คลังขับเคลื่อนตลาดทุน เคาะปรับเกณฑ์ Thai ESG ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท จากเดิม 1 แสนบาท ระยะเวลาถือครอง 5 ปี เดิม 8 ปี ลงทุนหุ้นใน SET/MAI ด้าน ESG ครอบคลุมหุ้น 200 ตัว จากเดิม 128 ตัว คาดชง ครม. ในอีก 2 สัปดาห์ มีผลในปี 2567
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมแถลงมาตราการขับเคลื่อนตลาดทุน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ตลท. และ ก.ล.ต. ได้ปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund: TESG fund) เพื่อขับเคลื่อนตลาดทุน ยกระดับความเชื่อมั่น และ สนับสนุนการออมให้ประชาชน โดยกระทรวงการคลังคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์
“การปรับเงื่อนไข ThaiESG ครั้งนี้คาดว่าจะเริ่มให้ลงทุนได้ในเดือน ก.ค.67 ซึ่งคาดจะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 3-4 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับ Thai ESG ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินการเพียง 1 เดือน และมีเม็ดเงินลงทุน 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การดำเนินการปรับเงื่อนไขกองทุนดังกล่าวจะส่งผลต่อการสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 13,000 ล้านบาท”
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า รายละเอียดของการปรับเงื่อนไข ThaiESG ใหม่มีดังนี้
1.ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมสูงสุด 100,000 บาท
2.ระยะเวลาถือครอง 5 ปี (นับจากวันที่ซื้อ) จากเดิม 8 ปี
3.ต้องลงทุนใน (1) หุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) / ESG หรือเปิดเผยข้อมูล ก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน cg rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G) ในระดับ และรูปแบบที่ ก.ล.ต. กำหนด (2) ESG Bond และ (3) Green Token (4) หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากลมากกว่า 80% จากเดิมส่วนใหญ่เน้นที่ ESG Bond และ Green Token เท่านั้น
การปรับเงื่อนไขครั้งนี้ครอบคลุมหุ้น 200 ตัวจากเดิน 128 ตัว โดยหลังจากได้รับการอนุมัติจาก ครม. แล้ว จะมีการประกาศเงื่อนไขของหุ้นที่จะสามารถซื้อได้ภายใน 2 สัปดาห์ และหาก ครม. อนุมัติแล้วจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567”
ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คาดว่าการปรับเงื่อนไข ThaiESG ในครั้งนี้จะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนประมาน 40,000-50,000 ล้านบาท