xs
xsm
sm
md
lg

ยาแรงหยุดหุ้นตก..เลิกขาย SHORT-ROBOT / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาตรการ UPTICK RULE หรือมาตรการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหุ้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าความหวังของมาตรการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน และการปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้นดับสลายลงแล้ว

เพราะดัชนีหุ้นยังคงปักหัวลง ไม่สนองตอบมาตรการแต่อย่างใด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง และขายติดต่อกันเกือบ 30 วันทำการแล้ว โดยตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไม่มีการซื้อหุ้นแม้แต่วันเดียว

UPTICK RULE มีเป้าหมายเพื่อลดการ SHORT SELL หรือการยืมหุ้นมาขายในลักษณะการทุบราคาหุ้น ซึ่งเชื่อกันว่าตลาดหุ้นที่พังพาบมาต่อเนื่องยาวนานนับปีเป็นผลจากการทำ SHORT SELL การใช้โปรแกรมการซื้อขายหรือ ROBOT TRADE และการทำ NAKED SHORT หรือการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ

แต่สภาพตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาตอบรับกับมาตรการกระตุ้นการลงทุนแต่อย่างใด ดัชนีหุ้นยังคงปักหัวลงเหมือนเดิม และนักลงทุนต่างชาติยังขายไม่เลิก

หุ้นรายตัวที่ดิ่งลงหนักมีสัดส่วนการซื้อขายด้วย ROBOT หลายสิบเปอร์เซนต์ ขณะที่สัดส่วนการซื้อขายของ ROBOT ยังคงมีมากกว่า 40% ของมูลค้าการซื้อขายรวมของตลาด

และรายการ SHORT SELL ยังไม่มีสัญญาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด

การเล่นหุ้นขาลง โดยการขาย SHORT และการเล่นหุ้นโดยการเอาเปรียบนักลงทุนในประเทศ ทั้งการทำ NAKED SHORT รวมทั้งการใช้ ROBOT นักลงทุนในประเทศเชื่อว่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยจมดิ่ง สวนทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดีดตัวขึ้น

แต่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ยอมฟังเสียงเรียกร้องของนักลงทุนที่เสนอให้ยกเลิกการซื้อขายด้วย ROBOT ซึ่งจะช่วยตัดตอนการทำ NAKED SHORT และระงับธุรกรรม SHORT SELL เพื่อยุติการหากำไร จากวิธีการทุบหุ้นลง

ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ลองผิดลองถูกมาหลายครั้งแล้ว โดยการปรับปรุงมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายด้วย ROBOT การทำ SHORT SELL และการควบคุมตรวจสอบรายการ NAKED SHORT

แต่ทุกมาตรการที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ไม่อาจปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้น ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแนวโน้มตลาดหุ้นให้กลับมาสู่ขาขึ้น

ไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนในประเทศ และไม่อาจหยุดยั้งการเทขายของต่างชาติได้

UPTICK RULE และมาตรการการกำกับการซื้อขายผ่าน ROBOT ที่เข้มงวดขึ้นกลายเป็นยาหมดอายุ เสื่อมคุณภาพ โดยยังไม่เห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดีใดๆ กับตลาดหุ้น

ถ้าไม่มียาแรง ไม่มีมาตรการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดเพื่อหยุดยั้งการดิ่งลงของตลาด และยุติการถล่มขายอย่างบ้าคลั่งของนักลงทุนต่างชาติ รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. และนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ จงนั่งดูดัชนีห้นปักหัวลงต่อไป

ดูฝรั่งทุบหุ้นจนพินาศคาตา

และยืนดูนักลงทุนในประเทศวอดวายหมดเนื้อหมดตัวเดินออกจากตลาดหุ้น

UPTICK RULE สิ้นฤทธิ์แล้วตั้งแต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ รัฐบาล ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ต้องเตรียมสุมหัวกันครั้งใหม่ หามาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการลงทุนให้ฟื้นให้สำเร็จ

ยาแรงเม็ดสุดท้ายเพื่อหยุดหุ้นตก ยุติการถล่มขายขายทุบราคาหุ้นของต่างชาติ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเลิก SHORT SELL ห้าม ROBOT TRADE








กำลังโหลดความคิดเห็น