หุ้นไทยปิดร้อนแรง +25.53 จุดหลังปิดต่อเนื่อง 3 วัน กลับมายืนเหนือ 1400 จุดได้สำเร็จอีกครั้ง นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยรีบาวด์ขึ้นมาร้อนแรง รับปัจจัยบวกระยะสั้นจากการที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเฉฉพาะการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ทำให้กลุ่มอสังหาฯปรับตัวขึ้น ซึ่งภาพรวมของราคาหุ้นไทยยังถูกและน่าลงทุนอยู่มาก นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากการที่ ตลท.เปิดข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน ทำให้เป็นสัญญาณที่ดีกับความเชื่อมั่นตลาด ประเมินภาพการลงทุนวันพรุ่งนี้ กรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,380 จุด และ แนวต้านที่ 1,415 จุด แนะจับตาความชัดเจนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 9 เม.ย. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า +25.53 จุด หรือ +1.86% โดยปิดตลาดที่ 1,401.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,387.73 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงในการซื้อขายภาคบ่าย โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,401.11 จุด ในทิศทางขาลงกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,376.83 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 342 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 169 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 149 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +6,037.79 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +20.74 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -5,656.29 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -402.24 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.NEO มูลค่าการซื้อขาย 3,517.92 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.25 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,009.20 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,971.66 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,704.41 ล้านบาท ปิดที่ 207.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,659.69 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่259.00บาท เพิ่มขึ้น 5.00บาท หรือ 1.97%
2.DELTA ปิดที่77.25บาท เพิ่มขึ้น 4.25บาท หรือ 5.82%
3.BBL ปิดที่ 141.00บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.55%
4.ADVANC ปิดที่ 207.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 1.47%
5.SCB ปิดที่115.00บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.22%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.MEGA ปิดที่41.25 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ -2.37%
2.SAPPE ปิดที่ 88.00 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.12%
3.AEONTS ปิดที่156.00บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 0.64%
4.MOSHI ปิดที่ 54.75 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 0.90%
5.BCH ปิดที่ 20.60 บาท ลดลง 0.40บาท หรือ 1.90%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,912.13 จุด เพิ่มขึ้น 39.78 จุด หรือ 2.12% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 864.86 จุด เพิ่มขึ้น 18.72 จุด หรือ 2.21% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 397.79 จุด เพิ่มขึ้น 3.04 จุด หรือ 0.77%
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ขึ้นมาได้ดี โดยปรับตัวขึ้นในหุ้นทุกกลุ่ม โดยปัจจัยบวกระยะสั้นมาจากที่ในวันนี้เป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีกับตลาดซึ่งเมื่อตลาดมีความชัดเจนทำให้นักลงทุนคลายความกังวลได้
ขณะที่การที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ได้มีการเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการกระตุ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ทำให้กลุ่มอสังหาฯปรับตัวขึ้น ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยยัง Laggard มาก เมื่อมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็น Sentiment บวกให้กับตลาดได้
"แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ โดยนักลงทุนรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รวมทั้งการแถลงความชัดเจนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในวันพรุ่งนี้โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,380 จุดและแนวต้าน 1,415 จุด" นายเบญจพล กล่าวทิ้งท้าย