xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิดที่ระดับ 35.18 แกว่งตัว sideway รอปัจจัยใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย 
เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (21 พ.ย.) ที่ระดับ 35.18 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.13 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-35.30 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.07-35.29 บาทต่อดอลลาร์) ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากโซนแนวรับ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากเงินดอลลาร์โดยรวมยังคงแกว่งตัว sideway เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ขณะเดียวกัน บรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk-On) ทำให้เงินดอลลาร์ยังไม่เป็นที่ต้องการของผู้เล่นในตลาดมากนัก

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทเราคงมุมมองเดิมว่า โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนั้นอาจชะลอลงได้บ้าง และเงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideway ไปก่อน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลักในช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง ทั้ง BOE และ ECB รวมถึงรายงานการประชุมเฟดล่าสุดอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้บ้าง

นอกจากนี้ เรามองว่าควรระวังความผันผวนในตลาด หลังผู้เล่นในตลาดรับรู้ผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งอาจกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมได้ โดยหากผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด กดดันให้หุ้น Nvidia รวมถึงหุ้นเทคฯ ใหญ่อื่นๆ อาจปรับตัวลงหนัก อาจทำให้บรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งจะหนุนให้เงินดอลลาร์สามารถรีบาวนด์แข็งค่าขึ้นได้บ้าง

สำหรับโซนแนวรับ-แนวต้านนั้นเรายังคงประเมินว่า โซนแนวรับหลักของเงินบาทยังคงเป็นโซน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะที่แนวต้านสำคัญอาจอยู่ในช่วง 35.30 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ

สำหรับวันนี้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจอาจมีไม่มาก ทำให้ผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจต่อถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธาน ECB ในช่วง 23.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย หลังล่าสุด ผู้เล่นในตลาดเริ่มคาดหวังว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยลงได้ราว -1% ในปีหน้า และอาจเริ่มการลดดอกเบี้ยได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า

และนอกเหนือจากถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบริษัทเทคฯ ใหญ่ สหรัฐฯ อย่าง Nvidia (รับรู้ในช่วงหลังตลาดปิดทำการ) รวมถึงรายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) ที่จะรับรู้ในช่วงเช้าตรู่ราว 2.00 น.ของวันพุธนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น