xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ได้ฤกษ์ปลุกอสังหาฯ จ่อเข็น "บ้านล้านหลัง 1.5 ล้าน-ซอฟต์โลน-ลดขนาดที่ดินจัดสรร" คาดดันตลาดเติบโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จับตาไตรมาส 2 รัฐบาลเตรียมเข็นมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ทั้งบ้านล้านหลัง ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนเกณฑ์สร้างบ้านในโครงการจัดสรร ยอมรับข้อเสนอผ่อนปรน LTV ถูกปัด ทำให้ตลาดกลุ่มบ้านหลังที่สองและสามชะลอตัวลง ลุ้นปลายปี 67 มีมาตรการจากภาครัฐ หนุนภาพรวมตลาดอสังหาฯ เติบโตได้ราว 10% ด้าน 'อนุทิน ชาญวีรกูล' ลั่นพร้อมจะกระตุ้นทุกอย่าง ปัดเรื่องภาษีที่ดินยังไม่เห็น ผู้ประกอบการขนกว่า 1,000 โครงการ กว่า 3 แสนล้านบาท ร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 คาดสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้าน ต่อเนื่องไตรมาส 2 เติบโตได้อีก 2-3 เท่า ชี้ ตลาดบ้านหรู 10 ล้านขึ้น มาแรง

วานนี้ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้ร่วมเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีผู้ประกอบการมากกว่า 150 บริษัท ร่วมโครงการอสังหาฯ ทุกรูปแบบ ทุกราคา ทุกทำเล มานำเสนอแก่ผู้บริโภคกว่า 1,000 โครงการ คิดเป็นมูลค่าของโครงการทั้งหมดภายในงานจะมากถึง 3 แสนล้านบาท ซึ่งจัดงานระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2567 ณ Exhibition Hall 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการมหาดไทย ในฐานะประธานในพิธีเปิดงาน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องของการปรับแก้ไขเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังจากที่กระทรวงการคลังเตรียมหารือกับทางกระทรวงมหาดไทยว่า ยังไม่ได้รับการประสานหรือมีเรื่องขึ้นมาถึงตน โดยในส่วนของมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น เราพร้อมที่จะกระตุ้นทุกอย่าง และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ

สำหรับในส่วนของภาครัฐก่อนหน้านี้ได้มีการหารือ และนโยบายเกี่ยวกับเรื่องการจัดผังเมือง การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นปัจจุบันให้มากที่สุด เช่น ประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ขณะที่มีคนเจนใหม่เข้ามามีบทบทในการขับเคลื่อนสังคม อีกทั้งความต้องการพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เหล่านี้ถือเป็นประเด็นสำคัญลำดับต้นๆ ในตอนนี้ที่จะต้องมีการวางผังเมืองให้รองรับวิถีชีวิตสังคมผู้สูงอายุไทยในอนาคต ให้เกิดความสะดวกสบาย

"ปัจจุบันดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา สำหรับในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2566 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 โดยมีผลมาจากปัจจัยของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นับเป็นช่วงปีที่ท้ายทายสำหรับเหล่าผู้ประกอบภาคอสังหาฯ" นายอนุทิน กล่าว


รัฐบาลเตรียมเข็นมาตรการปลุกอสังหาฯ
ยอมรับ ธปท.ดับฝัน LTV ฉุดตลาดลง


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในไตรมาสแรกของปี 2567 จะเหมือนไตรมาส 4 ของปี 2566 ที่ผ่านมา ที่ยังทรงๆ ตัว หรือแม้แต่ครึ่งแรกของปีนี้จะมีภาพเหมือนครึ่งหลังของปี 2566 เช่นกัน เรากำลังรอปัจจัยกระตุ้นอสังหาฯ ที่จะทำให้มีการเติบโตได้ในครึ่งหลังของปี 2567

