xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดเก็งงบหุ้นกลุ่มสื่อสาร หนุนหุ้นไทยปิด +2.03 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิด +2.03 จุด นักวิเคราะห์เผย ตลาดหุ้นแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบแคบๆ แม้มีปัจจัยลบเข้ากดดันจากการรายงานตัวเลขส่งออกไทยเดือน มี.ค.ที่ลดลง และมีการปรับลดประมาณการ GDP ไทยลง หลังจากที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าค่อนข้างมาก แต่ยังมีแรงซื้อเข้ามาหนุนในหุ้นกลุ่มสื่อสาร เก็งกำไรแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้น ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้าน 1,365 จุด และแนวรับ 1,350 จุด แนะติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 29 เมษายน 2567 ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.03 จุด หรือ +0.15% โดยปิดตลาดที่ 1,361.97 จุด มูลค่าซื้อขาย 36,381.38 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบสลับกัน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,364.70 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,355.36 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 297 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 172 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 186 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,278.46 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +556.83 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +284.67 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +436.96 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,897.72 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,889.54 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 3.75 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,671.05 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,172.19 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,118.23 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 197.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 1.03%
2.SCC ปิดที่ 251.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ0.80%
3.GPSC ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ2.09%
4.TOA ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ3.35%
5.RATCH ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ2.68%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 3.75บาท หรือ 5.08%
2.AEONTS ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.86%
3.BH ปิดที่ 246.00 บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.81%
4.HANA ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง- 0.75บาท หรือ 1.91%
5.SISB ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75บาท หรือ 1.90%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,847.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด หรือ 0.09% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 834.08 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด หรือ 0.05% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 393.29 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด หรือ 0.53%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากการรายงานตัวเลขส่งออกไทยเดือน มี.ค.ที่ลดลง และมีการปรับลดประมาณการ GDP ไทยลง ซึ่งกดดันดัชนีอยู่บ้าง แต่ยังสามารถปลับมายืนบวกได้ จากการมองว่ามีโอกาสที่ในระยะต่อไปภาพรวมของปัจจัยทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งออกจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา หลังจากที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างมาก

ขณะเดียวยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร ซึ่งเก็งกำไรแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ สามารถช่วยพยุงดัชนีกลับมาแดนบวกได้ แม้ว่ายังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ และมีแรงกดดันจากหุ้น DELTA หลังรายงานงบฯไตรมาสแรกออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่ายังคงแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องรอติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน เม.ย. เป็นต้น โดยให้แนวต้าน 1,365 จุด แนวรับ 1,350 จุด" นายเทิดศักดิ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น