หุ้นไทยปิด +5.98 จุด นักวิเคราะห์เผยแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารเข้าหนุนหุ้นไทย การคาดการณ์ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยระดับสูงนานขึ้น นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่มยังปรับตัวเพิ่มขึ้นรับอัตราประกาศค่าแรงใหม่ของรัฐบาล แนะจับตาผลการประชุมเฟดและการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งติดตามการรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียนไทย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 เมษายน 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.98 จุด หรือ +0.44% โดยปิดตลาดที่ 1,367.95 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,796.03 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวแดนบวกโดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,372.85 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,363.21 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 292 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 197 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 168 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,316.78 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -252.85 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,594.19 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +975.44 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,016.93 ล้านบาท ปิดที่ 57.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,841.07 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,776.47 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,598.96 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,572.41 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 197.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 1.03%
2.SCC ปิดที่ 251.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.80%
3.GPSC ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.09%
4.TOA ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 3.35%
5.RATCH ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.68%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 3.75บาท หรือ 5.08%
2.AEONTS ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.86%
3.BH ปิดที่ 246.00 บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.81%
4.HANA ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง- 0.75บาท หรือ 1.91%
5.SISB ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75บาท หรือ 1.90%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,856.35 จุด เพิ่มขึ้น 8.79 จุด หรือ 0.48% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 837.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.89 จุด หรือ 0.47% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 395.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ 0.50%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งตัวบวกดีกว่าที่คาดว่าจะแกว่งกรอบแคบเนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุด โดยวันนี้มีแรงซื้อกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม โดยกลุ่มธนาคารมีแรงซื้อจากการคาดการณ์ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยระดับสูงนานขึ้น
ขณะที่กลุ่มอาหารได้แรงหนุนจากราคาหมูและราคาไก่ที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์หมูเถื่อนคลี่คลาย ขณะที่เครื่องดื่มปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องหลายวันจากสภาพอากาศร้อน และคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/67 จะเติบโตสูงที่สุด
"แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.) คาดดัชนีแกว่งในกรอบแนวรับ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,375 จุด ติดตามผลการประชุมเฟด และการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งติดตามการรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ ขณะที่ในประเทศติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียน" นายศราวุธ กล่าว