"ปัจจัยที่เคยนำเสนอ 8 มาตรการต่อนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ มีเรื่องของมาตรการ LTV ซึ่งทางแบงก์ชาติฟันธงไม่ยืดหยุ่น ไม่เห็นด้วย เงื่อนไขตรงนี้ มีผลทำให้สินเชื่อตลาดบ้านหลังที่สองและสามหายไปเยอะ เพราะไม่ได้ถูกส่งเสริม ทำให้ตลาดไม่ได้บวกเยอะ จากที่รัฐบาลจะใช้ภาคอสังหาฯ กระตุ้นจีพีดี แต่คิดว่าในครึ่งปีแรกน่าจะมีมาตรการกระตุ้นออกมาประมาณ 2-3 ข้อ และมาตรการที่เหลือตนคิดว่าน่าจะไปออกในช่วงปลายปี 67 เพราะยังมีกระบวนการต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น พิจารณาขยายสิทธิการเช่าระยะยาว แต่มีความเชื่อมั่น การขับเคลื่อนมาตรการที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขยายเพดานของบ้านล้านหลัง ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับบ้านหลังแรก (ซอฟต์โลน) ร้อยละ 3 เป็นเวลา 5 ปีจากสถาบันการเงินของรัฐ และโอกาสในเรื่องการลดขนาดที่ดินของโครงการจัดสรรให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ขนาดครอบครัว ราคาที่ดิน ค่าก่อสร้าง ให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยการลดขนาดบ้านเดี่ยว น่าจะเป็นแรงส่งให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เติบโตได้ราวร้อยละ 10 เช่นเดียวกับยอดขายที่น่าจะมีการขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม ที่ผู้ประกอบการมีการเปิดตัวและพัฒนาโครงการคอนโดฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา"

ตลาดบ้านหรู 10 ล้านบาทขึ้นมาแรง

นายภูมิภัทร พรหมมา ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 กล่าวว่า ในช่วงต้นปีมองสถานการณ์ว่ามีผู้ประกอบการหลายรายยังคงชะลอแผนการเปิดขายโครงการใหม่ และชะลอการซื้อที่ดินเปล่าสะสมเพื่อการพัฒนา ทำให้ต่างนำโปรดักต์ที่มีอยู่มากระหน่ำจัดแคมเปญ ขณะที่สินค้าที่จะปล่อยง่าย จะอยู่ในกลุ่มบ้านหรู ราคา 7-10 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากกลุ่มตลาดราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยหนี้ครัวเรือนที่สูง ความเข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร และมาตรการ LTV ที่ไม่ได้รับการอนุมัติ แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสไปต่อไป

"หากมองภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 ในช่วง 2 เดือนที่เปิดปีมา มีผู้ประกอบการมากมายต่างรวมใจกันออกมาส่งโปรโมชัน และแคมเปญจำนวนมาก เพื่อรองรับและช่วยเหลือลูกค้ามากที่สุด ทำให้ตลาดมีความคึกคัก ทั้งนี้ ในปีนี้เรายังคงต้องจับตาดูปัจจัยสภาพการณ์"

ส่วนภายนอกประเทศ เช่น ภาวะดอกเบี้ย สงครามความขัดแย้ง ฟรีวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติ หรือแม้แต่ภัยพิบัติ อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้ต่างชาติอยากย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะปรับให้ตลาดกลับมาเป็นเชิงบวก และมีโอกาสโตในช่วงปลายปีได้


ได้ลุ้นหลังงานยอดขายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

ทั้งนี้ ทาง 3 สมาคมคาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 ประมาณ 50,000-80,000 คน โดยจะมีสัญญาจะซื้อจะขายเกิดขึ้นภายในงานครั้งนี้ราว 1,000 สัญญา ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสามารถส่งแรงกระตุ้นต่อเนื่องให้เกิดการซื้อขายตามมาอีก 3 เดือน คาดการณ์ยอดขายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

"การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด เพื่อเป็นเวทีช่วยให้คนไทยที่อยากมีบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น และผู้ประกอบการมีโอกาสในการปล่อยสินค้า มียอดจองซื้อขายทั้งภายในงานและต่อเนื่องหลังงานถึงหลักพันล้านบาท งานดังกล่าวจะกลายเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดการเติบโตของวงการอสังหาฯ และของเศรษฐกิจโดยรวม" นายภูมิภัทร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น