหุ้นที่ฝากไว้
นายชูเกียรติ เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า บริษัทมีหลักฐานที่ชี้ไปว่าพบการทำ Naked Short Sell ผ่านโบรกเกอร์ 2 ราย ซึ่งบริษัทได้ส่งให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปแล้ว แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันตรวจไม่พบ ดังนั้นบริษัทจะนำหลักฐานชิ้นนี้ไปมอบให้กับ DSI เพื่อตรวจสอบ พร้อมกับรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหาย โดยหวังว่าจะมีการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิด
“เราไม่ได้ติดใจที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจไม่พบ และเราคงไม่ได้ไปโต้แย้ง หรือเรียกร้องอีก แต่เราจะเดินหน้าแจ้งความต่อ DSI ให้ตรวจสอบต่อ ซึ่งจะรวมตัวกับผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหาย เข้าไปพบ DSI ในสัปดาห์หน้า โดยส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจในหลักฐานที่มี และเชื่อว่าตอนนี้บริษัทหลักทรัพย์ที่ก่อเรื่องไว้ก็น่าจะนอนไม่หลับแล้ว” นายชูเกียรติ กล่าว
ส่วนข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยหนังสือที่บริษัทได้แจ้งข้อมูลของนายอานนท์ชัย วีระประวัติ ที่ได้มีการโอนขายหุ้นจำนวน 20.585 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.11% ให้กับ GEM Global Yield LLC SCS (GEM) ซึ่งเป็นกองทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น
"ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับหลักฐานการทำ Naked Short Sell ที่บริษัทส่งไปให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจสอบ เพราะกรณีที่บริษัทแจ้งไป คือ ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ได้ฝากหุ้นไว้กับคัสโตเดียนจำนวน 100 ล้านหุ้นในช่วงต้นเดือน ต.ค.66 แต่พบว่าหุ้นหายไป 20 ล้านหุ้นทั้งที่ไม่ได้อนุญาตให้ทำธุรกรรมใด ๆ และไม่ได้ขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด" นายชูเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย